“สมศักดิ์” แจง ไม่เคยขับไล่ 4 กุมาร ครั้งนั้นเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ยัน ไม่มีปัญหาหลัง “อุตตม-สนธิรัตน์” กลับมาร่วมงาน แย้มสามมิตรแตกพรรคขยายครอบครัว บอกตอนนี้ “ทนายตั้ม” ยังไม่ลงการเมือง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ม.ค. 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีที่ นายอุตตม สาวนายน และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ กลับเข้าพรรคพลังประชารัฐ จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ เพราะเคยร่วมลงชื่อขับไล่ออกจากกรรมการบริหารพรรค ว่า อย่าใช้คำว่าลงชื่อขับไล่ ไม่เคยขับไล่ ช่วงนั้นเท่าที่จำได้เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค ความเหมาะสมของสถานการณ์ต่างๆ มีการเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่ ยืนยันไม่มีปัญหาการทำงานร่วมกัน เป็นเรื่องการตัดสินใจของผู้ใหญ่ ทางการเมืองเราไม่สามารถเลือกงานได้ เมื่อผู้ใหญ่ของพรรคกำหนดทิศทางอย่างไร เราก็ต้องทำตัวให้เหมือนกับน้ำในแก้วที่มีน้ำแข็งอยู่ ต้องมีการประสานให้เป็นเนื้อเดียวกัน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อทั้ง 2 คนกลับมาจะทำให้พรรคดีขึ้น หรือจะทำให้ความขัดแย้งกลับมาอีกหรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่า การที่มีบุคลากรมีความรู้เข้ามาเสริมให้แน่นขึ้น มันต้องดีขึ้น เมื่อถามต่อไปคิดว่าทั้งคู่จะทำงานร่วมกับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ทีมเศรษฐกิจ ได้ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ ระบุว่า เราต้องทำตัวให้เหมือนน้ำในแก้วที่มันสามารถพัฒนาหรือปรับเข้าสู่สภาพ หรือภาชนะอะไร เราก็ปรับให้เป็นไปตามนั้น

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และนายอุตตม สาวนายน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และนายอุตตม สาวนายน

...

ขณะที่จนถึงขณะนี้ยังยืนว่ายังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น” ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากลุ่มสามมิตรจะอยู่ครบกันทั้ง 3 คนเลยหรือไม่ ได้คำตอบว่า “ผมเข้าใจว่ามันก็เหมือนครอบครัวใหญ่ มีลูกมีหลานก็ต้องออกเรือนกัน ถ้าออกเรือนไป ไปเติบใหญ่ ไปเป็นเถ้าแก่ ที่นู่น ที่นี่ ที่นั่นได้ มันก็ดี ถ้าเราออกเรือนไปแล้วไม่สามารถเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ได้ก็เท่าทุน ซึ่งต้องให้โอกาสแต่ละคน คงไม่ได้ไปบังคับว่าต้องอยู่ตรงนี้ตรงนั้น เราไม่ใช่นักเลง เราเป็นคนทำงาน ต้องให้โอกาสคน เหมือนกับครอบครัว เมื่อแต่งงานมีลูกมีหลานขยายออกไป ไม่มีอะไร”

เมื่อถามย้ำแสดงว่าทั้ง 3 คน มีโอกาสที่จะไม่ได้อยู่ด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์ พยักหน้ายอมรับ จึงถามต่อไปว่าการที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐประกาศก้าวข้ามความขัดแย้ง ถือเป็นการการันตีการเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง 2566 ใช่หรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ บอกว่า “ผมบอกแล้วไง 99% บอกมานานแล้ว ขณะนี้ก็ยังไม่เปลี่ยน”

อย่างไรก็ตาม กรณีที่เชิญ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ไปร่วมงานระดมทุนพรรคพลังประชารัฐ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ได้คุยกับเขาแล้ว เขาไม่ได้เล่นการเมือง แต่ในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เมื่อโอกาสและเวลามาแล้วก็เรื่องของท่าน ตนเองก็ไม่ได้พบกับนายษิทราตลอดเวลา แต่เขาเคยมาช่วยงานเรื่องกฎหมาย เลยเชิญมางานระดมทุนของพรรค.