ดุดันสมกับการเมืองปีเสือ เต็มไปด้วยเกมหักเหลี่ยมเฉือนคม เพื่อห้ำหั่นช่วงชิงอำนาจความเป็นใหญ่ในช่วงที่กำลังนับถอยหลังหมดวาระรัฐบาล 4 ปี
ความขัดแย้งในรัฐบาลปะทุหนัก พรรคร่วมรัฐบาลจับคู่ซัดกันนัวเนีย ไม่สามารถประสานความขัดแย้งได้ แต่ที่ลุกโชนหนักกว่าใครคือ พี่น้อง 2 ป. ปรากฏร่องรอยแตกร้าว ประกาศแยกสร้างดาวคนละดวง
กระทบถึงความไม่เป็นเอกภาพในพรรคพลังประชารัฐ ส.ส.พากันแตกทัพ ย้ายสังกัดจำนวนมาก
ขณะที่แต่ละค่ายการเมือง ต่างเร่งจัดกระบวนทัพ ขายฝันนโยบายหาเสียง เตรียมความพร้อมลงสนามเลือกตั้งเต็มที่ ชนิดไม่มีใครยอมใคร ต้องจับตาทิศทางการเมืองปี 2566 จะเปลี่ยนไปในทางใด
“ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ” ขอย้อนรอยไปทบทวนความทรงจำเหตุการณ์ที่สุดทางการเมืองแห่งปี 2565
แลนด์สไลด์ทะลุล้าน
สร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์สะเทือนกรุง
ผลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 22 พ.ค.2565 ที่คนกรุงคันไม้คันมือรอมาร่วมทศวรรษ เข้าคูหากาเบอร์ 8 ส่ง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระ กวาดแต้มถล่มทลาย 1,386,215 คะแนน สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ เป็นผู้ว่าฯ กทม.คนที่ 17
...
นำโด่งม้วนเดียวจบ ตามโพลทุกสำนัก มีคะแนนพุ่งลิ่ว สมราคาเต็งหนึ่ง ตั้งแต่ประกาศตัวลงสมัคร
เพราะดั้นด้นลงพื้นที่มาแต่ปีมะโว้ สำรวจปัญหาทุกตรอกซอกซอย กางแผนแก้สารพัดปัญหามาก่อนใครทั้งเรื่องน้ำท่วม หาบเร่แผงลอย อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
วิธีหาเสียงก็ถูกจริตคนกรุงเน้นแนวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ครองใจคนรุ่นกลาง คนรุ่นใหม่ ใช้ป้ายหาเสียงรีไซเคิล ปั่นจักรยาน นั่งรถไฟฟ้า โชว์ไลฟ์สดเป็นข่าวได้ทั้งวี่ทั้งวัน หน้าฟีดโลกโซเชียล เห็นแต่หน้า “ชัชชาติ”
ซ้ำยังได้อานิสงส์คนเบื่อ “ลุง” เป็นตัวช่วย อะไรๆก็ฉุดกระแส “ชัชชาติฟีเวอร์” ไม่อยู่ ถึงเวลาปิดหีบ แต้มเลยพุ่งลิ่วทะลุล้าน
โค่นตัวดังๆ “ดร.เอ้” สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พรรคประชาธิปัตย์ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. คนที่แล้ว ขาดลอย เอาแต้มผู้สมัครทุกคนมากองรวมกัน ก็ได้ไม่เท่า “ชัชชาติ”
แต่หลังนั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ผ่านไปครึ่งปี กระแสชักฝ่อ มีแต่งานตัดริบบิ้น ถูกตั้งคำถามหนัก 200 นโยบายหาเสียง ลุล่วงแค่ไหน เพราะหลายเรื่องยังไม่ได้ดั่งใจ น้ำยังท่วมซ้ำซาก ค่าโดยสารรถไฟฟ้าก็ยังคาราคาซัง
คน กทม.ชักเซ็ง คันปากยิบๆ อยากเห็นผลงานมากกว่างานออกอีเวนต์
@@@@@@
พาพ่อกลับบ้าน
ส่งการบ้านภาคต่อ หลังชิมลางการเมือง นั่งเป็นประธานที่ปรึกษาการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย
ปีนี้ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวสุดที่รัก “ลุงโทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อัปเกรดขึ้นอีกระดับ นั่งแท่นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยอีกตำแหน่ง มีบทบาทการเมืองเพิ่มขึ้น
แค่เปิดวิกก็ฮือฮา งาน “สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ” จ.เชียงใหม่ จัดใหญ่เต็มคาราเบล ระดมคนตระกูลชินวัตรร่วมงาน รวมถึง คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ส่งกำลังใจให้ลูกสาวคนเล็ก ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์หาเสียง ปลุกเร้าพลังประชาชน ช่วยเพื่อไทยทำแลนด์สไลด์ ขับไล่รัฐบาล “บิ๊กตู่”
กวักมือเรียกคะแนนสงสาร อุ้มท้องลูกคนที่ 2 ตะลอนเดินสายหลายจังหวัด ประกาศพลิกฟื้นประเทศ ไม่ให้คนไทยต้องย้ายประเทศ ไปหาอนาคตที่ดีกว่าในต่างแดน
ล่าสุดก็ประกาศนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เปรี้ยงปร้างติดหูชาวบ้านทันทีทันใด
แม้ยังอมพะนำ ไม่ตอบเต็มปาก คือ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ตัวจริงหรือตัวหลอก เพราะยังมีชื่อ เศรษฐา ทวีสิน เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ เป็นคู่เทียบ
แต่ก็อ่านเกมกันออก นี่คือเกมเทหมดหน้าตักนายใหญ่ ส่งลูกสาวลงสนามสืบทอดอำนาจ ทวงคืนความยิ่งใหญ่เป็นเดิมพัน เพื่อพาพ่อกลับบ้าน ในสนามเลือกตั้งครั้งสุดท้าย
แต่ถ้าผิดพลาด ลูกสาวอาจไปถึงจุดไม่มีที่ยืนในประเทศ ซ้ำรอย “รุ่นพ่อ” และ “อาปู” หรือไม่
@@@@@@
พปชร.แตกกระจาย
ทั้งแตกหน่อและแตกคอ คือ สถานการณ์พลังประชารัฐที่ร่อแร่ตลอดปี 2565
ความสัมพันธ์ 2 ป. “บิ๊กตู่ ”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาถึงทางแยก ทางใครทางมัน
“บิ๊กตู่” ประกาศชัดช่วงปลายปี ขอย้ายวิกหนีพรรคพลังประชารัฐ ไปซบพรรคน้องใหม่ “รวมไทยสร้างชาติ” สร้างอาณาจักรของ
ตัวเอง
ไม่มีที่ว่างสำหรับ “บิ๊กตู่” ในพลังประชารัฐ เพราะไม่ถูกส่งชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ถึงเวลาสร้างดาวคนละดวง
คลื่นใต้น้ำกระเพื่อมทันที เกิดรอยเลื่อนภายในพรรค ส.ส.แบ่งฝักฝ่าย ถือหาง “ลุง” ใคร “ลุงมัน”
ลูกพรรคขวัญหนีดีฝ่อ หลายคนเลือกไม่อยู่ข้างลุงคนใด แห่แพ็ก กระเป๋ามุ่งสู่เส้นทางใหม่ สังกัดพรรคภูมิใจไทย 14 คน และยังไม่รู้จะสิ้นสุดที่เท่าไร ขณะที่มุ้งใหญ่ “กลุ่มสามมิตร” ขอดูทิศทางลม กำลังเร่งคำนวณต้องเลือกข้างฝ่ายไหน จึงได้กลับมาเป็นรัฐบาล
อารมณ์ซีเรียสโถมใส่ “บิ๊กป้อม” ให้หงุดหงิด ออกลูกประชดประชัน “เอาไปให้หมด จะได้ปิดพรรค”
ถึงก่อนหน้านี้จะท่องสูตร “พลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ” คือพรรคพี่ พรรคน้อง กอดคอสู้ศึกเลือกตั้ง เข้าทำนอง “แยกกันเดิน รวมกันตี” พร้อมจับมือร่วมกัน หลังเลือกตั้ง
เมื่อ “บิ๊กตู่” แยกพรรค “พลังประชารัฐ” โคลงเคลง เพราะสัมพันธภาพ 2 ลุง ทางลึก จูนต่อกันลำบาก
สภาพเลือดไหลทะลัก สิ้นสภาพความเป็นนัมเบอร์วัน
@@@@@@
ปชป.เลือดไหลทะลัก
ประชาธิปัตย์ฟุบยาว ยังไม่ฟื้น หลังพ่ายระเนระนาดเลือกตั้งรอบก่อน
เหมือนผีซ้ำด้ำพลอย เปิดศักราชปี 2565 มาไม่กี่เดือนก็ฉาวโฉ่ เหม็นหึ่งทั้งพรรค สายเลือดใหม่ “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” รองหัวหน้าพรรค หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ถูกแจ้งจับล่วงละเมิดทางเพศเหยื่อสาวหลายรายต้องไขก๊อกลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อไปสู้คดี ยิ่งฉุดกระแสพรรคลากลึกลงก้นเหว
ชาวเลือดสีฟ้าร่วมส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ทวงสปิริตหัวหน้าพรรค “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ร่วมแสดงความรับผิดชอบ แต่ยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรดีขึ้น
หลายคนประกาศไขก๊อกจากเก้าอี้กรรมการบริหารพรรค บานปลายเป็นปรากฏ การณ์เลือดไหลทะลัก สมาชิกพรรคเกรดเอ เกรดบีทยอยลาออกต่อเนื่อง
ย้ายไปซบพรรคใหม่อย่างรวมไทยสร้างชาติ กลับมาเป็นคู่แข่ง ตัดคะแนนประชาธิปัตย์ในโซนด้ามขวาน
แม้กระทั่งรุ่นลายครามอย่าง ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ก็ถอดใจโบกมือลาพรรคเก่าแก่ หรือสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล สายตรงนายหัว “ชวน หลีกภัย” ก็ทนไม่ไหว ขอโบกมือลา เพราะหาความเป็นธรรมในพรรคไม่เจอ
คลื่นใต้น้ำประชาธิปัตย์เกิดแรงกระเพื่อมต่อเนื่อง ถึงขั้นล่าชื่อกรรมการบริหารพรรคยกทีมลาออก บีบ “จุรินทร์” ลงจากหัวหน้าพรรค เปลี่ยนตัวผู้นำทีมก่อนสู้ศึกเลือกตั้ง เขย่าพรรคกันไม่มีหยุด
ไม่รู้ประชาธิปัตย์แค่หยุดผลัดใบ หรือใบกำลังจะร่วงหมดต้น
@@@@@@
2 ป. แยกทาง
อีกไฮไลต์ที่สุดแห่งปี หนีไม่พ้นกรณีตีความสถานะนายกฯ 8 ปี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่กองเชียร์ กองแช่ง ลุ้นใจจดใจจ่อ รอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ 30 ก.ย.2565
ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. “บิ๊กตู่” ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยังทำหน้าที่ต่อในตำแหน่ง รมว.กลาโหม สีหน้าสีตาเคร่งเครียด เต็มไปด้วยความวิตกกังวล
อารมณ์สวนทางกับพี่ใหญ่ 3 ป. “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ขยับขึ้นมารักษาราชการแทนนายกฯ ใช้ “ใจบันดาลแรง” สวนทางกับอายุ 77 ปี แต่ทำหน้าที่นายกฯขัดตาทัพได้อย่างอัศจรรย์ ขยันลงพื้นที่ไม่มีเหน็ดเหนื่อย ไม่แพ้คนหนุ่มสาว
เสียงเชียร์จากทีมงาน แฟนคลับ แห่ยุให้ “บิ๊กป้อม” เป็นนายกฯตัวจริง แม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยก็ร่วมผสมโรงยกยอ “พี่ใหญ่” เหมาะกับผู้นำเบอร์หนึ่ง
“บิ๊กตู่ ”ยิ่งว้าวุ่น กลุ้มใจหนัก ต้องลุ้นตัวโก่ง กลัวพลาดท่าตกเก้าอี้ วืดภารกิจใหญ่ ขึ้นเวทีกระทบไหล่ผู้นำโลกในเวทีประชุมเอเปกช่วงปลายปี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
สุดท้ายคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญชี้ชัด ให้เริ่มนับหนึ่งวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี วันที่ 6 เม.ย.2560 ที่รัฐธรรมนูญประกาศบังคับใช้ “บิ๊กตู่” ยังได้ไปต่อ เป็นนายกฯได้จนถึงปี 2568
“พี่ใหญ่” ฝันค้าง แนวทาง “หมดตู่ สู่ป้อม” ไม่เกิดขึ้นจริง และยังเพิ่มความฮึกเหิมให้ “น้องเล็ก” มุ่งมั่นตะลุยคลุกฝุ่นการเมือง ประกาศตัวขอแยกพรรค เพื่อกลับมาเป็นนายกฯต่อสมัยหน้า
“บิ๊กตู่” ได้ไปต่อ กลายเป็นจุดเปลี่ยนเส้นทาง 2 ป. ได้เวลาพี่น้องแยกทาง สร้างดาวคนละดวง
@@@@@@
ล้มโต๊ะกฎหมายลูก
การเมืองแบบไทยแลนด์โอนลี่ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยกล หรือถ้าอับจน หมดหนทางก็ล้มโต๊ะไปเลย
ตัวอย่างเห็นกันตำตา เกมช่วงชิงผลประโยชน์การเมือง ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน แข่งชิงไหวชิงพริบ เกมพลิกกลับไปกลับมา
เข้าสภามาทีแรก 2 ฝ่ายเห็นคล้อย ร่างกฎหมายลูกต้องใช้สูตรหาร 100 นับแต้มปาร์ตี้ลิสต์ แม้แต่ชั้น กมธ.ก็คล้อยตามต้องเอา 100 หาร
แต่ดันมาสะดุดตอนโหวตวาระ 2 รายมาตรา ส.ส.พลังประชารัฐชักงอแง กลัวกติกาไหลเข้าทางแลนด์สไลด์ สกัด “ลุง” กลับมาเป็นใหญ่ล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาล พรรคเล็ก ส.ว. ล้มสูตรหาร 100 ไปคว้าเอาสูตรหาร 500 เหมือนปี 2562 กลับมาใช้ใหม่ เกมพลิกกลับเข้าทางทีม “ลุงตู่” ส่วนพรรคจิ๋วก็ยิ้มร่า รอดสูญพันธุ์
แต่สงครามยังไม่จบ ก็นับศพทหารไม่ได้ เกมกลับตาลปัตรอีกรอบ “ลุงป้อม” กลับไปทบทวนใหม่ เปลี่ยนใจกลับมาจะเอาสูตร 100 หาร เที่ยวนี้ใช้แผนเหนือเมฆ จับมือฝ่ายค้าน เตะถ่วงกฎหมายลูกให้เสร็จไม่ทันใน 180 วัน หวังกลับไปใช้กติกาหาร 100
เกิดปรากฏการณ์งามหน้า ส.ส.นัดโดดประชุม จงใจทำสภาล่มถี่ๆ เมินการทำหน้าที่ในสภา ครบเดดไลน์ 15 ส.ค.2565 สภายังล่มทิ้งทวน
แผนล้มโต๊ะสัมฤทธิผล กฎหมายลูกปิดจ๊อบไม่ทัน สูตรหาร 500 ล่องจุ๊น กลับไปใช้หาร 100 ตามเดิม
ถึงพรรคเล็กจะฮึดเฮือกสุดท้ายส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความสูตรหาร 100 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่คำวินิจฉัยศาลยืนยันกระบวนการทุกอย่างทำถูกต้อง
ตอกฝาโลงอวสานสูตรหาร 500 บริบูรณ์ สงครามจบ นับศพพรรคเล็กตายเกลื่อน
@@@@@@
กัญชาเขย่ารัฐบาล
ศึกประลองกำลังทำคลอดกฎหมายในสภา ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้านฟาดฟันกันดุเดือด
ที่สู้กันมันหยด ยกให้ ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ของพรรคก้าวไกล เพื่อปลดล็อกผลิตสุรา วาระแรกผ่านฉลุย ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้านร่วมเชียร์ท่วมท้น แต่ดันชนตอวาระ 2-3 เจอเล่ห์ “ผู้เฒ่าในทำเนียบฯ” ชิงออกกฎกระทรวงคลายล็อกผลิตสุรา ก่อนโหวตวาระสามแค่ชั่วข้ามคืน
ถึงพรรคก้าวไกลจะสู้ยิบตา ระดมเสียงโหวตฝ่ายค้านฟูลทีม แต่ต้านไม่ไหว พ่ายโหวตวาระ 3 ฉิวเฉียด 2 แต้ม ต้องโหวตกัน 2 รอบ ทั้งแบบเสียบบัตรลงคะแนน และขานชื่อรายคน
อีกฉบับที่อลเวงหนักยิ่งกว่าคือ ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ไม่ใช่แค่ฟาดฟันเฉพาะฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล แต่เลยเถิดไปปะทะกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลด้วยกันเอง
“ภูมิใจไทย” เจ้าของร่างกฎหมาย ฟัดเละกับ “ประชาธิปัตย์” ด่าทอทวงถามมารยาทการร่วมรัฐบาล
เรื่องของเรื่องเป็นผลต่อเนื่องจากการที่ “ภูมิใจไทย” รุกหนัก เจาะพื้นที่โซนด้ามขวาน “ประชาธิปัตย์” พรุน และขยายฐานมาฝั่งอีสาน พรรคเพื่อไทย
งานนี้เลยถูกรุมกินโต๊ะ “ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย” แท็กทีมถล่ม “ภูมิใจไทย” บี้ให้ทบทวนร่างกฎหมาย เพราะเนื้อหาไม่ตรงปก ไม่ได้หยุดอยู่แค่ใช้ทางการแพทย์ แต่หละหลวมเปิดช่องให้สันทนาการ วัยโจ๋พี้กันตาเยิ้ม
หัวโจก 2 ฝั่ง “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย สาดสงครามน้ำลายโต้แหลก “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลามไปถึงลูกพรรคฟัดกันนัวเนียรายวัน
ถึงวันนี้ยังบู๊กันไม่จบ ร่างกฎหมายยังคาสภา แต่ที่ใกล้พบจุดจบคือ สัมพันธภาพพรรคร่วมรัฐบาล
@@@@@@
ฉากอวสานดาวดัง
วิบากกรรมปี 2565 นักการเมืองโดนกฎหมายลงดาบ หมดอนาคตกันระนาว รายแรกนารีฝีปากกล้า “ปารีณา ไกรคุปต์” ส.ส.ราชบุรี กำลังขึ้นหม้อในพลังประชารัฐ ถูกศาลฎีกาฟันผิดจริยธรรมร้ายแรง คดีบุกรุกป่าสงวน จ.ราชบุรี
ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ห้ามลงสมัครเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต จบเห่ชีวิตการเมือง ต้องผันตัวไปเป็นดาวติ๊กต่อก
รายต่อมา ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ คดีเสียบบัตรแทนกัน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฟันฉับจำคุก 1 ปี ปรับ 2 แสนบาท แต่ให้รอลงอาญา หลุดวงโคจร ส.ส.ทันที
ไม่ต่างจาก สำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เจอศาลรัฐธรรมนูญลงดาบเพิกถอนสถานภาพ ส.ส. เพราะต้องโทษคำพิพากษาคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ เอวังอีกราย
ส่วนรายนี้โชว์สปิริตยื่นใบลาออกจาก รมช.มหาดไทย นิพนธ์ บุญญามณี เพื่อเตรียมไปสู้คดีชั้นศาลที่ถูก ป.ป.ช.เล่นงานคดีไม่อนุมัติเงินจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทาง สมัยเป็นนายก อบจ.สงขลา
ฟากฝ่ายค้านไม่น้อยหน้า สมหญิง บัวบุตร ส.ส.อำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย ถูกสั่งพักปฏิบัติหน้าที่ หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รับคดีทุจริตสนามฟุตซอลไว้ตรวจสอบ ไปลุ้นตัวโก่ง จะรอดหรือร่วง
รัฐบาล-ฝ่ายค้าน หนาวๆร้อนๆต้องมลทินมัวหมองไม่แพ้กัน
@@@@@@
ตัวพ่อโดนฟาด
ฝากของแข็งไว้กินแทนข้าว นักร้องตัวพ่อ “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย อ่วมอรทัย โดน “ลุงศักดิ์” ขาบู๊เสื้อแดง ประเคนแข้ง สาดหมัดใส่ไม่ยั้ง ระหว่างยื่นหนังสือให้กองปราบปรามเอาผิดทอล์กโชว์เดี่ยว 13 ของ “โน้ส อุดม” ที่เสียดสีแทงใจดำรัฐบาล
กองเชียร์โซเชียลแตกเป็นสองฝ่าย ทั้งสะใจตัวพ่อโดนทุบ และตำหนิพฤติกรรมใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา เรื่องบานปลายกลายเป็นประเด็นดราม่า มีการจับคู่ท้าชกของกองเชียร์แต่ละฝั่งตามมา
แต่ที่ดราม่ายิ่งกว่า คือ ชาวบ้านแห่บริจาคเงินช่วยมือชก เอาไปต่อสู้คดี ท่ามกลางกระแสข่าวแพร่สะพัดได้เงินบริจาคไปร่วมล้านบาท ยังไม่รู้เป็นเรื่องชัวร์หรือมั่วนิ่ม
ถัดมาแค่ไม่กี่วัน เกิดเอฟเฟกต์ “ศรีสุวรรณ” ซ้ำรอย “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าคณะก้าวหน้า โดน “เค ร้อยล้าน” มือป่วนที่มีประวัติยาวเป็นหางว่าว พุ่งล็อกคอ ขณะแจกลายเซ็นแฟนคลับในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซ้ำยังตะโกนโหวกเหวกมีระเบิด สร้างความโกลาหล ประชาชนในงานวิ่งหนีตายอลหม่าน
แต่ก็หนีไม่รอด โดนเจ้าหน้าที่ไล่ตะครุบ จับผู้ก่อเหตุส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี
2 เรื่องซ้อนๆที่คนการเมืองตกเป็นเหยื่อ สะท้อนความน่าห่วงใยในสังคม คนไทยเสพติดใช้ความรุนแรงแก้ปัญหามากขึ้นทุกที.
“ทีมการเมือง”