นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง แนวโน้มฟื้นตัวดี การเงินการคลังมีเสถียรภาพ จัดเก็บรายได้ 4 เดือนแรกงบปี 66 เกินเป้า 9.1 หมื่นล้าน เงินสำรองระหว่างประเทศอยู่อันดับต้นๆ ของโลก

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เชื่อมั่นการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้น หลังทราบรายงานการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิ 4 เดือนแรกปีงบประมาณ 2566 รวมทั้งอีกปัจจัยบวกตัวเลขเงินสำรองระหว่างประเทศของไทยที่เพิ่มมากขึ้น สะท้อนถึงการเตรียมพร้อมด้านความมั่นคงทางการเงินของรัฐบาล และเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว

โฆษกรัฐบาล กล่าวต่อไปว่า กระทรวงการคลังเปิดเผยการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงเดือนตุลาคม 2565-มกราคม 2566 พบว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 สามารถจัดเก็บรายได้สุทธิ 836,643 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 91,339 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.3 โดยการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร รวมกันอยู่ที่ 820,825 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 45,646 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 5.9

นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังเปิดเผยตัวเลขเงินสำรองระหว่างประเทศรวม (Gross International Reserves) เดือนมกราคม 2566 อยู่ที่ 225,486.90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2565 ซึ่งมีอยู่ที่ 216,632.54 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูล ณ 10 กุมภาพันธ์ 2566) โดยเงินสํารองระหว่างประเทศ จะเป็นสินทรัพย์ต่างประเทศที่สามารถนํามาใช้ประโยชน์ได้ทันทีหากจําเป็น อาทิ การนำมาใช้กรณีชดเชยการขาดดุลการชําระเงิน หรือใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน 

...

“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งการรักษาความมั่นคงทางการเงินของประเทศ ตลอดจนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ ผ่านการดำเนินมาตรการทางเศรษฐกิจที่บูรณาการอย่างมีเป้าหมาย นอกจากนี้ เศรษฐกิจของไทยยังถือว่ามีความแข็งแกร่ง มีเสถียรภาพการคลัง และประเทศไทยยังเป็นประเทศที่มีทุนสำรองระหว่างประเทศ (ไม่รวมทองคำ) มากที่สุดอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก จากการจัดอันดับของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ซึ่งนายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้าอย่างสมดุล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนชาวไทยทุกคน”.