“แพทองธาร” นำทัพเพื่อไทย เปิดตัว 3 นโยบายหลัก ชู “คนไทยไร้จน” อาสาพาไทยเป็น ศูนย์กลางเทคโนโลยีการเงินอาเซียน แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 จริงจัง

วันที่ 17 มีนาคม 2566 ที่ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีงาน “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” เปิดตัวนโยบายใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้ประสงค์ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 400 คน

นางสาวแพทองธาร กล่าวบนเวทีประกาศความพร้อมพรรคเพื่อไทยที่จะพาประเทศไทยข้ามผ่านวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่กำลังเผชิญทั้งสภาวะยากจน สภาวะสงคราม และโรคระบาด หมดเวลายื้ออำนาจรัฐบาลที่ไม่เข้าใจประชาชน ขาดความรู้ ความเท่าทันสถานการณ์โลก เพราะท่ามกลางปัญหาที่ถูกทับถมเอาไว้ หากคิดไม่ใหญ่ เอาไม่อยู่

พรรคเพื่อไทยจึง “คิดใหญ่ ทำเป็น” พร้อมประกาศ 3 นโยบายที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยให้อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี

เริ่มจากนโยบายแรก ลดช่องว่างรายได้คนไทยที่ต้องช่วยเหลือทันที ให้ทุกคนมีรายได้เพียงพอ ต่อการดำรงอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี มีรายได้ที่สูงมากกว่าอัตราเงินเฟ้อ เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยมีอัตราเติบโตของรายได้ต่อหัวโตช้ากว่าประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียน พรรคเพื่อไทยจึงมีนโยบายเติมรายได้ให้ทุกครอบครัวมีรายได้ขั้นต่ำ 20,000 บาท / เดือน เราจะเติมเงินให้ในระยะชั่วคราวไปจนกว่านโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนจะสำเร็จ เพื่อให้เงินหมุนเวียนในระบบ รัฐก็จะมีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น แพทองธารเพิ่มเติมว่านโยบายนี้อาจดูเหมือนประชานิยม แต่ความจริงแล้วคือการยกระดับ GDP ประเทศ เงินที่จะใช้ ก็จะมาจากภาษีที่เก็บได้เพิ่มขึ้นนั่นเอง

...

พรรคเพื่อไทย เวทีงาน “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” เปิดตัวนโยบายใหม่ พร้อมผู้ประสงค์ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 400 คน
พรรคเพื่อไทย เวทีงาน “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” เปิดตัวนโยบายใหม่ พร้อมผู้ประสงค์ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 400 คน

ถัดมาในนโยบายที่สองคือการสร้าง Blockchain ที่จะทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลาง Fintech (เทคโนโลยีทางการเงิน) ของอาเซียน เปิดโอกาสให้คนไทยสามารถระดมทุนจากทั่วโลกได้ โดยเฉพาะภาคธุรกิจขนาดเล็ก รวมทั้งการระดมทุนให้กับเกษตรกร ตลอดจนการขายสินค้าล่วงหน้า รวมถึงผู้ที่มีความสามารถทางด้านอื่นๆ ก็จะขายผลงานของตนไปทั่วโลกได้สะดวกขึ้น ผ่านระบบที่ง่ายเหมือนแอปพลิเคชันธนาคารในโทรศัพท์

และนโยบายที่สาม น.ส.แพทองธารได้เน้นย้ำปัญหา PM 2.5 ที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยยกภาพถ่ายดาวเทียมของนาซาที่แสดงร่องรอยสีแดงในประเทศไทย และเพื่อนบ้าน อันเกิดจากการเผาป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอย

จึงต้องมีการแก้ไขร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยการเจรจา หาทางออก และการแก้ปัญหา ทั้งยังสนับสนุนการเกษตรให้ใช้การย่อยสลายแทนการเผาเพื่อการเกษตร ในส่วนมลภาวะที่เกิดจากการคมนาคม และอุตสาหกรรม จะใช้นโยบายลดภาษีรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษทางอากาศไม่เกินมาตรฐาน, รถยนต์ไฟฟ้า และเปลี่ยนเครื่องจักรที่ปล่อยมลพิษให้หมดไปโดยเร็ว

ก่อนปิดท้ายการแถลงนโยบาย นางสาวแพทองธารได้ฝากถึงว่าที่ผู้ประสงค์ลงสมัคร ส.ส. ทั้ง 400 คนให้มีโอกาสได้รับเลือกเข้าไปเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนในสภา

“ร่วมสานต่อนโยบายทั้งหมดของพรรคเพื่อไทยให้สำเร็จ ช่วยกันแก้ปัญหาที่หมักหมมมา 8 ปี ให้เบาบาง และหายไปโดยเร็ว” นางสาวแพทองธาร กล่าว