“สุรเชษฐ์” โต้ รฟม. ยันส่วนต่าง 68,000 ล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีส้มมีจริง ซัดเงินเข้ากระเป๋าใคร ยันประเทศเสียหาย เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครอง หาตัวคนหากินกับสัมปทาน
วันที่ 29 ต.ค. 2565 นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาตอบโต้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ชี้แจงว่าการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม “โปร่งใส-ตรวจสอบได้” และบอกว่าส่วนต่าง 68,000 ล้านบาทไม่มีจริง
โดยสุรเชษฐ์ กล่าวว่า คำชี้แจงของ รฟม. ฟังไม่ขึ้น เพราะ รฟม. ไม่เปิดให้ BTS เข้ามาแข่งขันประมูล ทำให้ราคาที่ประชาชนต้องจ่ายแพงกว่าความเป็นจริง เป็นความจริงนอกสำนวนที่เกิดจากการเล่นตุกติกกีดกัน BTS
นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า หาก รฟม. “โปร่งใส-ตรวจสอบได้” จริง เหตุใดจึงเบี้ยว! ไม่กล้ามาตอบคำถามซึ่งๆ หน้า ต่อหน้าคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งได้มีการเรียกมาชี้แจงถึง 2 ครั้ง แต่รฟม. เลือกที่ตอบแบบเลี่ยงคำถาม โดยชี้แจงแบบต่างคนต่างพูดผ่านสื่อ ควรกล้าเผชิญหน้ากับตัวแทนของประชาชนและคู่กรณี (BTS) ให้ประชาชนได้รับรู้ว่า “ใครแถ”
ทั้งนี้ จากการสอบข้อมูลในชั้นกรรมาธิการทำให้ได้รู้ข้อเท็จจริงว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย ส่วนต่าง 68,000 ล้านบาทมีอยู่จริง โดยการประมูลครั้งแรกผิดปกติ มีการเปลี่ยนเกณฑ์การประมูลกลางอากาศ โดยหากไม่มีการเล่นตุกติก BTS ขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐประมาณ 10,000 ล้านบาท ด้วยความที่มีการเล่นตุกติก จึงมีหลายคดีคาราคาซังอยู่ในศาล แต่ รฟม. เลือกที่จะล้มประมูลแล้วเริ่มใหม่ รอบ 2 ที่ BTS ถูกกีดกัน ทำให้ไม่มีการแข่งขันที่แท้จริง
...
“ประเด็นนี้ ไม่ต้องอ้างข้อเทคนิคสารพัด เพราะเห็นๆ กันอยู่ว่าผู้ประกอบการรถไฟฟ้ารายใหญ่ในไทยมีเพียง 2 ราย คือ BTS และ BEM ทั้ง 2 รายควรเข้าแข่งขันได้ เมื่อไม่มีการแข่งขันที่แท้จริง รัฐก็ต้องจ่ายแพงกว่าที่ควรจะเป็น โดย BEM (ผู้ชนะรอบใหม่) ขอเงินภาษีของประชาชนไปอุดหนุนมากถึง 78,000 ล้านบาท ส่วนต่าง 68,000 ล้านบาทจึงมีอยู่จริง แต่เป็น “ความจริงนอกสำนวน” เพราะ รฟม. ตั้งใจล้มการประมูลที่มีการแข่งขัน แล้วเริ่มใหม่แบบกีดกัน BTS แต่ BTS ก็เลือกที่จะเก็บซองราคาเอาไว้เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ซีลอย่างดีและเปิดพิสูจน์ผ่านการถ่ายทอดสดให้ประชาชนดูว่าไม่ได้แต่งเติมเข้ามาใหม่”
นายสุรเชษฐ์กล่าวเพิ่มว่า ส่วนต่าง ค่าโกง 68,000 ล้านบาทนี้จะไปลงกระเป๋าใคร ตกไปที่พรรคใดบ้างตนไม่รู้ แต่หากปล่อยให้รัฐบาลนี้รีบเซ็นไปก่อนเลือกตั้ง ประเทศจะเสียหายมาก พรรคก้าวไกลจึงกำลังเตรียมคำร้องเพื่อยื่นฟ้องศาลปกครอง และขอให้ประชาชนเห็นความฉ้อฉลของรัฐบาลนี้ในการหากินกับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม