"ชูวิทย์" แถลง บุก กกต. 17 มี.ค. ยื่น ยุบพรรคภูมิใจไทย ปมใช้นอมินี มารับงานกระทรวงที่ตนดูแล และจัดทำเสื้อยืดโกงชูชก พร้อมออกรณรงค์ "ทำลายเสียง" ไม่ลงคะแนนให้ภูมิใจไทย หลัง ครม. ถอนวาระ "รถไฟฟ้าสายสีส้ม"
วันที่ 15 มีนาคม 2566 ที่ โรงพยาบาลศิริราช นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว กรณีที่ประชุม ครม. ได้ถอนวาระการพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ว่า นาย วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีไทย พูดผิดในประเด็นที่ระบุว่าไม่มีการล็อกสเปกเพราะศาลปกครองตัดสินแล้ว แต่ที่จริงแล้วศาลปกครองสูงสุดตัดสินเรื่องการแก้ไขหลักเกณฑ์ ปี 2563 จากหลักเกณฑ์ต้องถูกและดี เป็นใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาส่วนประเด็นการล็อกสเปกเป็นเรื่องที่ถูกยื่นเข้าไปในปี 2565 และศาลปกครองสูงสุดยังไม่มีการตัดสินในประเด็นดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีคดีค้างอยู่ที่ศาลปกครองอีก 2 คดี คือ การยกเลิกการประมูลโดยมิชอบเมื่อปี 2563 โดยชั้นต้น รฟม. แพ้คดี ขณะนี้คดีอยู่ที่ศาลปกครองสูงสุด ส่วนคดีที่ 2 คือการล็อกสเปก ครั้งที่ 2 ยังอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลปกครอง
...
ทั้งนี้ ตนไม่ได้เข้าข้างหรือสนับสนุน BTS หาก ช.การช่าง ลดราคาการประมูลมา ตนก็พร้อมจะเชียร์ ขณะที่ผลตอบแทนที่ให้รัฐบาลก็มีมูลค่าที่ต่างกัน BTS ให้ผลตอบแทน 70,000 ล้านบาท แต่ BEM ให้ผลตอบแทน 7,000 กว่าล้านบาท แต่รัฐบาลกลับเลือกบริษัทที่ให้ผลตอบแทนน้อยกว่า เพื่อรับส่วนต่างในการใช้ในการหาเสียง
ตนจึงต้องดำเนินการในนามของประชาชน ออกรณรงค์ทำลายเสียง และในวันศุกร์นี้ ตนจะเดินทางไปที่ กกต. เพื่อยื่นเรื่อง ขอยุบพรรคภูมิใจไทย ที่ใช้นอมินีในการเข้ามารับงานประมูลในกระทรวงที่ตัวเองดูแล และขอให้มีการยุบพรรคก่อนเลือกตั้ง หากยุบพรรคหลังเลือกตั้ง ส.ส. ที่ได้รับเลือกมาจะเปลี่ยนไปสังกัดพรรคอื่นได้
สำหรับการทำลายเสียงนายชูวิทย์ ระบุว่า ตนจะจัดทำหนังสือที่รวบรวมผลงานของพรรคภูมิใจไทย โดยเป็นสมุดว่างเปล่า ผลิต 200,000 เล่ม เพื่อกระจายให้ประชาชนได้เห็นว่า ผลงานของพรรคภูมิใจไทย คือ ความว่างเปล่า พร้อมจัดทำเสื้อยืด "ใครโกงชูชก" โนคอร์รัปชัน แจกฟรี 2 แสนตัว โดยจะแจกในจุดที่ตนไปทำลายเสียง
จากนั้นนายชูวิทย์ได้เดินทางไปทำลายเสียง ตามที่ให้สัมภาษณ์โดยลงพื้นที่บริเวณตลาดวังหลัง และได้รับการตอบรับจาก พ่อค้า แม่ค้า ย่านตลาดวังหลัง เป็นอย่างดี พร้อมกับมีการประชาสัมพันธ์และเชิญชวนให้ประชาชนไม่ลงคะแนนเสียงให้พรรคภูมิใจไทย.