ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เตรียมการรับมือภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยในอีก 6-9 เดือนข้างหน้าอย่างไรบ้าง

แต่เท่าที่ดู ตัวผู้นำรัฐบาลยังหมกมุ่นอยู่กับการบริหารอำนาจมากกว่า

ในขณะที่ทั่วโลกเริ่มตื่นตัวกับการรับมือ “มหาพายุเศรษฐกิจ” ลูกใหม่

บริษัทในกลุ่ม “บิ๊กเทค” บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก อย่าง Google, amazon, Netflix, Meta

เริ่มปรับแผนรับมือ ทั้งการปรับโครงสร้างธุรกิจ ลดต้นทุน หยุดการจ้างงานใหม่ หรือต้องยอมปิดบางแผนกเพื่อหั่นจำนวนพนักงานลง

แม้ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะยังเสียงแข็งว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯไม่ถดถอย แต่ก็เหมือนยอมรับกลายๆว่า “แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงก็จะถดถอยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

หันมามองเศรษฐกิจไทย แม้จะเริ่มฟื้นตัวหลังจากเครื่องยนต์ภาคการท่องเที่ยวเริ่มคืนกลับมา

แต่อย่าลืมว่าอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาตลอดคือ การส่งออก

ถ้าเศรษฐกิจโลกถดถอย การส่งออกไทยย่อมได้รับผลกระทบแน่นอน

เป็นคำเตือนจากคนเคยรัก “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ที่ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจในปีหน้า ไม่ดีแน่นอน จากนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่มองประเทศตัวเองเป็นสำคัญ

ซึ่งสหรัฐฯอาจจะรอด แต่ประเทศอื่นอ่วมอรทัยแน่ ส่วนจะกระทบมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม

พร้อมส่งสารไปถึงตัวนายกฯประยุทธ์ ต้องเอาคนที่รู้เรื่องและมีความจริงใจเข้ามาดูแล

ดูคุณสมคิดจะเน้นย้ำในเรื่องการใช้คนที่มีความจริงใจ เพื่อมาให้คำแนะนำในสิ่งที่ควรดำเนินการ

...

อีกคำเตือนจากขั้วตรงข้าม ในวงเสวนา “ความท้าทายของการบริหารของภาครัฐ จากยุค New Normal สู่ยุค Next Normal”

“พิชัย นริพทะพันธุ์” รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ พูดถึงการปรับตัวจาก New Normal สู่ Next Normal ที่รัฐบาลจะมาคิดแบบเดิมไม่ได้แล้ว

โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่หมดความหวังกับกลุ่มผู้มีอำนาจในยุคนี้ พร้อมข้อเสนอ 8 ข้อ คือ

1. เร่งฟื้นจีดีพีให้ขยายมากขึ้น เพื่อลดสัดส่วนหนี้สาธารณะ และหนี้ครัวเรือน ใช้เงินงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด

2.เร่งสร้างธุรกิจสมัยใหม่โดยเฉพาะธุรกิจทางเทคโนโลยี

3.ปรับโครงสร้างพลังงาน ที่สอดคล้องกับอนาคตของโลก

4.ปรับเปลี่ยน Digital transformation ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนรองรับอนาคต

5.พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทุกด้าน โดยเฉพาะด้านดิจิทัลและการศึกษา ฯลฯ

6.จำกัดและทำลายการผูกขาดในธุรกิจทุกประเภท

7.พัฒนาความสามารถแข่งขันของประเทศในทุกด้าน

8.ให้เสรีภาพและความเสมอภาคของประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ โดยต้องมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก

ด้าน “จุฑาพร เกตุราทร” คณะทำงานเศรษฐกิจเพื่อไทย มองว่า เด็กไทยมีศักยภาพไม่แพ้ชาติใดในโลก หากได้รับโอกาสและการสนับสนุนจากภาครัฐตั้งแต่อยู่ในระบบการศึกษาไปจนหลังสำเร็จการศึกษา

พร้อมไปกับการเร่งเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นในโลกยุคใหม่ เช่น ด้านดิจิทัล ภาษา และการคิดเชิงวิพากษ์ เพื่อยกระดับศักยภาพแรงงานรับอนาคต

ก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะรับฟังกันมากน้อยแค่ไหน

แต่ถ้าไม่เตรียมรับมือกันตั้งแต่เนิ่นๆ งานนี้ตัวใครตัวมัน.

“เพลิงสุริยะ”