ครม.เห็นชอบ กำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาล รูปแบบสลากฯ 6 หลัก และสลากฯ ตัวเลข 3 หลัก หวังเพิ่มทางเลือกในการซื้อสลากฯ แบบถูกกฎหมายมากขึ้น พร้อมให้ดูแลกลุ่มผู้ขายที่เป็นผู้ด้อยโอกาสและคนพิการ
วันที่ 14 มี.ค. 66 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบหลักการการกำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลประจำปี 2565 ได้แก่ สลากฯ 6 หลัก (Lottery 6: L6) และสลากฯ ตัวเลข 3 หลัก (Numbers 3: N3) หวังเพิ่มช่องทางจำหน่ายสลากฯ ในรูปแบบดิจิทัล จากการจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย เพิ่มทางเลือกในการซื้อสลากแบบถูกกฎหมายมากขึ้น โดยผู้ซื้อสามารถเลือกตัวเลขได้ตามความต้องการ ช่วยลดการเสี่ยงโชคนอกระบบและผิดกฎหมายให้ลดน้อยลง
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้จัดทำแผนวิสาหกิจประจำปี 2564-2570 ซึ่งกำหนดเป้าหมายระยะสั้นให้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยในประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อ 28 เมษายน 2565 เห็นชอบการกำหนดประเภทและรูปแบบสลากฯ ประจำปี 2565 ได้แก่ สลากฯ L6 และสลากฯ N3 สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. รูปแบบสลากฯ ได้แก่
-สลากฯ 6 หลัก (Lottery 6: L6) ประกอบด้วยตั้งแต่ 000000-999999 จำหน่ายออกเป็นชุด ชุดละ 1 ล้าน ฉบับ/รายการ โดยเป็นการกำหนดหมายเลขไว้ล่วงหน้า (มีหมายเลขจำกัด) ไม่สามารถเลือกเลขซ้ำกันได้ในแต่ละชุด โดยจำหน่ายทั้งแบบใบ และแบบดิจิทัล (เป็นรูปแบบเดียวกับที่ สนง.สลากฯ ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน)
-สลากฯ ตัวเลข 3 หลัก (Numbers 3: N3) ประกอบด้วยหมายเลข 3 หลัก ตั้งแต่ 000-999 ไม่มีการกำหนดหมายเลขไว้ในระบบ ผู้ซื้อสามารถเลือกตัวเลขได้ตามความต้องการ ซึ่งทุกๆ การซื้อ 1 รายการ จะได้หมายเลขรางวัลพิเศษ 1 หมายเลข (เป็นรูปแบบใหม่ที่ สนง.สลากฯ ยังไม่เคยดำเนินการมาก่อน) ทั้งนี้ จำหน่ายเฉพาะแบบดิจิทัล
...
2. การจ่ายเงินรางวัลนั้น เงินรางวัลคิดเป็นร้อยละ 60 ของยอดการจำหน่ายสลากในแต่ละงวด โดยกำหนดสัดส่วนในการจัดสรรเงินรางวัลประเภทต่างๆ ดังนี้
สลาก L6 มีเงินรางวัล 9 ประเภท คือ รางวัลท่ี 1 (1 รางวัล) รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 (2 รางวัล) รางวัลท่ี 2 (5 รางวัล) รางวัลท่ี 3 (10 รางวัล) รางวัลที่ 4 (50 รางวัล) รางวัลที่ 5 (100 รางวัล) รางวัลเลขหน้า 3 ตัว (2,000 รางวัล) รางวัลเลขท้าย 3 ตัว (2,000 รางวัล) รางวัลเลขท้าย 2 ตัว (10,000 รางวัล) (ไม่สมทบเงินรางวัล กรณีท่ีงวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัล ให้นำเงินรางวัลส่งเป็นรายได้แผ่นดิน)
สลาก N3 มีเงินรางวัล 4 ประเภท ได้แก่ รางวัล 3 ตรง (ถูกทุกหมายเลขและทุกตำแหน่ง) ร้อยละ 30
รางวัล 3 สลับหลัก (ถูกทุกหมายเลขแต่สลับตำแหน่ง) ร้อยละ 30
รางวัล 2 ตรง ถูกทุกหมายเลขและทุกตำแหน่ง ร้อยละ 39
และรางวัลพิเศษ (ตรงกับรางวัลพิเศษ) ร้อยละ 1
นอกจากนี้ จะมีการสบทบเงินรางวัล กรณีที่งวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะนำเงินรางวัลในงวดนั้นไปสมทบเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลในงวดถัดไปอีก 1 งวด และหากไม่มีผู้ถูกรางวัลอีก ให้นำเงินรางวัลส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
กระทรวงการคลัง แจ้งว่า การกำหนดประเภทสลากฯ ทั้ง 2 รูปแบบดังกล่าวเชื่อได้ว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากฯ เกินราคาได้ เนื่องจากเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสลากฯ ในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งมีการกำหนดราคาซื้อ-ขายจากระบบการจำหน่ายได้เอง และการจำหน่ายสลากฯ N3 ผู้ซื้อสามารถเลือกตัวเลขได้ตามความต้องการ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มทางเลือกในการซื้อสลากฯ แบบถูกกฎหมายมากขึ้น ช่วยให้การเสี่ยงโชคนอกระบบและผิดกฎหมายลดน้อยลง นอกจากนี้การจำหน่ายสลากฯ ทั้ง 2 รูปแบบจะช่วยให้ สนง.สลากฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น และมีเงินนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินเพิ่มขึ้นด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำในที่ประชุมครม.ให้พิจารณาดำเนินการด้วยความรัดกุม รอบคอบและเหมาะสม โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ขายที่เป็นผู้ด้อยโอกาสและคนพิการ นอกจากนี้ให้พิจารณาข้อจำกัดในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยขายสลากแบบดิจิทัลด้วย รวมทั้งดูแลกลุ่มผู้ขายสลากฯ แบบใบ ที่อาจมีรายได้ลดลงจากการถูกปรับลดจำนวนสลากฯ เนื่องจากมีการขายสลากฯ แบบดิจิทัลควบคู่กัน เป็นต้น.