ผมเพิ่งพยายามรู้จัก โอโช คือใคร หลังได้หนังสือที่สำนักพิมพ์แสงดาวส่งมาให้สามเล่ม ประโยคบอกเล่าที่เหมือนเป็นคำวิจารณ์จากหนังสือพิมพ์อินเดียฉบับหนึ่ง...ในปกหลังหนังสือเล่ม ตื่น-รู้-แจ้งว่า

เขาเป็น 1 ใน 10 คน รวม คานธี เนห์รูและพระพุทธเจ้า ที่เป็น ผู้เปลี่ยนแปลงความเป็นอินเดียของประเทศอินเดีย

ลองอ่าน ความคิดเรื่อง “รัฐบาล” อีกสักเรื่อง แล้วค่อยมาสรุปกันว่า แท้จริง โอโชเป็นใครกันแน่

รัฐบาลคือเกมอย่างหนึ่ง เป็นเกมสกปรกและน่ารังเกียจที่สุดในโลก แต่ก็มีคนที่มีสติในภาวะต่ำสุดที่เพลิดเพลินอยู่กับมัน คนเหล่านี้ คือนักการเมือง

ความสุขอย่างเดียวของนักการเมืองคือการได้ปกครอง ได้อยู่ในอำนาจและกดขี่ผู้คน ความต้องการอันยิ่งใหญ่ที่สุดของคนทั้งหลาย ที่มาถึงระดับสูงสุดแห่งการตระหนักรู้ด้วยสติคือ

ความใฝ่ฝันว่าวันหนึ่งเราสามารถกำจัดรัฐบาลทั้งหลายออกไปได้

แล้ววันนั้นจะต้องเป็นวันที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นวันที่ยอดเยี่ยมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต เพราะการขจัดรัฐบาลทั้งหลายทิ้งไป ย่อมหมายถึงการทำลายล้างเกมอันน่ารังเกียจที่สุด

ซึ่งเป็นเกมที่นักการเมืองทั้งหลายเล่นกันมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ

พวกเขาทำให้คนเราเป็นแค่ตัวหมากรุก โดยการสร้างความหวาดกลัวขึ้นมากมาย สร้างความกลัวว่า ถ้าไม่มีรัฐบาลแล้ว จะต้องเกิดภาวะที่สับสน ยุ่งเหยิงวุ่นวาย ทุกอย่างจะต้องถูกทำลายลง

และเรื่องแปลกประหลาดที่สุด คือ เราเชื่อสิ่งไร้สาระนี้มาอย่างต่อเนื่อง

ลองมองย้อนกลับไปในอดีตเมื่อ 5,000 ปีก่อน ท่านคิดว่าถ้าไม่มีรัฐบาลเลยในโลก สิ่งต่างๆจะแย่ลงกว่านี้หรือในทางไหน ในช่วง 3,000 ปีที่ผ่านมา มีสงครามต่อสู้กันร่วม 5,000 ครั้ง

ท่านคิดว่าสงครามมากกว่านั้นจะเกิดขึ้นได้ โดยไม่มีรัฐบาลหรือ

...

รัฐบาลเหล่านี้ทำอะไร คนเหล่านั้นไม่ได้ทำสิ่งใดเพื่อประชาชนเลย นอกจากแสวงหาประโยชน์จากผู้คน

ใช้ประโยชน์จากความกลัวของผู้คน แล้วทำให้ผู้คนขัดแย้งกัน

เรื่องรัฐบาลในมุมมองของโอโช...ทำให้ผมรู้จักเขามากขึ้น ผู้อ่านอย่างเราๆ ก็คงพอเดาได้ เขาเขียนขึ้นมาจากรัฐบาลในบ้านเมืองของเขาเอง

ก่อนหน้านี้ ผมเปิดทีวี ดูข่าวหาแรงกระตุ้นเขียนคอลัมน์ คนระดับ บก.ทีวีช่องที่บอกตัวเองว่าอยู่แถวหน้าด้านข่าวการเมือง กำลังสรุปประเด็นกรณีที่ดินกว่าห้าพันไร่ ที่เขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์

เขากล่าวว่า คดีที่ดินที่ซับซ้อนในศาล มีตัดสินของศาลฎีกาสองครั้ง ศาลปกครองมากกว่าหนึ่งครั้ง...ที่ดินจะต้องกลับคืนเป็นของการรถไฟ ไม่ใช่เป็นของตระกูลนักการเมืองดัง

แต่กระนั้น จนบัดนี้...ยังไม่มีเค้าลาง แม้ศาลสั่งกำหนดชัดว่า กี่วันๆ...

เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็แสดงว่า กลไกทางกฎหมายของบ้านเมืองนี้ ...ใช้การไม่ได้แล้ว ล้มเหลวหมดสิ้นแล้ว

ที่จริง คดีเขากระโดง รู้ๆพอกันมานาน...สื่อแก่ๆอย่างผมก็ยังจำ คดี...ยี้ ร้อยยี่สิบ...ฝังใจ...เดิมก็รู้แค่ นักการยี่ห้อนั้น ซื้อเสียงชาวบ้าน หัวละ 120 เจอตัว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หรอก จึงรู้ต่อ

จำนวน 120 นั้น มันมีเงื่อนแฝง...แบงก์ 20 ประทับตรา...ถ้าเลือกตั้งชนะ เอามาขึ้นเงินได้อีก 200

เออ! นักการเมืองดูถูกชาวบ้าน ได้ถึงปานนั้น...แต่ก็ประหลาด ไม่แค่ครองเมืองได้ยาวนาน ยังต่อยอดเติบใหญ่จนมีเค้าได้ครองประเทศ

การเมืองใกล้ๆ ทำให้ผมเชื่อโอโชสนิทใจ...เราน่ามีวันช่วยกันล้าง...รัฐบาลให้หมดไปจากบ้านนี้เมืองนี้สักที.

กิเลน ประลองเชิง