“อนุทิน” ปัดไม่เคยจีบ “วีระกร” แต่เจอในสภาสบตาแล้วปิ๊ง เห็นเป็นคนทำงานลงพื้นที่นครสวรรค์ก็มาต้อนรับถี่ ยันไม่เคยดูด ส.ส. มีแต่แรงดึงดูดที่เป็นพลวัตร ทำให้คนอยากมาอยู่ด้วย

วันที่ 11 ม.ค. 2566 ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้การต้อนรับ พร้อมสวมเสื้อแจ็กเก็ตพรรคภูมิใจไทยให้แก่ นายวีระกร คำประกอบ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศลาออกกลางสภาฯ วานนี้ พร้อมด้วย นายทีฆะพล ทวีเกื้อกูลกิจ รองนายก อบจ. จ.ตาก ที่มีความประสงค์จะลงสมัคร ส.ส. เขต 2 จ.ตาก ทั้งนี้ นายวีระกร และ นายฑีฆะพล ได้จ่ายเงิน 2,000 บาท เพื่อสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทยตลอดชีพ

โดย นายอนุทิน กล่าวว่า คนที่เข้ามาทำงานกับพรรคภูมิใจไทยต้องศึกษาแนวทางนโยบาย ใครที่ต้องการรับใช้ประชาชนและประเทศ พรรคภูมิใจไทยก็พร้อมให้การต้อนรับ ส่วนจะมี ส.ส.จากพรรคอื่น มาเพิ่มหรือไม่นั้น ย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมที่จะเปิดกว้างรับทุกคนที่ต้องการอยากจะทำงาน แต่ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะมีใครมา ต้องรอไปจนกว่าจะครบกำหนดของกฎหมายที่ไม่ให้ ส.ส. ย้ายพรรค แต่คนที่มาเป็นสมาชิกของพรรคภูมิใจไทยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้สมัคร ส.ส. อย่างเดียว แต่ยังมีกิจกรรมการเมืองอย่างอื่นให้ทำ และพรรคภูมิใจไทยรับทุกคนทุกฝ่าย ไม่ว่าจะฝ่ายวิชาการ ฝ่ายสังคม หรือแม้แต่ทีมเศรษฐกิจที่จะมาทำงานด้านเศรษฐกิจ

นายอนุทิน ยังกล่าวถึง การมาอยู่พรรคภูมิใจไทยของนายวีระกรว่า คำว่าทาบทามไม่มี มีแต่เจอกันในสภาแล้วปิ๊งกัน รวมถึงเมื่อ 3 เดือนที่แล้วตนได้มีโอกาสไปเปิดโรงพยาบาลนครสวรรค์ประชารัฐ ที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ของนายวีระกร ซึ่งนายวีระกรได้มาต้อนรับเต็มที่ พร้อมพาไปแนะนำชาวนครสวรรค์

...

ขณะเดียวกัน ตอนที่ตนได้ไปพบกับ อสม. นครสวรรค์ นายวีระกร ก็ได้ตามคณะลงพื้นที่ไปด้วย จึงได้เห็นการทำงานว่าทำงานให้กับประชาชนอย่างจริงจัง เหมือนกับตัวเองที่ก็ทำงานให้กับประชาชน จึงมีความสำคัญที่ดีต่อกันเรื่อยมา

นายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า ไม่ห่วงคำวิพากษ์วิจารณ์ที่นายวีระการย้ายจากพลังประชารัฐมาอยู่ภูมิใจไทย เพราะถ้าทุกคนวิพากษ์วิจารณ์เชิงบวกและสร้างสรรค์ ก็รับฟังได้ ขณะเดียวกันพรรคภูมิใจไทยก็จะต้องไม่ทำตัวให้นายวีระกรตำหนิติเตียน และไม่ห่วงที่คนของพรรคพลังประชารัฐย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทยหลายคน เพราะทั้งหมดคือเรื่องปกติของการเมือง การที่ ส.ส. ย้ายสังกัดพรรคในช่วงเตรียมพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งมันก็เกิดขึ้นมาตลอดเวลา ตนเองก็เคยย้ายพรรคเหมือนกัน แต่ขึ้นอยู่กับว่า ในช่วงเวลาใดเราอยู่ที่เดิม แล้วไม่สามารถผลักดันในสิ่งที่เคยให้สัญญากับประชาชนไว้ก็ต้องหาที่อยู่ใหม่เพื่อให้ได้ทำงาน เพราะพรรคใหม่มีนโยบายสอดรับกับเจตนารมณ์

“นักการเมืองทุกคนจะต้องคำนึงถึงประชาชนเป็นอันดับแรก อะไรที่ทำให้ประชาชนได้ ทำให้เขามีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีรายได้ดีขึ้น นี่คือสิ่งที่สำคัญกว่า” นายอนุทิน กล่าว

ส่วนกระแสที่ถูกมองว่าเป็นพรรคดูด ส.ส.นั้น นายอนุทิน ย้ำว่า อะไรก็ตามที่เป็นพลวัตร มีการขับเคลื่อน ยิ่งขับเคลื่อนแรง ก็จะเกิดสภาวะดึงดูด นี่เป็นหลักฟิสิกส์ เปรียบเวลาขับรถเล็กตามรถบรรทุกยังมีโอกาสถูกดูดเข้าไป ทั้งหมดนี้มันคือการดึงดูดโดยพลวัตร น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่พรรคภูมิใจไทยขับเคลื่อนนโยบายทุกอย่าง แม้ช่วงนี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายของสมัยสภาผู้แทนราษฎร พรรคภูมิใจไทยก็ยิ่งต้องทำงาน ไม่ใช่จะหยุดทุกอย่างแล้วลงไปหาเสียง ขออย่ามองว่าเป็นการดูด แต่ทั้งหมดคือแรงดึงดูด

นายอนุทิน ยังยืนยันว่า ไม่เคยซื้อ ส.ส. ด้วยเงิน ถ้าเงินเป็นปัจจัยที่สามารถซื้อ ส.ส. ได้ ป่านนี้พรรคการเมืองก็คงไม่ต้องมานั่งแข่งขันนโยบาย และไม่ต้องมาฟาดฟันอะไรกันดุดันขนาดนี้ และยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นเอกเทศ และสิ่งเดียวที่จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนคือนโยบาย และจะส่งการบ้านตามที่เคยได้ให้สัญญากับประชาชนไว้ จึงเป็นที่มาของคำว่า พูดแล้วทำ