สภาฯลงมติวาระ 3 ตีตกร่าง ก.ม.สุราก้าวหน้าดับฝัน “ก้าวไกล” โหวตสองรอบแพ้ฉิวเฉียด 196 ต่อ 194 เสียง “พิธา” ถล่มกฎกระทรวงปาดหน้า แค่กฎหมายเถื่อนเปิดช่องรีดไถ “จุลพันธ์” ชี้ผลพิสูจน์วัดใจ ส.ส.ยืนข้าง ปชช.หรือนายทุนผูกขาด ปชป.-ภท.เปิดศึก พ.ร.บ.กัญชาฯ “สาทิตย์” นำทีมค้านกัญชาเสรี โวย กมธ.ไม่ฟังเสียงท้วงติงเมินแก้ไข ขู่โหวตคว่ำบี้เอากลับคืนบัญชียาเสพติด “ราเมศ” ย้ำจุดยืนพรรคหนุนแต่กัญชาเพื่อการแพทย์ โวยอย่าใช้คำว่าพรรคร่วมฯมัดมือชก ระรานความถูกต้อง “อนุทิน” เฉ่งกลับพวกแหกมติวิปรัฐบาล ฉุนรับงานใครมาต้าน เมินถูกเตะขัดขา ลั่นหลังเลือกตั้งสลับไพ่ใหม่ “บังซุป” จวกแรงไร้มารยาท “เสรีพิศุทธ์” หยัน “ลุงตู่” สร้าง หนี้ท่วมจนต้องเซ็งลี้ที่ดินให้ต่างด้าว “จตุพร-นกเขา” จี้ต่อมสำนึกเหล่าทัพขวางรัฐบาล 3 ป.ขายแผ่นดิน
ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติโหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต หรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ตกไปเรียบร้อย ขณะที่ยังมีร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กำลังเป็นชนวนความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง หลังพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยืนยันไม่เห็นด้วย
...
สภาฯสมัยสุดท้ายเหลือ 16 สัปดาห์
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 พ.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง เป็นวันแรก โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม แจ้งต่อสมาชิกว่าเป็นการประชุมสภาฯ สมัยสุดท้าย มีเวลา 120 วัน รวม 16 สัปดาห์ รับทราบคำแนะนำวิป 3 ฝ่ายที่ไม่อยากให้เพิ่มการประชุมในวันศุกร์ ดังนั้น การประชุมวันพุธและพฤหัสบดีจะขอเพิ่มเวลาประชุม จากนั้นบรรยากาศเกิดมีการประท้วงตั้งแต่ช่วงหารือก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระเกิดการปะทะคารมกันระหว่างนายชวนกับนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ขอหารือประธานสภาฯ ผ่านไปยังผู้บริหารศาลอาญาเรื่องความเป็นอิสระของผู้พิพากษาเกี่ยวโยงกับคดีอาญามาตรา 112 โดยนายชวนพยายามปรามขอไม่ให้มีการพาดพิงไปไกลถึงเรื่องสถาบัน แต่นางอมรัตน์ไม่ยอม จนที่สุดถูกประธานที่ประชุมตัดบทจบการอภิปราย
ร่าง ก.ม.กัญชาส่อไม่ทันสัปดาห์หน้า
ต่อมาเข้าสู่ระเบียบวาระนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะวิปรัฐบาล เสนอให้เลื่อนร่าง พ.ร.บ.การแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. ... ที่ ครม.เสนอขึ้นมาพิจารณาเป็นเรื่องด่วนวันที่ 9 พ.ย.ก่อนหน้าเรื่องที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว ที่ประชุมเห็นตามเสนอ ส่งผลทำให้ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่กมธ.วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้วของ ภท. อาจไม่สามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาฯได้ทันสัปดาห์หน้า
“ก้าวไกล” รุมเฉ่งกฎกระทรวงสุรา
จากนั้นเวลา 11.25 น. เข้าสู่วาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต หรือร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า มี 7 มาตรา ในวาระ 2-3 ที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว มีเนื้อหาปรับปรุงหลักเกณฑ์การขออนุญาตผลิตสุรา ให้ผู้ผลิตสุราหรือผู้ผลิตสุรารายย่อยขออนุญาตผลิตสุราเหมาะสมยิ่งขึ้น โดย ส.ส.อภิปรายแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะมาตรา 3 ขั้นตอนยื่นขออนุญาตผลิตสุรา ที่ กมธ.ไม่ให้กำหนดกำลังการผลิต กำลังแรงม้า ทุนจดทะเบียน ส.ส.ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรค ก.ก.รุมวิจารณ์การออกกฎกระทรวงเร่งด่วน เมื่อวันที่ 1 พ.ย.65 เพราะไม่อยากให้ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าของพรรค ก.ก.ผ่าน อีกทั้งการลดเงื่อนไขการผลิตสุราตามกฎกระทรวงไม่ใช่ปลดล็อกแท้จริง ยังมีเงื่อนไขควบคุมผู้ประกอบ การรายย่อยมากมาย
“พิธา” ซัด ก.ม.เถื่อนเปิดช่องรีดไถ
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า กฎกระทรวงที่ ครม.เพิ่งออกมาแค่เปลี่ยนล็อกจากล็อกเก่าไปล็อกใหม่ ยังควบคุมการผลิตอยู่ มีปีศาจอยู่ในรายละเอียด บังคับจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเป็นบริษัททั้งที่ไม่จำเป็นไม่ช่วยปลด ปล่อยศักยภาพผู้ประกอบการผลิตไทย วัตถุดิบ หรือทลายทุนผูกขาด เป็นกฎหมายหยุมหยิม อาจถูกขูดรีด ต่างจากฉบับนี้ที่ไม่จำกัดกำลังแรงม้า กำลังการผลิตป้องกันการถูกรีดไถ ยิ่งการขอผลิตสุราที่ต้องยื่นขออนุญาตยากมาก เปิดดุลพินิจให้ราชการรีดไถประชาชน รัฐบาลอ้างกลัวเหล้าเถื่อน สิ่งที่เถื่อนไม่ใช่เหล้า แต่คือกฎหมายที่กระบวนการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ใช้รีดไถผู้ประกอบการที่พยายามสร้างวัฒนธรรมแปรรูปสินค้าเกษตร การให้การผลิตสุราอยู่ในไม่กี่ครอบครัวต่างหาก เรามาไกลเกินกว่าจะแพ้
ท้าวัดใจ ส.ส.อยู่ข้าง ปชช.หรือนายทุน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ. อภิปรายว่า แปลกใจที่ออกกฎกระทรวงเร่งด่วน ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าอยากให้ทิศทางเปิดเสรีสุราเป็นธรรม ไม่ถูกผูกขาด จะไปหวังพึ่งเฉพาะกฎกระทรวงไม่ได้ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าวันพรุ่งนี้จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขอีกหรือไม่ แทนที่จะออกเป็น พ.ร.บ.ที่มีความแน่นอนกว่า ขณะที่นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. กล่าวว่า วันนี้เป็นการวัดใจ ส.ส.ว่าจะกดต้อยๆตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สั่งมาหรือไม่ ถ้าไม่ผ่านแสดงว่ายังมี ส.ส.เชื่อฟัง พล.อ.ประยุทธ์อยู่ วัดใจจะยืนข้างทุนผูกขาดหรือยืนข้างประชาชน ขอให้ประชาชนเช็กชื่อ ส.ส.ที่โหวตได้เลย เรื่องนี้ไม่ต้องรอรัฐบาลหน้าแล้วค่อยทำ ขอให้สมาชิกยืนข้างประชาชน
สุราก้าวหน้าถูกคว่ำฉิวเฉียดวาระ 3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ ส.ส.อภิปรายมาตรา 3 อย่างเข้มข้นนานร่วม 2 ชั่วโมง ที่ประชุมจึงลงมติเห็นชอบมาตรา 3 ด้วยคะแนน 178 ต่อ 4 งดออกเสียง 175 ไม่ลงคะแนน 3 ขณะที่มาตราอื่น อาทิ มาตรา 3/1 มาตรา 3/2 มาตรา 4 มาตรา 5 ก็มีคะแนนเสียงเห็นชอบมากกว่าไม่เห็นชอบ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ามีคะแนนงดออกเสียงใกล้เคียงกับคะแนนเห็นด้วย มีผลต่างห่างกันไม่เกิน 10 เสียง หลังจากที่ประชุมพิจารณาครบทั้ง 7 มาตราแล้ว กระทั่งเวลา 14.45 น. ที่ประชุมลงมติวาระ 3 ปรากฏว่าที่ประชุมกลับมีมติไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ด้วยคะแนน 177 ต่อ 174 งดออกเสียง 11 ไม่ลงคะแนน 4 โดยคะแนนงดออกเสียงในรายมาตราพลิกกลับมาลงคะแนนไม่เห็นด้วย ทำให้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม
ก.ก.ฮึดสู้ขอนับคะแนนใหม่
อย่างไรก็ตาม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส. กทม. พรรค ก.ก. ขอใช้สิทธิตามข้อบังคับการประชุม ข้อ 85 กรณีมีคะแนนต่างกันไม่เกิน 25 เสียง ขอนับคะแนนใหม่ โดยการขานชื่อรายบุคคลได้มี ส.ส.รับรองถูกต้อง แต่นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. คัดค้าน ขอให้เสียบบัตรนับคะแนนใหม่เท่านั้น ในที่สุดนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ตัดสินให้นับคะแนนใหม่โดยการขานชื่อรายบุคคล แต่ยังเกิดความวุ่นวายตามมา เมื่อฝ่ายค้านให้นับองค์ประชุมก่อนการขานชื่อรายคน ระหว่างนั้น ส.ส.เริ่มเดินออกจากห้องประชุม มีทีท่าองค์ประชุมจะไม่ครบ จนนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. สอบถามว่า ถ้าองค์ประชุมไม่ครบ หมายความว่าการกลับมาโหวตใหม่ครั้งหน้า ต้องใช้วิธีเสียบบัตรลงคะแนนใหม่หรือไม่ นายสุชาติชี้แจงทันทีว่า สภาค้างคาเรื่องใดไว้ต้องกลับมาดำเนินการต่อ ไม่สามารถยกเลิกเรื่องใดได้ สุดท้ายเมื่อนับองค์ประชุมเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่า มีองค์ประชุม 257 ครบองค์ประชุม
ขานชื่อนับแต้มสุดชุลมุน
จากนั้นเวลา 15.10 น. เริ่มขั้นตอนการขานชื่อลงคะแนนรายบุคคล โดย ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนใหญ่ลงมติไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ขณะที่บางส่วนของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลงดออกเสียง และมี ส.ส.ปชป.บางคนลงมติเห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ อาทิ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ส.ส.ชุมพร นายวิวรรธน์ นิลวัชรมณี ส.ส.สุราษฎร์ธานี นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายบัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง มี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลร่วม 30 คน ที่ไม่อยู่ในห้องประชุมตอนลงมติขานคะแนน ส่วน ส.ส.ฝ่ายค้านส่วนใหญ่อยู่ในห้องประชุมลงมติขานเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ทั้งนี้ขานชื่อลงคะแนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว มี ส.ส.ร่วม 30 คน ที่มาโหวตลงคะแนนไม่ทัน ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลแย่งกันขานชื่อลงคะแนน บางคนตะโกนขานชื่อตัวเองถึง 3 รอบ จนชุลมุนมั่วกันไปหมด ทำให้นายสุชาติ ตันเจริญ ประธานการประชุม ต้องบอกให้สมาชิกใจเย็นๆ เกรงว่ากรรมการนับคะแนนจะจดผลคะแนนไม่ทันจะคลาดเคลื่อน โดยกรรมการนับคะแนนใช้เวลารวมคะแนนนานกว่า 1 ชั่วโมงยังสรุปผลไม่ได้
รอบ 2 ไปไม่รอดพ่าย 2 เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แจ้งว่า พรรค ก.ก.ย้อนดูเทปช่วงขานชื่อลงคะแนน พบมีสมาชิกหมายเลข 225 และหมายเลข 255 โหวต 2 ครั้ง ทำให้นางสุเนตตา แซ่โก๊ะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลัง ขอใช้สิทธิพาดพิงว่าหมายเลขตนคือ 255 แต่นายธีรัจชัยแย้งว่า คนที่ขานหมายเลข 255 เป็นผู้ชาย กรรมการนับคะแนนระบุว่าขอให้วางใจการนับคะแนน ด้วยความรอบคอบ นายสุชาติกล่าวเสริมว่า ถ้าใครมีหลักฐานว่าใครขานชื่อซ้ำโดยทุจริต ไม่ต่างจากการกดบัตรแทนกัน มีสิทธิไปฟ้องต่อได้ กระทั่งเวลา 17.15 น. นายสุชาติประกาศผลการลงมติวาระ 3 ที่ประชุมยังคงโหวตไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ด้วยคะแนน 196 ต่อ 194 งดออกเสียง 15 ถือว่าที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต
ปชป.ท้วง กมธ.ไม่แก้ร่าง ก.ม.กัญชาฯ
อีกเรื่อง เมื่อเวลา 10.35 น. ที่รัฐสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำโดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมแถลงถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้วว่า น่าเสียใจที่คณะ กมธ.ไม่ได้แก้ไขตามที่มีข้อเสนอแม้แต่ข้อเดียว โดยพรรคเสนอแก้ไข 13 ข้อ พรรคเพื่อไทย เสนอแก้ไข 5 ข้อและจากแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศูนย์ศึกษาปัญหายาเสพติดที่เสนอให้ทบทวนเป็นรายมาตรา หลังถอนร่างกฎหมายออกไปทราบว่ากมธ.เรียกประชุม 2-3 ครั้งเท่านั้น สมาชิกพยายามทักท้วงให้หยิบข้อเสนอมาพิจารณา แต่ กมธ.ไม่สนใจรับฟังหรือแม้แต่จะหยิบยกข้อกังวลที่สังคมเป็นห่วงมาพิจารณา ข้อเสนอพรรค ปชป. เช่น ให้ทบทวนว่ากัญชาเป็นยาเสพติดหรือไม่ แก้ไขคำนิยามคำว่าใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในครัวเรือน ไม่ควรกำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำหน้าที่ประสาน ส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาสายพันธุ์ในการปลูกกัญชา จะขัดต่อการทำหน้าที่กำกับดูแลและอาจเกิดประโยชน์ทับซ้อน และยังขาดมาตรการควบคุมการซื้อขายอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการสูบกัญชา
ขู่ถูกคว่ำแน่แนะกลับเข้ายาเสพติด
นายสาทิตย์กล่าวอีกว่า เมื่อ กมธ.ไม่แก้ไขข้อท้วงติงเลยจะเกิดการอภิปรายมากมาย หากยืนยันโดยเสียงข้างมากก็ดี ด้วย กมธ.ก็ดี คิดว่าจะโกลาหล เพราะกฎหมายออกมาโดยขาดความรอบคอบโดยสิ้นเชิง จำเป็นที่ ปชป.ต้องพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ประชาชน โดยการลงมติไม่รับร่าง ขณะนี้ต่างประเทศเรียกประเทศไทยว่าเมืองหลวงกัญชาโลก นอกเหนือจากยุโรปแล้ว เขาเข้าใจว่าเราเป็นกัญชาเสรี ตรงกันข้ามกับที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ระบุว่าเป็นการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ สถานการณ์กัญชาเป็นสิ่งที่สังคมไทยไม่พึงประสงค์ ขอให้นำกัญชากลับมาอยู่ในบัญชียาเสพติดประเภท 5 เช่นเดิม ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยระบุว่า ไม่สามารถนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดได้แล้ว เพราะในประมวลกฎหมายยาเสพติดได้ถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดแล้วไม่เป็นความจริง เพราะประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 29 กำหนดเพียงว่าการปลดล็อกกัญชาให้เป็นไปตามคำประกาศของกระทรวงสาธารณสุข จึงขอเรียกร้องให้นายอนุทินทบทวนนำกัญชากลับเข้าบัญชียาเสพติดประเภท 5 เพื่อไม่ให้ไทยต้องเป็นสังคมอุดมยาเสพติด ยืนยันไม่ใช่เรื่องการเมือง เป็นเรื่องสังคมล้วนๆ พรรค ปชป.อ่านกฎหมายครบถ้วน
ไม่ใช่ไม่อ่านแล้วออกมาค้าน เพราะต้องการได้เสียง
“พิสิฐ” ขยี้กระทบสินค้าส่งออก
ด้านนายพิสิฐ กล่าวว่า การปลดล็อกกัญชาจะทำให้ลูกหลานของพวกเราติดกัญชาโดยไม่รู้ตัว พ่อแม่ผู้ปกครองจะเป็นห่วงว่าลูกหลานจะไปเมากัญชาที่ไหน จากนี้ไปประเทศไทยจะถูกตราหน้าว่าเป็นแดนกัญชา การส่งออกสินค้าจะโดนตรวจอย่างละเอียด กลัวว่าจะซุกซ่อนกัญชาเดือดร้อนกันไปทั่ว คนไทยไปเที่ยวต่างประเทศจะโดนตรวจโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ไม่ควรทำให้เกิดกัญชาเสรี ไม่ถูกต้อง ควรคิดถึงอนาคตด้วย
อย่าใช้คำว่าพรรคร่วมฯมัดมือชก
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปชป.สนับสนุนกัญชาเพื่อการแพทย์ แต่ไม่สนับสนุนกัญชาเสรี ต้องยึดหลักการนี้ ส.ส.ของพรรคศึกษาลึกในรายละเอียด เห็นชัดว่ากัญชาทางการแพทย์มีประโยชน์ แนวคิดจะทำให้กัญชาเสรี นักการเมือง พรรคการเมืองจำเป็นต้องมองให้ไกลถึงอนาคตชาติจะสร้างปัญหาให้กับสังคม จะคิดอะไรแบบฉาบฉวยไม่ได้ การไม่สนับสนุนกัญชาเสรีไม่ใช่วาทกรรมทางการเมือง ไม่มีเรื่องการเมือง ไม่มีประโยชน์ของพรรคการเมือง การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไม่จำเป็นต้องมามัดมือมัดเท้า ปิดปากปิดความคิดในหลักการคิดเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ต้องแยกให้ออกการไม่สนับสนุนกัญชาเสรีไม่ใช่วาทกรรมทางการเมือง ที่สำคัญไม่อยากให้เอาคำว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมาระรานหลักความถูกต้อง
หลายมาตราเปิดทางสู่กัญชาเสรี
นายราเมศกล่าวต่อว่า รายละเอียดร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯมีหลายมาตราเป็นปัญหานำพาไปสู่เส้นทางกัญชาเสรี โดยเฉพาะหมวดที่ 3 การขออนุญาต วัตถุประสงค์ในมาตราที่ 15/2 (3) เพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม เปรียบเสมือนเปิดประตูเริ่มต้นไปในเส้นทางที่จะทำให้ไปสู่กัญชาเสรี มาตรา 18 การปลูกกัญชาในครัวเรือนจะควบคุมการใช้อย่างไรไม่มีรายละเอียดรัดกุมพอ สูบกัญชาในบ้านไม่ต้องควบคุม รวมกลุ่มกันมาสูบกันได้เต็มที่ใช่หรือไม่ ขณะที่ห้ามสูบในสถานที่สาธารณะ กำหนดสถานที่ไว้ชัดเจน เช่น วัด สถานที่ราชการ สถานพยาบาล สถานศึกษา ร้านอาหาร อาจทำให้เสียหายต่อส่วนรวมได้ เชื่อว่าจะมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวางเพื่อท้วงติง
“เสี่ยหนู” ยัน ภท.ทำหน้าที่จบแล้ว
เมื่อเวลา 11.15 น. ที่รัฐสภา เครือข่ายสนับสนุนการใช้กัญชาทางการแพทย์ นำโดยนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ยื่นหนังสือต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท.ขอให้ผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ให้มีผลบังคับใช้ได้โดยเร็ว โดยนายอนุทินยืนยันว่า ภท.และ ส.ส.ที่เห็นแก่ประโยชน์ของประชาชน เห็นคุณค่ากัญชาทางการแพทย์ หัวเด็ดตีนขาดจะสนับสนุน เมื่อวันที่ 1 พ.ย.วิปรัฐบาลสรุปให้ลงมติตามคณะกมธ.หมายถึงต้องให้ผ่าน ภท.ทำหน้าที่ทุกอย่างเรียบร้อย เราปลดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว ถ้าคิดจะมาบล็อก ภท.ตอนนี้ สายไปแล้ว ไม่ทันแล้ว
ฉะ ปชป.แหกมติวิป รับงานใครมาต้าน
จากนั้นนายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่าวิปรัฐบาลมีมติแล้ว ในที่ประชุม ครม.รับทราบแล้ว พรรคร่วมฯจะไม่ปฏิบัติตามไม่ควรจะปล่อยให้เกิดขึ้น จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกเบี่ยงเบนไม่ปฏิบัติตามมติวิปรัฐบาล ต่อไปคงไม่ต้องประชุมวิปฯไม่เป็นผลดีต่อสปิริตของพรรคร่วมฯ เราเคารพหัวหน้ารัฐบาล เคารพนายกฯ เคารพมติวิปรัฐบาล ไม่ใช่ปัญหาของพรรค แต่เป็นปัญหาของคนไม่เคารพมติมากกว่า ระหว่างพึ่งพิงพรรคการเมืองด้วยกันกับพึ่งพิงประชาชน เราพึ่งพิงประชาชน ได้ทำทุกอย่างที่ให้สัญญาไว้ ไม่กดดันว่าจะผ่านหรือไม่ ต้องไปถามคนที่ทำให้ไม่ผ่านในเมื่อให้ออกกฎหมายมากำกับควบคุมการใช้กัญชา คนที่มาแถลงข่าว ไม่เคยทำการบ้าน พูดตามความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้ รับงานใครมาหรือเปล่า ถ้าอยากให้กลับมาเป็นยาเสพติดอีกครั้ง คงต้องมานั่งเป็น รมว.สาธารณสุขก่อน
เมินถูกขัดขา หลัง ลต.สลับไพ่ใหม่
นายอนุทินกล่าวต่อว่า พรรค ภท.ออกกฎหมายเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อหาเสียง พรรคทำหน้าที่สมบูรณ์ปลดล็อกกัญชาเรียบร้อยแล้ว หาก พ.ร.บ.กัญชาฯถูกเกมการเมืองทำให้ไม่ผ่าน ประชาชนต้องไปถามคนที่ไม่ให้ผ่าน ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน จะกระทบกับการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ไม่เป็นไร ใกล้ครบวาระแล้ว เดี๋ยวก็สลับไพ่ใหม่ ใครทำอะไรไว้ต้องน้อมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าหักพรรค ภท. หักประชาชน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรับผิดชอบ พรรคโยนให้แน่นอน ภท.ทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว ส่วนความสัมพันธ์กับพรรค ปชป.ไม่ต้องคุยกับหัวหน้าพรรค ปชป. ไม่ใช่เป็นเรื่องระหว่างพรรค ถ้ามีปัญหาการร่วมรัฐบาลหรือปัญหาของพรรคร่วมเรื่องของมติ นายกฯคงต้องลงมาแก้ปัญหา มันเกินขอบข่ายหน้าที่ และอำนาจที่มีของพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว
“บังซุป” ซัดจวกแหลกไร้มารยาท
เมื่อถามย้ำว่าการร่วมรัฐบาลในช่วงปลายไม่จำเป็นต้องรักษาน้ำใจกันแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า มันไม่ใช่เรื่องการรักษาน้ำใจ แต่เป็นเรื่องการรักษามารยาท เพราะเราทำงานให้พี่น้องประชาชน แต่ยืนยันว่าบรรยากาศการทำงานขณะนี้ ไม่มีปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ต่างคนต่างทำหน้าที่ในหน่วยงานที่ได้รับผิดชอบ ไม่มีการก้าวก่ายกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอนุทินให้สัมภาษณ์อยู่ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานกมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯที่ยืนอยู่ด้วยได้พูดขึ้นว่า “พรรคที่อายุเยอะ ควรจะมีมารยาทมากขึ้น พรรคเก่าแก่แต่กลับไม่มีมารยาท”
“ทัศนีย์” เย้ยผู้นำโลกสิ้นเครดิต
น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท. กล่าวว่า ไทยได้โอกาสเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ทุ่มงบฯมหาศาลจัดประชุมหวังสร้างผลงานให้ประทับใจผู้นำโลก แต่น่าเสียดายการประชุมอาจไม่เป็นไปตามเป้าเพราะผู้นำมหาอำนาจไม่ให้ความสำคัญ ส่งเพียงระดับรองมาร่วมประชุมแทน ไม่ว่าจะเป็นนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เลือกไปงานแต่งหลานสาว เพราะไม่เชื่อถือในตัว พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยยอมรับว่าไร้ความสามารถสุดท้ายเศรษฐกิจไทยพังไร้ทางฟื้น 8 ปีกว่าน่าจะรู้ตัวได้แล้ว ควรออกจากตำแหน่งให้คนมีความสามารถมาทำแทน อย่าดันทุรังเลย ยิ่งอยู่ยิ่งพัง
สลด ปท.ติดหล่มระบอบ “ประยุทธ์”
นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรค พท.กล่าวว่า ที่ผ่านมา 8 ปี การใช้งบฯและเงินกู้ของพล.อ.ประยุทธ์สร้างความวิตกให้กับประชาชนมาตลอด ไม่เคยยอมรับการตรวจสอบ ไม่เคยชี้แจงให้ประชาชนทราบเลยว่านำไปใช้ในโครงการใดสร้างประโยชน์เช่นไร สงสารประเทศไทยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลในระบอบประยุทธ์ ยุคทหารครองเมือง ทุกรัฐวิสาหกิจ กองทุน 115 กองทุน มีแต่ทหารฝ่ายความมั่นคงไปนั่งบริหารแทรกซึมทุกองคาพยพเพื่อปกป้องอำนาจ ไม่เคยให้ความสำคัญกับระบอบประชาธิปไตย ไม่เคยจริงใจกับประชาชน กดประชาชนให้อยู่ในอำนาจเพื่อปกครอง ไม่ต้องการให้เห็นต่าง เป็นอันตรายต่อการพัฒนาประเทศอย่างรุนแรง
“เสรีพิศุทธ์” รับสอบที่ดินหอการค้า
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการป้องกันและปราบการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาฯรับหนังสือจาก น.ส.วิจิตติพร อภิบาลภูวนารถ นายกสมาคมองค์การตรวจสอบอำนาจรัฐเพื่อประชาชน (อ.ต.ช.) ที่ขอให้ตรวจสอบการทุจริตการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ที่ดินของสมาคมหอการค้ากรุงเทพและหอการค้าไทย และตรวจสอบพิสูจน์สิทธิ์ที่ดินพิพาทแขวงราชบพิธกรุงเทพมหานคร
ซัด “ลุงตู่” ขายแผ่นดินเหตุหนี้ท่วม
จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวถึงกรณีรัฐบาลออกกฎกระทรวงมหาดไทยเรื่องการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ให้ต่างชาติครอบครองที่ดินได้ 1 ไร่ ถ้าลงทุนในประเทศไทย 40 ล้านบาท ว่า เข้าใจว่าตอนนี้รัฐบาลออกกฎกระทรวงนี้มาเพราะมีหนี้มาก และการขายที่ดินให้ต่างชาติจะมีเงินมาใช้หนี้ 10 ล้านล้านบาท อยากฝากให้คนไทยดูนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ว่า ขายชาติหรือไม่ ไม่อยากฟันธง หากไม่หยุดบ้านเมืองจะหมดประเทศ ต่างชาติจะซื้อไปหมดประเทศ เราจะไม่มีที่อยู่ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อไปจะเป็นขอทานอยู่แบบยาจก อยู่แบบคนรับใช้ ขอฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ให้ยกเลิกเสีย ถ้ายังไม่ยกเลิกหากเราเป็นรัฐบาลครั้งหน้าเมื่อไหร่จะยกเลิกเอง และผู้ที่กระทำไปต้องได้รับโทษ
“ตู่-นกเขา” ร้องทหารสกัดขายแผ่นดิน
ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อเวลา 11.00 น. คณะหลอมรวมประชาชน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ ไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด เรียกร้องให้กองทัพสกัดนโยบายขายแผ่นดินของรัฐบาล นายจตุพรกล่าวว่า รัฐบาล 3ป.มีหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน ไม่ใช่ขายแผ่นดิน ผบ.เหล่าทัพทั้ง 4 อย่ายินยอม ไม่คิดเลยว่ารัฐบาลที่มีอดีต ผบ.ทบ.อยู่ถึง 3 คน กลับมีพฤติกรรมขายแผ่นดิน ถ้าต่างชาติรวมตัวซื้อ ไทยจะเสียที่ดินเป็นแสนไร่ อาจเกิดรัฐซ้อนรัฐ ยืนยันไม่ได้เรียกร้องให้ทหารปฏิวัติ แต่ให้แสดงจุดยืนปกป้องแผ่นดิน วันที่ 3 พ.ย.จะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำหนังสือเตือนไปยังรัฐบาลเช่นเดียวกับที่เตือนโครงการจำนำข้าวในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรด้วย
“บิ๊กตู่” ทอดกฐินแฟนคลับตามเชียร์
เมื่อเวลา 11.15 น. ที่ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ (UNCC) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานประชุม Global Compact Network Thailand Forum (GCNT 2022) หัวข้อ “เร่งหาทางออกของภาคธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อนและวิกฤติความหลากหลายทางชีวภาพ” จากนั้นเวลา 14.00 น. ไปเป็นประธานพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานสำนักนายกฯ ประจำปี 2565 ที่วัดวชิรธรรมสาธิต รวมยอดทั้งสิ้น 9,232,179.75 บาท หลังพิธีถวายผ้าพระกฐินฯ มีประชาชนเข้ามาขอจับมือ ชูข้อความ “รักลุงตู่” “ลุงตู่สู้ๆ รักลุงตู่ รักนายกฯเพราะนายกฯรักประเทศชาติ ” เป็นการให้กำลังใจ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูแตะที่หน้าอกส่งให้ ก่อนกล่าวว่า ทุกวันนี้ ทำงานเพื่อทุกคนรักทุกคน เด็กๆให้ตั้งใจเรียน เป็นคนดี ดูแลรักพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายให้มากๆ กตัญญูรู้คุณ ร่วมทำบุญทำกุศลกันเยอะๆ
“ลุงป้อม” ปัดไม่เกี่ยว “ธรรมนัส” ไปดูไบ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงภาพ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทยเดินทางไปนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีข้อสังเกตว่าเดินทางไปพบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือไม่ว่า ไม่รู้ ต้องไปถามเขา เมื่อถามว่า จะสอบถาม ร.อ.ธรรมนัสหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบทันทีว่า “ไม่เกี่ยวๆ ไม่เจอกันเลย ไม่เจอกันเลย” เมื่อถามว่าความเป็นไปได้ที่ ร.อ.ธรรมนัสจะกลับไป อยู่กับพรรค พปชร. พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ตอบเดินทาง ออกจากทำเนียบทันที
นัด 23 พ.ย.ชี้ขาด ก.ม.พรรคการเมือง
เมื่อเวลา 13.13 น.สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารข่าวว่าศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษากรณีประธานรัฐสภาส่งความเห็นของ ส.ว.ขอให้ศาล รัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 ว่า ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และมาตรา 10 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก.ด้านการเมือง (2) หรือไม่ และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยศาลฯเห็นว่าคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 58 วรรคหนึ่ง กำหนดนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือ และลงมติ เวลา 09.30น.วันที่ 23 พ.ย.