“ธนกร” เผย นายกฯ กำชับปรับโฉมประเทศไทยด้วย BCG คาดสร้างมูลค่าเศรษฐกิจแตะ 4.4 ล้านล้าน หรือ 24% ของ GDP ภายในปี 2570 วางอนาคตให้ประชาชนพ้นจากความยากจน พ้นกับดักรายได้ปานกลาง

วันที่ 30 ธ.ค. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประเทศไทยปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยไปสู่รูปแบบใหม่ BCG Economy Model ภายใต้นโยบายและการผลักดันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ที่วางอนาคตให้ประชาชนพ้นจากความยากจน ประเทศพ้นกับดักรายได้ปานกลาง เพิ่มเศรษฐกิจประเทศให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม โดยอาศัยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าสูง เปลี่ยนระบบเศรษฐกิจให้เกิดการเพิ่มผลิตภาพการผลิต ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด ขับเคลื่อนไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2558-2564 มีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม BCG รวม 2,900 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 6.75 แสนล้านบาท และในปี 2564 ประเทศไทยมีการลงทุน ด้าน BCG Economy 1.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 123%

นายธนกร กล่าวอีกว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ประมาณว่า ภายในปี 2570 เศรษฐกิจ BCG จะสร้างมูลค่าถึง 4.4 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 24% ของ GDP นอกจากนี้ รัฐบาลยังตั้งเป้าให้ไทยเป็น “Bio Hub of Asian” ภายในปี 2570 ซึ่งที่ผ่านมามีการลงทุนแล้ว 5 โครงการ มูลค่า 39,870 ล้านบาท และอยู่ระหว่างแผนการก่อสร้างและขับเคลื่อนให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชน จำนวน 4 โครงการ มูลค่า 127,705 ล้านบาท พร้อมทั้งส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรม/ สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่จากของเสีย/วัสดุ เหลือใช้ภายในประเทศ รวมทั้งส่งเสริมการปรับรูปแบบธุรกิจสู่ Circular Business Model และระบบเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ขับเคลื่อนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อตอบโจทย์ NET ZERO EMISSION ด้วยการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของประเทศ ตามนโยบาย 30@30 มีเป้าหมายการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า รถยนต์นั่งและรถกระบะ 725,000 คัน รถจักรยานยนต์ 675,000 คัน รถบัสและรถบรรทุก 34,000 คัน รวมทั้งการผลิตรถไฟระบบราง รถสามล้อ และเรือโดยสารด้วย เพื่อสร้างงานและยกระดับรายได้ของประชากร

...

“ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ท่านนายกฯ สั่งการทุกกระทรวง ทุกส่วนราชการ ให้จัดทำมาตรการหรือโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นการกระจายโอกาส กระจายรายได้ นำความมั่งคั่งไปสู่ชุมชนท้องถิ่นอย่างทั่วถึง เพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น ถือเป็นการเปลี่ยนโฉมประเทศสู่อนาคตที่สดใส ยืนยันว่า ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยจะได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืน” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าว