หัวหน้าพรรค ปชป. ประกาศเป้าหมายเลือกตั้งหน้า ส.ส.ทุกคนที่ยังอยู่กับพรรค ต้องได้กลับมาทั้งหมด พร้อมเดินหน้าทุ่มเทสรรพกำลังให้ประชาชนยอมรับ มั่นใจเที่ยวหน้าประชาธิปัตย์คัมแบ็กแน่นอน

วันที่ 2 ต.ค. 2565 เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมอวานี พลัส เกาะลันตา จ.กระบี่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวเปิดงานสัมมนา ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษอีกครั้งหนึ่งของพรรค ที่เมื่อปิดสมัยการประชุมทุกครั้ง เราจะมีการสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ติดตามสถานการณ์และกำหนดทิศทางในการขับเคลื่อนงานด้านการเมืองของพรรคต่อไป ครั้งนี้คงจะเป็นครั้งที่เราต้องติดตามสถานการณ์ทางการเมืองใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพราะสภาเข้าสู่ปีสุดท้าย ปีที่ 4 แล้ว และคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ก็ชัดเจนแล้วเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะฉะนั้นเหลือเวลาตัวเลขกลมๆ ที่ครบเทอม สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ก็ประมาณ 2 ปี

ส่วนภารกิจสำคัญของรัฐบาลก็คือภารกิจในการเข้าสู่ช่วงครึ่งปีสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้ มี 2 เรื่อง คือ 1. รัฐบาลต้องทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปก 2. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งตัวจักรสำคัญอีกอันที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คือ ราคาพืชผลการเกษตร และนโยบาย “ประกันรายได้ของพรรคประชาธิปัตย์” ซึ่งเป็นเงื่อนไขก่อนการเข้าร่วมรัฐบาล จนกระทั่งกลายมาเป็นนโยบายรัฐบาลนี้

“นี่คือภาพรวมที่อยากให้พวกเราได้เห็น และให้พวกเราได้ร่วมกันภาคภูมิใจว่า 3 ปีเศษ ในการร่วมรัฐบาลชุดนี้ ประชาธิปัตย์สร้างผลงานได้เกินตัว เรามี 52 ผมมั่นใจว่าผลงานนี้เกิน 52 เสียงที่เรามีอยู่”

...

นายจุรินทร์ ยังกล่าวต่อไปว่า ภารกิจของพรรค ที่จะต้องทำถัดจากนี้ไปในช่วง 6 เดือน ก่อนที่สภาชุดนี้จะหมดวาระ มี 2 เรื่อง คือ ต้องทำหน้าที่พรรคร่วมรัฐบาลต่อไป เพราะรัฐบาลนี้ยังอยู่ และการเตรียมการเลือกตั้ง โดยมีหัวหน้าพรรคเป็นที่ปรึกษา มีเลขาธิการพรรคเป็นประธานคณะกรรมการเตรียมการเลือกตั้ง มี นายนิพนธ์ บุญญามณี เป็นเลขาของคณะกรรมการ และรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์

สำหรับเป้าหมายของการเตรียมการเลือกตั้งครั้งนี้ แน่นอนว่า เลขาธิการพรรคก็เคยประกาศไปแล้ว และตนก็เคยพูดไปแล้วในหลายโอกาส อย่างน้อยเป้าหมาย 2 ข้อที่เราจะต้องบรรลุ
1. ผู้แทนราษฎรของพรรคทุกคนที่ยังยืนหยัดมั่นคงอยู่กับพรรค ต้องกลับมาทั้งหมด เพราะฉะนั้นพรรคพร้อมทุ่มเทสรรพกำลังทั้งหลายทั่วปวง เอาพวกเรากลับมาในการเลือกตั้งครั้งหน้า
2. เราจะต้องเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่จะต้องทำให้เราได้รับการยอมรับจากประชาชนมากกว่าเดิม กว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

“ผมอยู่ในพรรคมาหลายยุค เห็นการเตรียมการเลือกตั้งมาหลายครั้ง ครั้งนี้ผมเรียนว่า เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พรรคมีความพร้อมไม่แพ้หลายยุคที่ผ่านมา และพร้อมที่จะเดินหน้าก้าวเข้าสู่การเลือกตั้ง เพียงแต่ขอให้พวกเราทุกคนช่วยกันทุ่มเท หนักแน่น และเป็นเอกภาพ ผมมั่นใจว่า ถ้าเราทำได้อย่างนี้ เที่ยวหน้าประชาธิปัตย์คัมแบ็กแน่นอน”