พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรครวมไทยสร้างชาติ การบริหารราชการแผ่นดินจำเป็นต้องมีผู้แทนในสภา ถ้าเรามีไม่มากพอเสียงก็เบาเกินไป ที่ผ่านมาได้ทำหลายอย่างให้ปรากฏ
“แต่ยอมรับบางอย่างอาจไม่ดีมากนัก เพราะเป็นรัฐบาลผสมมาจากหลายพรรค แต่ถ้าเป็นของตนและสามารถสั่งคนเดียวได้คงไม่เป็นแบบนี้”
“อยู่มานานคนอาจจะเบื่อ ไม่รู้ต้องไปทำหน้าใหม่ไหม”
นั่นแหละที่เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่าด้วยดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือประธานาธิบดี ที่มีความพยายามในการกำหนดกรอบเวลาในการทำหน้าที่ อย่างสหรัฐอเมริกา ได้วางวาระเอาไว้ที่ 2 สมัย
สมัยละ 4 ปี ครบ 8 ปีก็ไม่สามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้
ตัวเลข 8 ปีจึงน่าจะเหมาะสมที่สามารถบริหารประเทศได้เป็นชิ้นเป็นอันอย่าง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่เป็นนายกฯครบ 8 ปี
“ผมพอแล้ว”...
“ป๋าเปรม” บอกกับ พล.อ.ชาติชาย ซึ่งมีเสียงสนับสนุนในสภาที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่รู้ว่าถ้าเป็นคนอื่นจะคิดอย่างไรแต่ท่านตอบปฏิเสธ
นี่จึงเป็นแบบอย่างของนักการเมืองที่รู้จักพอ และทำให้เดินออกจากสนามการเมืองอย่างสง่าผ่าเผย
และไม่ต้องมาบ่นว่าอยู่มานานคนอาจจะเบื่อ
จริงๆแล้ว พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมา 8 ปีแล้ว ซึ่งใครๆก็บอกว่าน่าจะพอแล้ว ผลงานที่ทำมาก็มีไม่น้อย หาก “ปล่อยวาง” เสียก็ไม่ต้องมาเหนื่อยอย่างที่เห็นๆอยู่
“บิ๊กตู่” ตอบคำถามว่าทำไมต้องเป็นต่อ เพราะยังมีงานที่ทำยังไม่เสร็จ ซึ่งก็ไม่ชัดเจนว่างานอะไร และมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน
แต่อย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือบรรดาพวกที่ล้อมหน้าล้อมหลังดันก้นให้เดินหน้าต่อไป ซึ่งก็ไม่มีหลักประกันว่าจะสำเร็จหรือไม่
...
ที่สำคัญก็คือเมืองไทยยังมีคนที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งสามารถเข้ามาทำหน้าที่ได้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
บรรดาแคนดิเดตนายกฯของพรรคการเมืองที่กำลังหาเสียงกันอย่างดุเดือดก็มีหลายคนที่เข้าท่าเข้าทาง
บางคนเก่งกว่า “บิ๊กตู่” เสียอีก
ประเด็นก็คือถนนทุกสายกำลังไปสู่ประชาธิปไตยเต็มใบ หากให้ทุกอย่างเดินตามครรลองประชาธิปไตย
ก็จะไม่มีปัญหา “เผด็จการซ่อนรูป” ที่ถูกโจมตีนำมาซึ่งความขัดแย้งไม่รู้จบ ความจริงรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจ
อยู่มาได้ 8 ปีก็ถือว่านานเกินความคาดหมายแล้ว ดังนั้นเมื่อคิดจะเล่นต่อไปก็ต้องเจอพายุการเมืองที่แรงขึ้นเรื่อยๆ
อีกทั้งแม้จะเจอแรงเสียดทานมาก แต่ก็ทำให้กลายเป็น “ทิฐิ” คือ ยอมแพ้ไม่ได้ จะต้องหาวิธีที่จะเอาชนะในเกมนี้
ทุกอย่างจึงหนีไม่พ้นความขัดแย้ง
ไม่มีทางก้าวผ่านไปได้!
“สายล่อฟ้า”