สำนักงาน กกต.รีบแจง 6 อรหันต์ทัวร์นอกตามโปรแกรม อ้างบัวแก้วเป็นคนเชิญ ให้ไปดูปัญหามาปรับแก้เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้สิทธิ ยันไม่กระทบแผนงานหลัก สอบแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตมีขั้นตอนอยู่ เผยมีแค่ 6 พรรคจาก 70 พรรค ที่ส่งรายงานนโยบายหาเสียง “สมชัย” สวนรอฟังชัดๆจากปาก กกต. ว่านโยบายไหนใช้หาเสียงได้บ้าง “เศรษฐา” หนีบ “โอ๊ค” เล่นสาดน้ำที่เพชรบุรี พระให้พรแลนด์สไลด์ ติง กกต.ไปนอกงานหลักต้องไม่เสีย “เจ๊แจ๋น” โวยไม่อยู่คอยให้คำปรึกษา ทสท.เกทับทุ่มให้มากกว่า 6-7 แสน ล. “อนุชา” เย้ยแจกเงินเดี๋ยวก็หมด “บิ๊กแอ๊ด” หวังสูงกวาดอีสาน จว.ละคน เปิดประตูรอ พท.-จับได้ทุกขั้ว ปชป.คุยหยอดเงินใส่ผู้สูงอายุกระแสดี
จากกรณีที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 6 คน เดินทางไปตรวจงานต่างประเทศพร้อมกัน เพื่อดูความพร้อมการเตรียมการจัดเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ทั้งที่การเลือกตั้งใกล้เข้ามาทุกขณะ ท่ามกลางปัญหาข้อร้องเรียนที่มีเข้ามาจำนวนมาก ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักว่าเป็นการไม่เหมาะสม
สำนักงานแจง 6 กกต.ทัวร์นอก
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 เม.ย. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยเเพร่เอกสารข่าวชี้แจงกรณี 6 กกต. เดินทางไปดูงานการจัดการเลือกตั้งส.ส.นอกราชอาณาจักรว่า เป็นไปตามโครงการการ เตรียมการและตรวจติดตามการเลือกตั้งนอกราช อาณาจักรในการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไป โครงการดังกล่าวจัดขึ้นทุกครั้งที่มีการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.นอกราชอาณาจักร เพื่อตรวจติดตามการเตรียมความพร้อม รับฟังสภาพปัญหา การบริหารจัดการเลือกตั้งในแต่ละประเทศ มาใช้เป็นข้อมูลอำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรืออาจนำมาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายระเบียบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น กกต.ได้หารือกับกระทรวงการต่างประเทศ ถึงวิธีทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในต่างประเทศ ใช้สิทธิได้ตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ บรรลุตามวัตถุประสงค์ให้มากที่สุด
...
ยันไม่กระทบตารางงานหลัก
เอกสารยังระบุว่า ต่อมากระทรวงการต่างประเทศมีหนังสือเชิญ กกต. เดินทางไปร่วมโครงการฯ กกต.เห็นว่าเป็นประโยชน์จึงพิจารณาช่วงเวลาที่ไม่กระทบกับงานตามแผนปฏิบัติการที่กำหนดไว้ การเดินทางห้วงเวลาที่จะไม่เป็นภาระการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรของสถานทูต หรือสถานกงสุลต่างๆ จึงกำหนดให้เดินทางในห้วงระหว่างวันที่ 4-24 เม.ย. แต่ละเส้นทางไม่ได้เดินทางไปพร้อมกัน และแต่ละเส้นทางที่ไปประกอบด้วย กกต. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็นเพียง 4-5 คนเท่านั้น ช่วงเวลาดังกล่าว กกต.กำหนดแผนปฏิบัติการไว้หมดแล้ว ยังคงนัดหมายประชุม กกต.ตามปกติผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หากมีเรื่องด่วนก็อาจนัดประชุมเพิ่มเติมได้
มีแค่ 6 พรรคแจงนโยบายหาเสียง
กรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าการเดินทางไปต่างประเทศของ กกต.ครั้งนี้ ทำให้ไม่สามารถพิจารณาคำร้องเรื่องการหาเสียงตามนโยบายให้เงินดิจิทัล 10,000 บาท และการขยายเวลาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านั้น ยังมีความคลาดเคลื่อน คือ 1.กรณีคำร้องนโยบายการหาเสียงการให้เงินทางดิจิทัล 10,000 บาท เป็นการยื่นคำร้องว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เมื่อมีผู้ยื่นคำร้องสำนักงาน กกต.ได้รายงานให้ กกต.ทราบเบื้องต้นแล้ว และดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาดกำหนดก่อน จึงจะเสนอให้ กกต.พิจารณาต่อไป ต้องเป็นไปตามกรอบเวลาและขั้นตอนที่กำหนด ไม่อาจยกขึ้นมาพิจารณาได้ทันที ประกอบกับขณะนี้มีพรรคการเมืองรายงานเรื่องนโยบายที่ใช้หาเสียงตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 57 เพียง 6 พรรค จาก 70 พรรค บางพรรคกำลังส่งเอกสารเพิ่มเติม จึงยังไม่สามารถพิจารณาได้
ไม่ต้องขยายเวลาลงทะเบียน
ส่วนประเด็นการขยายเวลาการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า กรณีเกิดปัญหาผู้ลงทะเบียนบางส่วนไม่อาจลงทะเบียนได้ในช่วงเวลา 21.00-24.00 น. ของวันที่ 9 เม.ย. จากข้อจำกัดของระบบที่มีศักยภาพรองรับการเข้าใช้งานลงทะเบียนพร้อมกันเพียง 5,000 คนต่อ 1 วินาที ถ้าสูงเกินกว่านี้จะทำให้ระบบล่าช้า ได้แจ้งให้ กกต.ทราบตั้งแต่เกิดเหตุ ประสานงานกับสำนักบริหารการทะเบียนหาแนวทางการแก้ไข โดยได้ข้อสรุปว่าช่วงเวลาดังกล่าว ระบบสามารถบันทึกข้อมูลผู้ประสงค์จะลงทะเบียนแต่แสดงผลว่าลงทะเบียนไม่สำเร็จไว้ ระบบสามารถดึงข้อมูลผู้ประสงค์จะลงทะเบียนดังกล่าวมาจัดทำเป็นบัญชีรายชื่อผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าได้เกือบทั้งหมด สำนักงาน กกต.จึงเห็นว่าไม่จำต้องขยายเวลาลงทะเบียนออกไป และรายงานให้ กกต.ทราบแล้ว
กำชับเข้มกฎหาเสียงสงกรานต์
วันเดียวกัน สำนักงาน กกต.ยังเผยแพร่เอกสารข่าวเน้นย้ำเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อไม่ให้กระทำความผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. โดยกำหนดกรอบระยะเวลาการให้ปฏิบัติวิธีปฏิบัติ และข้อห้ามในการหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส. พรรค การเมือง รวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนอาจได้รับโทษปรับ หรือจำคุก เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอดทั้งการยุบพรรคการเมือง
กำหนดข้อห้ามไว้ละเอียดยิบ
สำหรับข้อห้ามที่พึงระวังกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เช่น จัดทํา ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด รวมทั้งให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์หรือสถาบันอื่นใด ตลอดทั้งโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพ หรือการรื่นเริงต่างๆ และการเลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใดโดยผู้สมัคร และพรรคการเมืองต้องพึงระมัดระวังเป็นพิเศษรวมถึงข้าราชการ อย่าใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการเป็นคุณเป็นโทษต่อผู้สมัครหรือพรรคการเมือง เนื่องจากการใช้ตำแหน่งหน้าที่ก็อาจจะเกี่ยวกับความไม่เป็นกลางทางการเมืองด้วย
รอฟังชัดๆนโยบายห้ามหาเสียง
ขณะที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า กกต.ส่งจดหมายถึงทุกพรรค การเมืองให้ชี้แจงรายละเอียดนโยบายหาเสียง เรื่องจำนวนเงินงบประมาณที่ใช้ ที่มาของงบประมาณ ความคุ้มค่าและประโยชน์ที่ได้รับ ผลกระทบและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น พร้อมให้ระบุว่าได้ผ่านการรับฟังความเห็นจากสมาชิกพรรคในภูมิภาคแล้ว จดหมายลงวันที่ 10 เม.ย. มาถึงพรรคบ่ายๆเย็นๆ วันที่ 12 เม.ย. วันที่ 13-17 เม.ย. เป็นวันหยุดราชการให้ส่ง กกต. วันที่ 18 เม.ย. ท้ายจดหมายมีขู่ว่าถ้าไม่ทำปรับ 500,000 บาท จำคุก 1-10 ปี พร้อมตัดสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี พรรคเสรีรวมไทยทำเสร็จแล้ว พร้อมส่งตามกำหนด ขอถามว่าหาก กกต.ได้เอกสารแล้ว จาก 67 พรรคน่าจะยาวรวมไม่ต่ำกว่า 600 หน้า จะมีคำตอบเมื่อไรว่านโยบายไหน พรรคไหน ห้ามใช้ หาเสียงบ้าง รอฟังอยู่ อย่าแค่บอกว่าทำตามกฎหมายที่กำหนดให้ทำแล้ว
“ตู่” สั่งดูแลเลือกตั้งนอกประเทศ
ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รับทราบความคืบหน้าการเตรียมจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และเน้นย้ำให้บูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้ได้มากที่สุด ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กกต. กระทรวงมหาดไทย และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ประชุมหารือร่วมกัน และกระทรวงต่างประเทศจัดอบรมเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลที่ประจำการ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก โดยมี กกต.ให้การสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ จัดส่งไปแล้ว วันเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรคือวันที่ 24 เม.ย.-5 พ.ค.
พระให้พรเพื่อไทยแลนด์สไลด์
เวลา 10.30 น. ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมืองเพชรบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยทีมผู้สมัคร ส.ส.เพชรบุรี ของพรรคทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย นายกิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์ นายชัยณาม ว่องไว และนายภาณุมาศ อังกินันทน์ เริ่มที่การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สรงน้ำพระเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ และถวายสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์ โดยมีประชาชนมาคอยถือป้ายเชียร์มอบดอกไม้ให้กำลังใจ ทั้งนี้ พระสงฆ์ที่คอยกล่าวให้พรประชาชนยังกล่าวให้พรนายเศรษฐาขอให้แลนด์สไลด์ ขณะที่นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ได้ยินว่าท่านอวยพรแต่ก็ขอขอบคุณ ส่วนตัวไม่ได้ขอพรให้พรรค พท.แลนด์สไลด์ เพียงแต่ขอในใจในทุกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไป
ศึกษา ก.ม.ช่วงสงกรานต์ดีแล้ว
จากนั้นนายเศรษฐากล่าวอวยพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย 2566 ว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีเป็นปีใหม่ วันใหม่ และน่าจะเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดี ช่วงประมาณ 1 เดือนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. ขอเชิญชวนพี่น้องทุกคนออกมาใช้สิทธิศึกษาทำความเข้าใจนโยบายทุกพรรคให้ดี และขอให้ เดินทางปลอดภัย เมื่อถามถึงกรณี กกต.ออกกฎเข้มหาเสียงช่วงสงกรานต์ เป็นห่วงหรือไม่ว่าจะมีปัญหาเรื่องการให้พร การให้ทรัพย์สินหรือสิ่งของมีค่า นายเศรษฐาตอบว่า ฝ่ายกฎหมายศึกษาข้อมูลมาดีแล้ว ว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ ตนและผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนต้องศึกษามาดีและคงไม่ใช้โอกาสอันเป็นมงคลแบบนี้มาหาเสียง
กกต.ไปนอกงานหลักต้องไม่เสีย
เมื่อถามถึงกรณีที่ 6 กกต.เดินทางไปดูงานต่างประเทศ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่ทราบเรื่อง ทราบจากสื่อมวลชนเมื่อเช้า ไม่ทราบว่ามีความจำเป็นต้องเดินทางออกนอกประเทศมากน้อยแค่ไหน มองว่า กกต.ทุกท่านเป็นผู้ใหญ่ เข้าใจหน้าที่ของตัวเองดี ถ้าจะไปต่างประเทศแล้วหน้าที่ที่เมืองไทยต้องไม่บกพร่อง เมื่อถามย้ำว่าการเดินทางไปต่างประเทศของ กกต. จะกระทบกับการพิจารณาปัญหาการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่ทราบ อาจมีคณะกรรมการชุดย่อย หรือใช้เทคโนโลยีซูมก็ได้เหมือนกัน เชื่อว่าทุกท่านมีวุฒิภาวะดีแล้ว และเข้าใจถ่องแท้ถึงการรับผิดชอบต่อประชาชนในฐานะองค์กรอิสระ
ย้ำจับมือกับใครรอดูผลเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังไม่ปิดทางจับมือกับเพื่อไทย นายเศรษฐาตอบว่า พูดมาตลอดว่าตัวเลขไม่ได้คิดอะไรยาก 22.01 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ค่อยมาคิดกันก็ไม่แปลกอะไร วันนี้หน้าที่ของเพื่อไทยเรามั่นใจในนโยบายหลักทุกนโยบายสามารถโน้มน้าวให้ประชาชนเข้าคูหากาพรรคเพื่อไทยได้ ส่วนจะไปจับมือกับใครหรือไม่ ไว้ผลและตัวเลขออกมาค่อยว่ากันดีกว่า ถ้าเราได้แลนด์สไลด์จริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องจับมือกับใคร นี่คือเป้าหมายหลักของ ทุกคนในพรรค
“เศรษฐา-โอ๊ค” ร่วมสาดน้ำเพชรบุรี
ต่อมาเวลา 12.30 น. ที่ถนนภูมิรักษ์ นายเศรษฐาพร้อมนายสุริยะและนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ตามมาสมทบร่วมเล่นน้ำสงกรานต์กับประชาชนที่มาเล่นสงกรานต์กันที่ถนนภูมิรักษ์ ซึ่งเป็นจุดเล่นน้ำใหญ่ของ จ.เพชรบุรี โดยคณะของพรรคเพื่อไทยเป็นที่สนใจของประชาชน ที่เข้ามาสาดน้ำประแป้งกันอย่างสนุกสนานเป็นกันเอง บางส่วนเปิดกระจกรถทักทายและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้วย
“เจ๊แจ๋น” โวย กกต.ไม่อยู่ให้ปรึกษา
ที่วัดพระพิเรนทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. พรรคเพื่อไทย พร้อม น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 1 นายศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 24 และนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ สมาชิกพรรค พท. ร่วมบำเพ็ญกุศลพระภิกษุที่มรณภาพ ที่ รพ.สงฆ์ นางพวงเพ็ชรกล่าวถึงกรณี กกต.เดินทางไปดูงานต่างประเทศในช่วงนี้ว่า เรื่องนี้มีคนวิพากษ์วิจารณ์เยอะ ทางพรรคก็มีประเด็นที่ต้องสอบถาม กกต. แต่ กกต.ทั้ง 6 คน เดินทางไปต่างประเทศ มองว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ทุกคนต้องเตรียมตัวเลือกตั้ง รวมถึง กกต.ก็ต้องเตรียมพร้อมไม่สมควรไปต่างประเทศ เพราะทุกคนมีปัญหาที่ต้องสอบถาม กกต.มากมาย และพรรคเพื่อไทยก็มีคำถามแต่ไม่มีใครอยู่ให้คำปรึกษา
ทสท.เกทับทุ่มให้กว่า 6-7 แสน ล.
นายโภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตของพรรคเพื่อไทยว่า มีคำถามว่านโยบายแจกเงินถูกต้องหรือไม่ ควรทำในระดับที่จำกัด เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในและความฝืดเคืองช่วงต้นๆ และเงินดิจิทัลคืออะไร ควรแจกทุกคนหรือไม่ ถ้าเท่าเทียมตามรัฐธรรมนูญทำไมต้องแจกตั้งแต่อายุ 16 ขณะเดียวกันการสร้างเงินตราขึ้นใหม่จนทำให้เงินล้นโลก แต่อยู่ในมือคนเพียง 10% นโยบายพรรค ทสท.สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิตประชาชนให้มีชีวิตที่มีศักดิ์ศรี มีความมั่นคงทุกช่วงวัย ผลของสงครามการเมือง 2 ขั้ว ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำยากจน การทุจริตคอร์รัปชัน ธุรกิจสีเทาสีดำ การผูกขาดทุนนิยมพรรคพวก ทำให้ประชาชนพ่ายแพ้เจ็บปวดมาตลอด 17 ปี เสพติดการแจกไม่ยั่งยืน ทสท.จึงมียุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาทั้งระบบต้องใช้งบประมาณ 600,000-700,000 ล้านบาทต่อปี
“อนุชา” เย้ยแจกเงินเดี๋ยวก็หมด
นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายก รัฐมนตรี แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า สโลแกนพรรค “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” หนึ่งในสิ่งที่ทำอยู่ขณะนี้คือนโยบายโคล้านครอบครัว สามารถเปลี่ยนชีวิตลูกหลานคนไทยจากแรงงานไปสู่ผู้มีฐานะร่ำรวยได้ ภายใน 6 ปีจะทำเงินล้านได้จากโคเพียง 2 ตัว และถ้าตามสูตร 10 ปี จะมีเงิน 7 ล้านบาท เมื่อถามว่าแต่ขณะนี้คนไปโฟกัสกันที่นโยบายลดแลก แจก แถม นายอนุชาตอบว่า ไม่เป็นไรไม่แคร์และไม่ตำหนินโยบายใคร แต่มั่นใจว่าโคล้านครอบครัวตอบโจทย์ในระยะยาว อยากให้ทุกคนมองว่าหากเป็นการแจกเงินเดี๋ยวมันก็หมด ไม่ได้ตอบโจทย์ชีวิตคน เป็นเพียงแค่เงินที่เอามากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อถามว่าหากมีประชาชนถามว่าแล้วก่อนหน้านี้ทำไมจึงไม่ทำ นายอนุชาตอบว่า ที่มาอยู่ตรงนี้เพราะสามารถทำนโยบายได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ก็เห็นชอบว่าไปได้
คุยกระแส รทสช.ดีขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อถามว่ากระแส รทสช.ตอนนี้เป็นอย่างไร นายอนุชาตอบว่า ดีขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะตัว พล.อ.ประยุทธ์ที่มีคะแนนส่วนตัวติด 1 ใน 3 ของโพลมาตลอด แต่อยากให้ทุกคนพูดถึงนโยบายในเชิงสร้างสรรค์ประเทศจะอยู่ได้ แต่หากยังเหมือนเดิมจมอยู่กับการเมือง จมอยู่กับการลงถนน ไม่ตอบโจทย์ประเทศแน่ พรรค รทสช.กำลังเตรียมการเรื่องลงพื้นที่และเวทีปราศรัยของ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ เมื่อถามว่า รทสช.ตั้งเป้าจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ 100 ขึ้นได้หรือไม่ นายอนุชาตอบว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เราไม่สามารถประเมินได้ แต่ที่ พล.อ.ประยุทธ์หวังไว้ก็เป็นร้อย เราพยายามมุ่งเป้าที่จะทำให้ได้ตามจำนวนนั้น
เพื่อชาติปักหลักสู้ทุนผูกขาด
ร.อ.จารุพล เรืองสุวรรณ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า นโยบายสำคัญที่จะช่วยดึงดูดให้ประชาชนสนใจและเทคะแนนเสียงให้พรรคเพื่อชาติ เราให้ความสำคัญกับจุดยืนต่อสู้กับทุนผูกขาดที่กินรวบประเทศ นโยบายหลักที่จะลดความเหลื่อมล้ำด้วย 5 เสาหลัก ได้แก่ เสาแรกคือการศึกษา ทำให้คนไทยมีความเท่าเทียมทางการศึกษา เสาที่สองคือการปฏิวัติเขียว พรรคเพื่อชาติจะเปลี่ยนให้เกษตรกรรมนำเศรษฐกิจ เกษตรกรจะไม่ใช่พลเมืองชั้น 2 เสาที่สาม คือเรื่องการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เสาที่สี่ คือ นโยบายไรเดอร์ จะผลักดันร่าง พ.ร.บ.ไรเดอร์ เพื่อให้เกิดความคุ้มครอง ความเป็นธรรม ไม่ให้เกิดการเอาเปรียบ เป็นการคุ้มครองทั้งไรเดอร์และผู้ประกอบการ ไปจนถึงผู้ใช้บริการ และเสาที่ห้าด้าน สาธารณสุข เมื่อประเทศไทยเจอกับโรคอุบัติใหม่ในอนาคต คนไทยต้องได้รับวัคซีนพร้อมกับนานาประเทศ นี่คือสิ่งสำคัญที่พรรคเพื่อชาติต้องการทำ
พปชร.ปล่อยซิงเกิลย้ำนโยบาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลังประชารัฐได้เผยแพร่ซิงเกิลเพลงใหม่ ให้ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขต ใช้สื่อสารกับประชาชนทุกพื้นที่ ความยาวประมาณ 3.41 นาที ด้วยทำนองที่สนุกสนาน อธิบายถึงนโยบายที่ตอกย้ำ “ใจบันดาลแรง” ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร. ที่พูดจริงทำได้จริง ไม่ทิ้งใคร ชูนโยบายหลักๆ อาทิ บัตรประชารัฐ เบี้ยยังชีพผู้สูงวัย บริหารจัดการน้ำทั้งระบบ และที่สำคัญคือการปลุกพลังให้ทุกฝ่ายก้าวข้ามความขัดแย้ง อาสาเข้ามาทำงานที่จะทำทันที ไม่มีการแบ่งแยก เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง ขณะที่ไฮไลต์สำคัญใน MV เป็นการถ่ายทำผู้บริหาร และผู้สมัครหลากหลายเจเนอเรชันร่วมใจผนึกความเป็นหนึ่งเดียว
“บิ๊กแอ๊ด” หวังสูงอีสาน จว.ละคน
ที่บ้านเมืองเอก รังสิต พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พปชร. เปิดบ้านให้อดีตนายทหารที่เกษียณ และคนสนิทเข้ารดน้ำขอพรเนื่องในวันสงกรานต์ พล.อ.ธรรมรักษ์กล่าวว่า เหตุผลที่มาช่วยงานพรรค พปชร. เพราะนโยบายตรงใจ เพียงแต่เข้ามาเสริมและผลักดัน ฉะนั้นเป้าหมายการคว้าเก้าอี้ ส.ส. แบบเก่าคงเป็นไปไม่ได้ ส่วนตัวจะเจาะว่าเขตไหนเป็นไปได้ วางเป้าให้ได้ ส.ส.ภาคอีสานอย่างน้อยเฉลี่ยจังหวัดละ 1 คน ถือว่าพอใจแล้ว ยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยกระแสดี แต่ผู้สมัครบางคนยังอ่อนแออยู่ พปชร.จะไปช่วงชิงตรงนั้น รับไม่ได้ที่ผลสำรวจชี้ว่าเราจะได้ ส.ส.ภาคอีสานแค่ 4 คน เชื่อมั่นว่าทำพื้นที่ได้
เปิดประตูรอ พท.จับได้ทุกขั้ว
พล.อ.ธรรมรักษ์กล่าวว่า ส่วนเรื่องปฏิเสธจับมือพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลนั้น หัวหน้าพรรคบอกไปแล้วว่า เป็นความเห็นส่วนตัวของบางคนไม่ได้เป็นมติพรรค ถือว่ายังไม่ปิดประตูตายที่จะจับมือกับพรรคเพื่อไทย หรือพรรคอื่น ไปได้ทุกขั้ว นโยบายไปกันได้ก็จับมือกันได้ เลือกตั้งเสร็จแล้วเป็นไปได้ทั้งนั้น การกลับมาทำงานการเมืองครั้งนี้ไม่ได้หวังตำแหน่งใด วางมือไปนานแล้ว มาช่วยงานเฉพาะกิจ ตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ได้คิด
ปชป.คึกเล่นสงกรานต์ที่สยาม
ช่วงสาย แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบายกทม. รวมถึงบรรดาผู้สมัคร ส.ส.กทม. อาทิ น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ นายพันธุ์พิสุทธิ์ นุราช ลงพื้นที่ทำกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ร่วมกับประชาชนในหลายจุด โดยช่วงเช้าไปร่วมกิจกรรมสรงน้ำพระก่อเจดีย์ทราย ที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ต่อด้วยขึ้นขบวนรถตุ๊กๆแห่ไปเล่นน้ำสงกรานต์ย่านสยาม สแควร์ และอุทยานร้อยปีจุฬาฯ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก บรรดาแกนนำและผู้สมัคร ส.ส.ร่วมฉีดน้ำกับนักท่องเที่ยว มีเยาวชนเข้ามาทักทายร่วมเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน
หยอดเงินใส่ผู้สูงอายุกระแสดี
นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษก ปชป. กล่าวว่า วันที่ 13 เม.ย.ถือเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ พรรคให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุมาตลอด เลือกตั้งครั้งนี้เรามีนโยบายชมรมผู้สูงอายุรับ 30,000 บาททุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน เป็นมาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Complete-aged society) มุ่งต่อยอดสวัสดิการเดิมของผู้สูงอายุที่ได้รับในรูปแบบเบี้ยรายเดือนให้ขยายครอบคลุมมิติอื่นเพิ่มมากขึ้น จากการเดินหน้าลงพื้นที่หาเสียงต่อเนื่องในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะใน กทม.ได้รับเสียงตอบรับดี หลายคนยืนยันจะกลับมาเลือก ปชป.อีกครั้ง ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่พรรคจะมีโอกาสทวงที่นั่งในพื้นที่ กทม.กลับคืนได้หลายเขต
ก.ก.พักเบรกแต่ยังร่วมเทศกาล
ขณะที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นช่วงพักเบรกหาเสียง แต่มีแกนนำและผู้ช่วยหาเสียง ก.ก. ทยอยเดินทางไปเล่นน้ำสงกรานต์ร่วมกับประชาชนตามต่างจังหวัด อาทิ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ก.ก.บห.มูลนิธิคณะก้าวหน้า ผู้ช่วยหาเสียง ก.ก. ไปที่ จ.หนองคาย ร่วมพิธีอัญเชิญหลวงพ่อพระใสลงจากพระอุโบสถวัดโพธิ์ชัย ซึ่งเป็นงานใหญ่ที่สุดประจำปีของ จ.หนองคาย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ขึ้นเหนือใช้เวลาพักผ่อนกับลูกสาว และไปร่วมเทศกาลสงกรานต์ที่จังหวัดภาคเหนือ อาทิ จ.ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ ตามลำดับ ทั้งนี้ระหว่างที่นายพิธาสวมเสื้อพื้นเมืองภาคเหนือร่วมเทศกาลสงกรานต์ที่ถนนอินทรงยศ ซอย 5 จ.ลำพูน มีคุณยายคนหนึ่งเกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ลื่นล้ม จุดที่นายพิธายืนอยู่ นายพิธาและทีมงานได้รีบเข้าไปช่วยประคองและหาเก้าอี้ให้นั่งพัก พบว่ามีแผลถลอกเล็กน้อย ไม่เป็นอะไรมาก
“เจ๊หน่อย” ดันไทยศูนย์กลางพุทธ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุรา พันธุ์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย ตระเวนลงพื้นที่ใน กทม.หลายจุด เนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ อาทิ เขตบางกะปิ, เขตห้วยขวาง-วังทองหลาง เขตบางเขน และเขตบึงกุ่ม-คันนายาว ร่วมกับผู้สมัคร ส.ส.กทม. พบปะประชาชนและถือโอกาสเข้ารดน้ำขอพรผู้สูงอายุในชุมชน และร่วมสรงน้ำพระเพื่อสืบสานขนบธรรมเนียมไทย บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น มีประชาชนเข้ามารุมล้อมขอถ่ายภาพใกล้ชิด และอวยพรให้คุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกฯเข้าไปผลักดันนโยบายสำคัญของพรรค คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ประเพณีสงกรานต์เป็นประเพณีสำคัญ จะอาศัยประเพณีดังกล่าว สนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางศาสนาพุทธของโลก ให้ชาวพุทธจากทั่วโลกมาท่องเที่ยวในไทย เพื่อสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่
3 แคนดิเดต พท.อวยพรคนไทย
เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ไทย เทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2566 บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ถือโอกาสร่วมอวยพรแก่ประชาชน อาทิ พรรคเพื่อไทยโพสต์รูปภาพพร้อมข้อความลงเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทยระบุว่า “สวัสดีปีใหม่ไทย สุขสันต์วันสงกรานต์ ขอให้พี่น้องประชาชนคนไทย มีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรง เตรียมพร้อมกับสิ่งดีๆที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย” พร้อมลายเซ็นแคนดิเดตนายกฯทั้ง 3 คนของพรรคเพื่อไทย
นายกฯขอคนไทยเกื้อกูลกัน
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และแคนดิเดตนายกฯ พรรค รทสช. กล่าวผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า “เนื่องในโอกาสประเพณีสงกรานต์ ขอส่งความรัก ความระลึกถึง และความปรารถนาดีมายังพี่น้องชาวไทยทุกคน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์นี้ด้วยความเอื้ออาทรและเกื้อกูลต่อกัน มีสติไม่ประมาท และเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยความปลอดภัย ทำให้เทศกาลแห่งความอบอุ่นนี้เป็นพลังแห่งการเริ่มต้นด้วยความสดชื่น สมหวังดังใจปรารถนา มีกำลังกาย กำลังใจ และมีความสุข ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครทุกคน ที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกประชาชน ตลอดจนกองกำลังทุกกองกำลังที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในห้วงเทศกาลแห่งความสุขนี้ด้วย”
“ลุงป้อม” ให้เริ่มต้นทำสิ่งใหม่
ด้านนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรค พปชร.กล่าวว่า เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯพรรค พปชร. ได้ส่งความปรารถนาดีไปยังพี่น้องประชาชนชาวไทย ให้ร่วมกันทำสิ่งดีๆ เป็นมงคลต่อชีวิต และเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ดูแลรักษาสุขภาพ เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ พร้อมอวยพรปีใหม่ไทยให้ประชาชนชาวไทยประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ มีกำลังใจและกำลังสติปัญญาที่เข้มแข็ง และส่งความระลึกถึง ความปรารถนาดีให้มีความอบอุ่น เข้มแข็ง รักใคร่กลมเกลียว แสดงความเคารพกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ พรรค พปชร.มีนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงวัย นโยบายแม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ ดูแลเด็กแรกเกิดถึง 6 ขวบ เดือนละ 3,000 บาท ฝากประชาชนพิจารณาเลือกพรรค พปชร. และเลือกผู้สมัคร ส.ส.เขตทั่วทั้งประเทศ