พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ แถลงเรื่องค่าไฟแพงหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้ดูแลผู้ใช้ไฟไม่เกิน 100 หน่วย 300 หน่วย และ เพิ่ม 500 หน่วยอีกกลุ่ม โดยใช้งบประมาณภาษีของประชาชนอีก 10,700 ล้านบาท ส่ง กกต.พิจารณา เป็นการหาเสียงเฉพาะหน้าไปอีกงานแต่ไม่ได้แก้ปัญหา “โครงสร้างไฟฟ้าแพง” ที่เกิดจาก “นโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาล” กลับเอาเงินภาษีประชาชนไปชดเชยให้การไฟฟ้าอีกหมื่นกว่าล้านบาท

คุณอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกสำนักนายกฯแถลงว่า การอุ้มค่าไฟแพงครั้งนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย ช่วยเหลือ 4 เดือน (งวด พ.ค.–ส.ค.) คาดว่าจะมีประชาชนได้รับประโยชน์ 18.36 ล้านคน ใช้เงินภาษี 7,206 ล้านบาท และ กลุ่มที่ใช้ไฟไม่เกิน 500 หน่วย ที่เพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 23.4 ล้านคน ช่วยเหลือ 1 เดือน เฉพาะเดือนพฤษภาคม ใช้เงินภาษี 3,510 ล้านบาท รวมเป็นเงินภาษีของคนไทยทั้งสิ้น 10,716 ล้านบาท

ฟังดูเหมือนแก้ปัญหาให้กับประชาชน แต่จริงๆแล้วไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย เป็นการนำเงินภาษีของประชาชน 10,716 ล้านบาทไปจ่ายเป็นค่าไฟฟ้าแทนประชาชน ส่วนการไฟฟ้า 3 แห่ง บริษัทผลิตไฟฟ้าเอกชน ได้รับเงินค่าไฟแพงเต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าเดิม ปัญหาค่าไฟแพงของไทย ไม่ได้เกิดจากต้นทุนราคาก๊าซเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานเป็นผู้กำหนด เมื่อไม่แก้ปัญหาค่าไฟแพงที่โครงสร้าง ค่าไฟก็ต้องแพงอย่างนี้ตลอดไป การเอาเงินภาษีของประชาชนไปช่วยอุ้มค่าไฟชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย

ลองไปดู โครงสร้างค่าไฟหน่วยละ 4.77 บาท งวด พ.ค.–ส.ค. 2566 ที่ คุณคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการ กกพ. แถลงวันก่อนได้ครับ ค่าไฟฟ้าหน่วยละ 4.77 บาท เราต้องจ่ายเป็นค่าอะไรบ้าง 1.ค่าเชื้อเพลิงทุกประเภทเฉลี่ย 2.74 บาท/หน่วย 2.ค่าโรงไฟฟ้าเพื่อรักษาความมั่นคงของระบบ (ค่าความพร้อมจ่ายโดยไม่ต้องเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า) 76 สตางค์/หน่วย 3.ค่าต้นทุนระบบจำหน่าย 51 สตางค์/หน่วย 4.ค่าภาระหนี้เชื้อเพลิงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ 35 สตางค์/หน่วย 5.ค่าต้นทุนระบบส่งไฟฟ้าให้ผู้ใช้ 24 สตางค์/หน่วย 6.ค่าใช้จ่ายตามนโยบายภาครัฐ เช่น ค่า Adder (ที่จ่ายหน่วยละ 6-8 บาท เพิ่มจากค่าไฟฟ้าฐานให้โรงไฟฟ้าโซลาร์และลมของเอกชนที่ได้สัมปทาน) ค่าไฟฟ้าฟรีสำหรับผู้มีรายได้น้อย ประมาณ 16 สตางค์/หน่วย

...

เห็นไหมครับ สารพัดค่าใช้จ่ายของการไฟฟ้าที่คนไทยต้องจ่ายแทน โดยถูกบวกเข้าไปในค่าไฟ 1 หน่วย ทุกวันนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เกือบเป็นเสือนอนกินไปแล้ว เพราะผลิตไฟฟ้าเองแค่ 34% ที่เหลือซื้อไฟฟ้าจากเอกชน ซื้อมาแพงก็ขายแพง และบวกกำไรเข้าไปอีก แต่ที่น่าช้ำใจก็คือ ซื้อไฟมาถูกแล้วขายแพงให้ประชาชน เช่น ไฟฟ้าหลังน้ำที่ซื้อจากลาวหน่วยละ 2 บาท แต่มาขายคนไทยหน่วยละ 4.77 บาท กินส่วนต่างกว่า 138.5 เปอร์เซ็นต์ มีอะไรที่ค้าขายกำไรดีแบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็รู้อยู่แก่ใจดี

แต่ ภาระค่าไฟของประชาชนไม่ได้จบที่หน่วยละ 4.77 บาท เพราะ ผู้ใช้ไฟเกิน 400 หน่วยขึ้นไป (ซึ่งเกินทุกบ้านอยู่แล้ว) ยังถูก 2 เสือนอนกิน การไฟฟ้านครหลวง และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค คิดค่าไฟส่วนที่เกิน 400 หน่วย ใน “อัตราก้าวหน้า” จึงไม่แปลกที่ ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟจากหลักพันเป็นหลักหมื่น จนต้องมาโพสต์ “ด่ารัฐบาลลุงตู่” กันทั้งประเทศ

ผมเห็นด้วยกับทุกพรรคที่เสนอให้ “ยกเลิกค่า Ft” เพราะ ค่า Ft ปัจจุบัน คือ การปล้นประชาชน โดย นำสารพัดค่าใช้จ่ายของการไฟฟ้ามามัดรวมให้ประชาชนเป็นคนจ่ายแทนอย่างไม่เป็นธรรม รวมทั้ง ค่า adder ที่รัฐบวกเพิ่มให้โรงไฟฟ้าเอกชนด้วย.

“ลม เปลี่ยนทิศ”