สธ. ห่วงหน้าหนาว หลังโควิด-19 สายพันธุ์ BA.2.75 แนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้น แนะรับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ส่วนผู้ติดเชื้อโควิดเสียชีวิตในคอนโด พบฉีดวัคซีนแล้ว 3 เข็ม เร่งชันสูตรสาเหตุ

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยในหลายพื้นที่เริ่มมีอากาศหนาว ส่งผลต่อการแพร่เชื้อโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคโควิด-19 สายพันธุ์ BA.2.75 ที่เริ่มมีแนวโน้มพบผู้ป่วยสูงขึ้น ซึ่งสายพันธุ์ดังกล่าวตรวจพบครั้งแรกในประเทศอินเดีย เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา และแพร่กระจายไปหลายประเทศ

“สายพันธุ์ BA.2.75 มีการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง G446S บนโปรตีนหนาม ซึ่งใช้จับกับตัวรับในเซลล์ของมนุษย์ และเกี่ยวข้องกับการหลบภูมิคุ้มกัน ดังนั้น การพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วบ่งชี้ว่ามีความสามารถในการแพร่ระบาด แต่ยังไม่มีรายงานความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นจากเชื้อเดิม ในประเทศไทยมีรายงานพบสายพันธุ์ BA.2.75 ครั้งแรกเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2565 ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงานสัดส่วนของผู้ติดเชื้อ BA.2.75 ในประเทศเพิ่มขึ้นมากจากเดือนที่แล้ว เพิ่มจากร้อยละ 23.2 เป็นร้อยละ 43.9 อย่างไรก็ตาม สามารถใช้ยาต้านไวรัสที่มีอยู่รักษาได้ และวัคซีนที่มีอยู่ รวมถึงแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว (Long-acting Antibodies : LAAB) ก็ยังสามารถยับยั้งเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ BA.2.75 ได้”

...

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อไปว่า นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข และกรมการแพทย์ ขยายวันให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเพื่อความสะดวกในการเข้าถึงวัคซีน รวมทั้งสถาบันบำราศนราดูรสังกัดกรมควบคุมโรค ที่เปิดให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป

ขณะที่ นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวการเสียชีวิตของชายอายุ 38 ปี ติดเชื้อโควิด-19 และเสียชีวิตอยู่ในคอนโดมิเนียม เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 จากข้อมูลการสอบสวนโรคเบื้องต้น โดยสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค และสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร พบว่า ชายคนดังกล่าวได้รับวัคซีน 3 เข็ม โดยเข็มสุดท้ายฉีดเมื่อเดือนมกราคม 2565 นานมากกว่า 10 เดือน ขณะนี้รอผลการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งจะทราบผลเร็วๆ นี้ 

พร้อมกันนี้ ขอความร่วมมือโดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง 608 คือ ผู้สูงอายุหรือกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรังที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน มีการป่วยตายจากโควิด-19 มากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมดที่รายงานในแต่ละวัน และกลุ่มนี้หากรับวัคซีนครบแล้วเข็มล่าสุดนานเกิน 4 เดือนขึ้นไป ให้เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่เพียงพอ จะสามารถป้องกันป่วยหนักและลดโอกาสเสียชีวิตได้ สามารถเข้ารับวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านโดยไม่มีค่าใช้จ่าย หากประชาชนมีข้อสงสัยปัญหาโรคและภัยสุขภาพ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422.