ตำรวจ นำประกาศแก้ไขการชุมนุม มาอ่านให้ม็อบหน้าศาลฎีกาทราบ เพื่อให้เร่งปลดป้ายโจมตีศาลลง แต่มวลชนไม่ฟัง พร้อมแสดงท่าทีหยาบคายใส่ โห่ไล่ ก่อนกระชากเอกสารทิ้งท่อระบายน้ำ จนท.บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน
เมื่อเวลา 17.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของม็อบอดอาหารหน้าศาลฎีกาว่า ระหว่างรอคำตอบจากศาลฎีกาว่าจะให้เข้าไปใช้พื้นที่ชุมนุมภายในบริเวณศาลได้หรือไม่ ได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้นเล็กน้อยเมื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.1 และสน.ชนะสงคราม เดินมาอ่านประกาศ คำสั่งให้แก้ไขการชุมนุมสาธารณะตามมาตรา 11 วรรค 2 ที่ลงนามโดย พ.ต.อ.เสนาะ พูนเพชร ผกก.สอบสวน บก.น. 1 รักษาราชการแทน ผกก.สน.ชนะสงคราม เพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทราบมีใจความว่า
...
"แจ้งมายัง น.ส.อรัญญิกา จังหวะ ซึ่งเป็นผู้ทำหนังสือแจ้งการชุมนุมไว้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 วรรค 2 ของ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ 2553 ขอให้ปรับแก้การชุมนุมให้ถูกต้อง เนื่องจากท่านไม่ได้ควบคุมให้ผู้ชุมนุมอยู่เฉพาะบนทางเท้าหน้าศาลฎีกา มีผู้ชุมนุมลงมาบนพื้นผิวการจราจร มีการจอดรถในที่ห้ามจอดรถ และกีดขวางทางเข้าออก รบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้สถานที่ของหน่วยงานรัฐ ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน และพบป้ายที่มีข้อความหมิ่นประมาท หรือดูหมิ่นผู้อื่นมาติดไว้ จึงขอให้แก้ไขโดยปฏิบัติตามข้อกำหนด และนำป้ายที่มีข้อความหมิ่นประมาทผู้อื่นออก ภายในเวลา 07.00 น.วันที่ 28 ก.พ."
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่ได้อ่านประกาศแจ้งไปยังผู้ชุมนุม ปรากฏว่า ได้มีมวลชนชาวม็อบทั้งหญิงชายปรี่เข้ามารุมล้อมพร้อมตะโกนด่าทอชูนิ้วกลางใส่ และพยายามขับไล่เจ้าหน้าที่ให้ออกนอกพื้นที่ และเมื่อตำรวจพยายามเข้าไปติดหมายแจ้งเตือน บริเวณฟุตปาทหน้าศาลฎีกา ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมนุม ก็ปรากฏว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมพยามยามเข้ามาขัดขวาง ตำรวจจึงได้ติดหมายไว้ที่เสาไฟฟ้า น.ส.วรัณยา แซ่ง้อ หรือ สาวนุ้ย คู่หู นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ จึงได้เข้าไปดึงเอกสารของเจ้าหน้าที่ลงมาแล้วหย่อนลงในท่อระบายน้ำ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของมวลชน ตำรวจทำอะไรไม่ถูกจึงได้แค่บันทึกภาพแล้วเดินทางออกนอกพื้นที่ทันที