จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้า ปชป.ส่งสัญญาณ ให้สมาชิกพรรค กลับมาช่วยพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง เสนอทางรอดไทย ต้อง "ประชาธิปไตย ไม่โกง" หากเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล เติมเม็ดเงินเข้าระบบ 1 ล้านล้านบาททันที

วันที่ 7 เม.ย. 66 เวลา 17.30 น. ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ จัดประเดิมเวทีปราศรัยครั้งแรกที่บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ด้วยเวทีปราศรัยรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานความทันสมัยและสถาปัตยกรรมของศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ถือเป็นการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์พรรคประชาธิปัตย์ให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ยืนหยัดยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปัตย์ โดยบรรยากาศการปราศรัยในวันนี้มีบรรดาพี่น้องประชาชน สมาชิกพรรค และผู้สนับสนุนผู้สมัครของพรรค มาร่วมฟังการปราศรัยให้การตอบรับเวทีของพรรคประชาธิปัตย์เป็นจำนวนล้นหลาม ในช่วงหนึ่งของการปราศรัยของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้รับเสียงตะโกนสนับสนุนให้นายจุรินทร์เป็นนายกดังกระหึ่ม

ทั้งนี้ การปราศรัยได้เริ่มต้นตั้งแต่เวลาประมาณ 17.30 น. โดยมีผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคขึ้นเวทีปราศรัยเป็นจำนวนมาก อาทิ นายธนา ชีรวินิจ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เขต พญาไท ดินแดง เบอร์ 9 นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ผู้สมัคร ส.ส. เขตพระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ ดุสิต บางรัก เบอร์ 10 ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง ผู้สมัคร ส.ส. เขตคลองเตย วัฒนา เบอร์ 5 ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ น.ส.วทันยา บุนนาค ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้สมัคร ส.ส. เขตหลักสี่ เบอร์ 14 นอกจากนี้ยังมีการปราศรัยของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และนายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีอีกด้วย

...

โดยช่วงหนึ่ง นายจุรินทร์ หัวหน้าพรรค ได้ปราศรัยว่า มีหลายคนวิจารณ์ว่าแต่ละพรรคการเมืองล้วนเสนอแต่นโยบายที่ใช้เงิน ไม่เห็นมีพรรคการเมืองที่เสนอนโยบายหาเงิน ตนขอยืนยันว่าอย่างน้อยมี 1 พรรค ที่มีนโยบายชัดเจนที่จะหาเงินและสร้างเงินให้กับคนไทย สร้างเงินให้ประเทศไทย ถ้านายจุรินทร์ เป็นนายกรัฐมนตรี ประชาธิปัตย์จากประกันรายได้คนไทยและประกันรายได้ประเทศไทย การที่ประชาธิปัตย์กล้าประกาศเป็นเพราะได้ทำให้เห็นว่ามาแล้วว่านายจุรินทร์ดูแลการส่งออกปีที่แล้ว ทำให้ประเทศไทยมีรายได้เข้าประเทศปีเดียวเกือบ 10 ล้านล้านบาท เป็นสถิติสูงสุดในรอบ 30 ปี

พร้อมกับได้ระบุว่า ประเทศกำลังติดหล่มการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะปัญหาโควิด 3 ปี ทำให้ต้องกู้เงินถึง 2 ล้านล้าน แต่การจะอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้ จะต้องมีอีก 1 ล้านล้าน ดังนั้นถ้าประชาธิปัตย์ เป็นแกนตั้งรัฐบาล เราจะเติมเม็ดเงินเข้าระบบ 1 ล้านล้านบาททันที ด้วย

1. นโยบายธนาคารหมู่บ้าน/ชุมชนทั่วประเทศ ชุมชนละ 2 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งเงินสร้างเงินให้คนไทย ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินอัดเข้าระบบ 2 แสนล้านบาท

2. กองทุน กบข. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนประกันสังคม ถ้าประชาธิปัตย์เป็นแกนตั้งรัฐบาล จะอนุญาตให้ เบิกเงินมาได้ 30% เพื่อนำเม็ดเงินมาเติมให้ตัวเอง ครอบครัว และนำมาลดหนี้ ซึ่งจะทำให้มีเงินเข้าระบบ 5 แสนล้าน

3. Start Up และ SME ต้องมีแต้มต่อ เพื่อให้โอกาสกับธุรกิจสตาร์ทอัพ และ SME มีแต้มต่อทั้งด้านการผลิต องค์ความรู้ การตลาด เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินเพื่อมาต่อลมหายใจและมาต่อเงินให้กิจการที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ และจะทำให้มีเงินเข้าระบบอีกไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท

นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์ ยังมีนโยบายอื่นๆ ทั้งประกันรายได้เกษตรกร นมโรงเรียนฟรี 365 วัน ปลดล็อกประมงพาณิชย์ ชมรมผู้สูงอายุรับชมรมละ 30,000 บาท

ทั้งหมดนี้จะรวมเป็น 1 ล้านล้านบาท ที่ประชาธิปัตย์คิดอย่างเข้าใจ และพร้อมรับผิดชอบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินไปข้างหน้าทันที ที่เราได้เป็นแกนตั้งรัฐบาล และมีนายจุรินทร์เป็นนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังระบุอีกว่า พี่น้องคนไทยทั้งประเทศมีเพียงทางเลือกทางเดียว คือการลงมือเลือกทางรอดให้ประเทศ ซึ่งทางรอดของประเทศ จะประกอบด้วย

1. ประเทศไทยมีประชาธิปไตยเต็มใบ ไม่ใช่ประชาธิปไตยครึ่งใบ เพราะประชาธิปไตยครึ่งใบจะเผชิญแรงเสียดทาน ดังที่เคยเผชิญมาแล้วตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่มีวันจบสิ้น ดังนั้นทางรอดของไทยจึงมีแต่ประชาธิปไตยเต็มใบเท่านั้นที่จะพาประเทศไปสู่ความสงบเรียบร้อย แต่ประชาธิปไตยอย่างเดียวไม่พอ เพราะเราก็เคยมีประชาธิปไตยเต็มใบมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด จึงต้องมีข้อ 2

2. การมีประชาธิปไตยไม่โกง เพราะโกงเมื่อไหร่ จะเข้าเงื่อนไขยึดอำนาจ สุดท้ายวงจรอุบาทว์ก็กลับมา

“ผมขอส่งสัญญาณไปยังพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ทุกคน ขอส่งสัญญาณไปยังพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศทุกคน ขอขอบคุณทุกกำลังใจขอขอบคุณ ทุกคะแนนเสียงที่พี่น้องช่วยสนับสนุนเราในทุกครั้งตั้งแต่มีประชาธิปัตย์ก่อกำเนิดขึ้นมา และขอถือโอกาสนี้เรียกร้องพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศให้มาร่วมกันสนับสนุนวิถีประชาธิปไตยไม่โกงของประชาธิปัตย์และเรียกร้องไปยังพี่น้องประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ที่คราวที่แล้วแม้ในยามวิกฤติครั้งหนึ่งของประชาธิปัตย์แต่พี่น้องยังไม่ทิ้งเรา ยังช่วยเลือกเรา ขอให้ยืนหยัดเลือกประชาธิปัตย์ต่อไป อย่าเปลี่ยนแปลง สำหรับพี่น้องชาวประชาธิปัตย์ที่ทิ้งเราไปในคราวที่แล้ว เพราะอุบัติเหตุทางการเมือง ผมขอวิงวอนให้กลับมา กลับบ้านเรา กลับมาจับมือกับพวกเรา ชาวประชาธิปัตย์ทุกคน เพื่อพาสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศ สถาบันนี้ที่ชื่อประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้าด้วยกัน และไม่ใช่ทำเพื่อเรา ไม่ใช่ทำเพื่อประชาธิปัตย์ แต่ทำเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศไทยอย่างยั่งยืนต่อไปหลังการเลือกตั้ง เพื่อให้ประเทศมีความเจริญรุ่งเรืองต่อไป” นายจุรินทร์ กล่าว...