"วราวุธ" ยืนยัน ความพร้อม "ชาติไทยพัฒนา" สู้เลือกตั้ง หลังมี พ.ร.ฎ.ยุบสภา มั่นใจได้ ส.ส.เขตไม่น้อยกว่า 12 คน และบัญชีรายชื่อไม่ต่ำกว่า 5 เตรียมลุยหาเสียงอีสาน 24-26 มี.ค. มั่นใจ นโยบาย "ว้าว ไทยแลนด์" โดนใจคนทุกภาค

วันที่ 22 มี.ค. 2566 ที่ทำการพรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคนัดแรก หลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา และให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ว่า ได้มีการพูดคุยกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก่อนหน้านี้แล้วว่า หากมีการยุบสภา หากยังมี ครม. อยู่ก็ต้องทำหน้าที่รัฐมนตรีอย่างมีประสิทธิภาพ แยกเรื่องการเมือง และการบริหารราชการแผ่นดินออกจากกัน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือกระทรวงอื่นๆ ก็ต้องทำงานเหมือนเดิม และขอให้เพื่อนๆ ข้าราชการ อย่าเพิ่งเกียร์ว่าง เพราะปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้ขึ้นอยู่กับการยุบสภา หรือการเลือกตั้ง

ส่วนการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี กับการหาเสียง นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่มีปัญหา และตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยเอางานการเมืองมาเกี่ยวข้องกับงานกระทรวงอยู่แล้ว และทุกครั้งที่ออกตรวจราชการ ก็เป็นการทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยว อย่างเช่น การลงตรวจราชการที่เขตบางขุนเทียน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ได้แจ้งให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ เข้ามามีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือพรรคใดก็แล้วแต่ ยืนยันว่า ไม่มีการพูดการเมือง ใส่เสื้อพรรค หรือพูดถึงการหาเสียงในเชิงใดๆ ทั้งสิ้น

...

เมื่อถามว่า จะต้องกำชับสมาชิกพรรคในเรื่องนี้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ได้กำชับทุกคนในพรรคว่า การเข้าร่วมงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานรื่นเริง งานบวช งานศพ หรืองานแต่งงาน อย่างตนเองที่ไปร่วมงานวัน อสม. แห่งชาติ ที่ จ.สุพรรณบุรี ก็ระมัดระวังตัวให้มากขึ้น เพราะเกรงว่า จะเข้าข่ายมหรสพ การจัดเลี้ยงก็ขอให้งดไปก่อน รวมถึงการขึ้นเวทีต่างๆ ก็ขอให้ระมัดระวังคำพูดไม่ให้เป็นการหาเสียง

เมื่อถามถึงยุทธศาสตร์ของพรรคในการเลือกตั้งปี 2566 นายวราวุธ ระบุว่า ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ก่อนยุบสภา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. หรือ อดีต ส.ส. ได้ทำงานในพื้นที่ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้กันอย่างเต็มที่ และมีผู้สมัครหน้าใหม่ คนรุ่นใหม่ และผู้ใหญ่ ที่มีความเชี่ยวชาญงานการเมือง ก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ ขณะนี้เหลือเวลาอีก 53 วัน ก่อนที่จะถึงวันที่ 14 พฤษภาคม ที่จะลงคะแนน ก็ขอให้ทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะวันรับสมัครรับเลือกตั้ง 3-7 เมษายน ทุกคนจะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม ดังนั้นวันที่ 31 มีนาคม พรรคจะประชุมใหญ่สามัญประจำปี เพื่อเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติม และปฐมนิเทศว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคทั่วประเทศ

ส่วนกระบวนการทำไพรมารีโหวต เพื่อคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายวราวุธ กล่าวว่า ได้เตรียมการไว้หมดแล้ว และถือว่าเป็นเรื่องดีที่มีการแก้ไขระเบียบไปบางส่วน ทำให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น "อย่างที่เรียนว่าการเขียนระเบียบกติกาใดๆ ขึ้นมา คนเขียนไม่ได้ปฏิบัติ คนปฏิบัติไม่ได้เขียน ก็ต้องขอขอบคุณที่มีการแก้ไข ไม่เช่นนั้นช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงที่มีความโกลาหล หายังใช้กติกาแบบเดิม ซึ่งวันนี้ถือว่ามีความสะดวกมากขึ้น และสามารถดำเนินการได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ"

ส่วนเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่มีการไปร้องศาลปกครอง จะมีผลอย่างไรหรือไม่ นายวราวุธ ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ขอก้าวล่วงอำนาจศาล หากตัดสินไปอย่างไร ก็ให้เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้องดำเนินการแก้ไขต่อไป อย่างไรก็ตามในประเด็นเขตเลือกตั้งมีข้อท้วงติงมา กกต. ก็ควรจะรับไว้พิจารณา แต่สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา พื้นที่ต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ จนถึงนาทีนี้ก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ ที่จะไปท้วงติง และทำหน้าที่ของตนเองให้เต็มที่ เพื่อเข้าสู่วันลงคะแนนในวันเลือกตั้ง

เมื่อถามว่าการร้องศาลปกครอง มีการประเมินว่าอาจนำไปสู่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ นายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องนี้อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ และขณะนี้มีการประเมินสถานการณ์ออกมามากมาย และส่วนใหญ่ก็จะเป็นไปในทางลบ แต่ขณะนี้เรากำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้ง เปลี่ยนผ่านประเทศไทย ก็อยากให้มองไปในทางที่สร้างสรรค์ไว้ก่อน และเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด แต่หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นภายหน้า ก็ค่อยไปแก้ไขกัน เพราะเป็นปัญหาที่ทุกพรรคการเมืองเจอเหมือนกัน ไม่ใช่แค่พรรคการเมืองใด การเมืองหนึ่ง

นายวราวุธ ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียง จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.ยโสธร สุดสัปดาห์นี้ ว่า เป็นพื้นที่คาดหวังว่าจะได้พื้นที่เพิ่ม เพราะการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ภาคอีสาน ได้ ส.ส. 1 คน คือ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 1 พร้อมเปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 24 มีนาคมนี้ จะตั้งเวทีปราศรัยที่ จ.กาฬสินธุ์ วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม ช่วงเช้าไปร่วมงานที่ จ.ร้อยเอ็ด และวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม จะเป็นการปราศรัยใหญ่ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ยโสธร และนอกจากภาคอีสาน ก็จะมีการประสานงานกับผู้สมัคร ส.ส. ในแต่ละพื้นที่ ว่าต้องการให้ไปทำกิจกรรมในลักษณะใด และยืนยันความพร้อมที่จะปักธงในทุกพื้นที่ที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยตั้งเป้า ส.ส.เขตไว้ไม่ต่ำกว่า 12 เขต

เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ปักธงภาคอีสานครั้งนี้ จะสามารถหยุดแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับประชาชนว่า การนำเสนอของแต่ละพรรคจะโน้มน้าวประชาชนในแต่ละภาคที่มีความต้องการแตกต่างกันได้อย่างไร พรรคชาติไทยพัฒนา ก็คาดหวังว่านโยบาย "ว้าว ไทยแลนด์" การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเปลี่ยนผ่านภาคการเกษตร เพื่อทำให้เงินในกระเป๋าประชาชนเพิ่มขึ้น ที่เป็นแนวทางที่ยั่งยืน จะจูงใจพี่น้องประชาชนได้

เมื่อถามความเห็นกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นสิทธิของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เข้ามาทำบทบาททางการเมืองมากขึ้น และการเลือกตั้งที่จะถึงก็จะเป็นการแสดงให้เห็นว่า เข้ามาทำงานการเมืองเต็มตัว ไม่ได้เข้ามาเป็นเพียงแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เป็นกำลังใจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ในการทำงาน เช่นเดียวกับทุกพรรค แม้กระทั่งพรรคชาติไทยพัฒนา แกนนำพรรคก็จะอยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับต้นๆ รวมถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งขณะนี้มีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อครบ 100 คนแล้ว ส่วนการจัดลำดับก็จะต้องหารือกันในพรรคอีกครั้ง

ส่วนแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคชาติไทยพัฒนา จะต้องอยู่ในลำดับที่ 1 หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า จะต้องหารือกันในพรรคอีกครั้ง หลังจากที่ประชุมใหญ่ให้การรับรองเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 31 มีนาคมนี้

เมื่อถามถึงการตั้งเป้า ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวราวุธ กล่าวว่า เฉพาะบัญชีรายชื่อไม่ต่ำกว่า 5 ที่นั่ง โดยจะลำดับความสำคัญ คือ การเติมเต็มความเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา และมีความเชี่ยวชาญ ความชำนาญที่หลากหลาย ซึ่งก็จะต้องมาพิจารณากันอีกครั้ง