เส้นทางพิสูจน์ม้า เวลาพิสูจน์คน เป็นสัจธรรมที่แท้จริง การเลือกตั้งคราวนี้ จะเป็นบทพิสูจน์ บทบาทของผู้นำ ของแต่ละพรรคการเมือง ที่จะชูธงนำพรรคชนะการเลือกตั้งและเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค กับกติกาการเลือกตั้ง บัตรสองใบ เลือกพรรคกับเลือกคน ยิ่งจะทำให้พรรคการเมืองต้องระมัดระวังต่อการพิสูจน์ตัวเอง ในการที่จะเข้ามาทำหน้าที่รับใช้ประชาชน

นโยบายก็ส่วนหนึ่ง วิสัยทัศน์ส่วนหนึ่ง บทบาทของการเป็นผู้นำก็ส่วนหนึ่ง ถ้าขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใด องค์ประกอบไม่ครบ ก็ไม่สามารถที่จะเดินไปสู่เป้าหมายได้

บทเรียนที่เกิดขึ้นกับ สาม ป. พลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ วันนี้ ณ จุดนี้ ถ้าสาม ป. ยังมีเสถียรภาพมากกว่านี้ สถานการณ์ก็คงไม่เลวร้ายไปกว่านี้ องค์ประกอบของพลังประชารัฐ เมื่อตอนเลือกตั้งปี 2562 กับวันนี้ แตกต่างกันมาก วันนั้น มีคนอยากจะเข้ามาร่วมงาน เพราะมองเห็นอนาคตและแสงสว่างจากวิกฤติการเมือง ที่ยืดเยื้อยาวนาน

แต่วันนี้มีแต่คนอยากจะออกเพราะมองเห็นแล้วว่าจะเป็นการต่อยอดวิกฤติการเมืองให้ยืดเยื้อออกไปอีก ในขณะที่สถานการณ์สิ่งแวดล้อมทางการเมืองที่เปลี่ยนไป คนไทยฉลาดขึ้นเข้าสู่ข้อมูลข่าวสารมากขึ้น และสามารถที่จะใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการชี้นำได้มากขึ้น

ความมีบารมี กับ ความเป็นผู้นำ เป็นของคู่กัน ถ้ามีบารมี แต่ไม่มีความเป็นผู้นำ ย่อมไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพที่สมบูรณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นที่ยอมรับในมวลหมู่นักการเมือง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เรียกว่ามีบารมี คนอยากเข้าบ้านป่ารอยต่อ คิวยาวเหยียด แต่โพลเกือบจะทุกสำนักที่ไปสำรวจคะแนนนิยมจากชาวบ้านกลับตรงข้ามกันหน้ามือเป็นหลังมือ

...

การจัดการบริหารในพรรคเกือบจะล้มเหลว โดยเฉพาะโครงสร้างพรรคและบุคลากรพรรค การปล่อยให้คนนอกเข้ามามีบทบาทในพรรคมากกว่าคนที่ทำงานหรือเป็นกรรมการบริหารพรรค โดยเฉพาะมือที่สาม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่างจาก พล.อ.ประวิตร โดยสิ้นเชิง ไม่ค่อยเห็นภาพ พล.อ.ประยุทธ์ กับคนภายนอก ยกเว้นพวกห้อยโหน ขาประจำไม่กี่คน ไม่เปิดบ้านไม่ร่วมโต๊ะกินข้าวกับนักการเมืองง่ายๆ แม้แต่การลงพื้นที่ ก็ถูกยัดสคริปต์ใส่มือ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ชาวบ้านที่อยากกระโดดไปหอมแก้ม ยังลังเล กล้าๆกลัวๆ

แต่ คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ กับ รวมไทยสร้างชาติ กลับดีกว่า พล.อ.ประวิตร และพลังประชารัฐ ที่แตกต่างกันทั้งโครงสร้างพรรคและบุคลากร ระบบบริหารจัดการภายใน ทั้งที่พรรคหนึ่งเคยผ่านร้อนผ่านหนาวทางการเมืองมาพอสมควร แต่อีกพรรคเป็นเพียงเหล้าเก่าในขวดใหม่ ที่ยังบ่มไม่ได้ที่

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับพลังประชารัฐในวันนี้ที่เกิดขึ้นกับ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ ส.ส.ไหลไปกองรวมกันที่เพื่อไทยและภูมิใจไทย เป็นส่วนใหญ่ กับสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ ล้วนแต่ขึ้นอยู่กับความเป็นผู้นำทั้งสิ้น.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th