“ธนกร” หนุน พ.ร.ก.ให้คลังค้ำประกันหนี้กองทุนน้ำมันฯ ชม “นายกฯ ตู่” บริหารแบบมืออาชีพจนต่างชาติยกนิ้วให้ เหน็บสมัยรัฐบาล “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ใช้นโยบายคล้ายกัน แต่สุดท้ายยังลอยตัวราคาน้ำมัน

วันที่ 9 พ.ย. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ขอสนับสนุน
พระราชกำหนดผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 เพราะเชื่อว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำทุกอย่างเพื่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชน ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการเยียวยารักษาจากสถานการณ์โควิด-19 หรือแม้แต่ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน รัฐบาลก็สามารถที่จะบริหารจัดการได้ดีจนทั่วโลกชื่นชม

ส่วนสถานการณ์ของวิกฤติพลังงานครั้งนี้ก็เห็นกันทั่วโลกว่าทุกประเทศก็ประสบปัญหาเหมือนกันหมด ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่รัฐบาลชุดนี้จะต้องออก พ.ร.ก.ฉบับนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะไปดูแลทางด้านพลังงาน ทั้งนี้ส่วนตัวไม่เข้าใจว่าในอดีตที่ผ่านมาหลายรัฐบาลก็ใช้นโยบายใกล้เคียงกัน แล้วก็ไปดูแลพลังงานคล้ายๆ กัน แต่วันนี้พอรัฐบาลชุดนี้ใช้นโยบายแบบนี้ รัฐบาลในอดีตบางรัฐบาลกลับออกมาบอกว่าไม่ถูกต้อง และบอกว่าเป็นความล้มเหลวของรัฐบาลชุดนี้ ไม่ทราบว่าใช้ตรรกะอะไร

นายธนกร ยังกล่าวต่อไปว่า ในสมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็มีวิกฤติพลังงาน โดยเฉพาะในสมัยของนายทักษิณที่ราคาน้ำมันดีเซลแพงขึ้น 83% และสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ น้ำมันดีเซลแพงขึ้น 61% จากนั้นมีการใช้นโยบายที่คล้ายกัน คือการอนุมัติให้กองทุนฯ กู้เงินจากสถาบันการเงิน ซึ่งขณะนั้นใช้เงินไปถึง 92,070 ล้านบาท ซึ่งราคาน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับเพียง 13-18 บาทเท่านั้น ก่อนที่จะประกาศลอยตัวราคาน้ำมัน

...

ขณะที่รัฐบาลชุดนี้เจอกับภาวะที่ราคาน้ำมันดีเซลตามความจริงจะต้องสูงถึง 40 กว่าบาท มากกว่าสมัยก่อน 2-3 เท่า แต่ได้ใช้เงินกองทุนฯ ไปประมาณ 1.2 แสนล้านบาท มากกว่าในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ 20% เท่านั้น ดังนั้นส่วนตัวเชื่อว่าการบริหารจัดการของรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้แตกต่างกับรัฐบาลในอดีต แต่ประสบความสำเร็จในการทำเพื่อประชาชน และเชื่อว่า ส.ส.ทุกคนที่อยู่ที่นี่เองก็ต่างรักประชาชน รักประเทศชาติ คงไม่มีใครคิดร้ายหรือคิดไม่ดีกับพี่น้องประชาชนหรือประเทศชาติ จึงเชื่อว่ารัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว

“การที่ พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มต้นการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) มา เรามีการเปิดประเทศจนทั่วโลกชื่นชมเรา วันนี้เรามีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 7-8 ล้านคน และคาดว่าสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านคน จะเห็นได้ชัดเจนว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ มีความเป็นมืออาชีพ เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่าเราจะต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลด้วย อย่างไรก็ตามผมคิดว่าไม่ว่ารัฐบาลจะทำอะไรในสายตาของฝ่ายค้านนั้นถ้าท่านบอกว่าไม่ดีเลยมันก็คงไม่เป็นธรรม ผมเชื่อว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่รัฐบาลชุดนี้ดำเนินการมาก่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนมากมาย เพราะฉะนั้นผมขอความเป็นธรรมให้กับรัฐบาลด้วย เพราะผมคิดว่าสิ่งไหนที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ทุกคนคงเห็นด้วยอยู่แล้ว ยืนยันว่าผมสนับสนุน พ.ร.ก.ฉบับนี้”.