รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ทวงสิ้นปีภาษีแล้ว กระทรวงพลังงานยังไม่เก็บภาษีลาภลอยโรงกลั่น อย่าให้ระบอบอุปถัมภ์กัดกินประเทศ ชี้ผลสุดท้ายคนไทยต้องใช้หนี้ยาว 7 ปี

วันที่ 31 ธ.ค. 2565 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสิ้นปีภาษี แต่รัฐบาลยังไม่มีความคืบหน้าในการเก็บภาษีลาภลอยโรงกลั่นน้ำมัน ขณะที่บริษัทโรงกลั่นเริ่มเอากำไร ไปการลงทุนเพิ่ม จ่ายเงินปันผลกันแล้ว

รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ตนและนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค ได้เตือนเรื่องกำไรเกินจริงของโรงกลั่นมาตั้งแต่ มิ.ย. 2565 อันเกิดจากราคาน้ำมันสำเร็จรูปมีราคาห่างจากราคาน้ำมันดิบมหาศาล เพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครน เมื่อช่วงต้นปี ทำให้โรงกลั่นเกิดกำไรเกินจริงไปทั่วโลก โดยหลายประเทศมีการเก็บภาษีลาภลอยในส่วนนี้ เพื่อนำไปบรรเทาสถานการณ์พลังงาน แต่ไทยกลับไม่เก็บภาษีลาภลอย ดันไปเลือกใช้วิธีค้ำประกันหนี้ให้กองทุนน้ำมัน 1.5 แสนล้าน เอาเงินกู้มาอุ้มราคาพลังงาน แทนที่จะเก็บภาษีจากโรงกลั่นที่กำไรมหาศาล

ผลคือคนไทยต้องผ่อนหนี้ให้กองทุนน้ำมันยาวถึง 7 ปี โดยรัฐบวกไว้ในราคาน้ำมันที่เราเติมแบบไม่รู้ตัว เพื่อจ่ายให้กองทุนน้ำมัน เหตุที่เป็นแบบนี้ เพราะกระทรวงพลังงานไม่กล้าไปเก็บภาษีลาภลอย ปล่อยให้โรงกลั่นโกยกำไร

“ผมทวงเรื่องภาษีลาภลอยตั้งแต่หนี้กองทุนน้ำมันยังไม่ถึงแสนล้าน ทางกระทรวงพลังงานบอก จะไปขอบริจาคโรงกลั่น 2 หมื่นล้าน ผมก็ย้ำเตือนว่า โรงกลั่นเป็นบริษัทมหาชนจะบริจาคแบบนั้นได้อย่างไร มันต้องชัดเจน ให้ทำเป็นพระราชกำหนดเก็บภาษีจะชัดเจนกว่า แต่ท่านก็ไม่ทำจนถึงวันนี้ วันสิ้นปีภาษี” ดร.อรรถวิชช์ กล่าว

รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ย้ำอีกว่า 1 ปีผ่านไป อย่าให้ระบอบอุปถัมภ์จากธุรกิจพลังงานกัดกินประเทศ พลังงานเป็นรากฐานของราคาสินค้า ปัญหาของแพง ท่านผู้ใหญ่ทั้งหลายคิดให้ดี ถึงเวลารื้อโครงสร้างพลังงานหรือยัง ช่วยเขาแต่เราประชาชนต่างหากที่เจ็บ

...