“กัญชาเสรี” นโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทย นอกจากจะมีปัญหาว่าร่าง พ.ร.บ.ที่สภาผู้แทนราษฎรให้ถอนกลับ เพื่อให้ปรับปรุงแก้ไข จะกลับเข้ามาทันสมัยประชุมหน้าหรือไม่ ยังมีอีกปัญหาแทรกซ้อนขึ้นมา หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์รายงานว่ากลุ่มผู้ปลูกกัญชาออกมาโวย ราคากัญชาตกต่ำ เพราะมีผลผลิตมากเกินไป

นายจิระวัฒน์ รังสี ประธานวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรการแพทย์ ต.นาคำ จังหวัดนครพนม ชี้แจงว่าวิสาหกิจแห่งนี้มีสมาชิก 30 คน เริ่มปลูกกัญชาตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 30,000 ต้น ในระยะเริ่มแรก ทางกลุ่มขายผลผลิตได้เดือนละ 50,000 ถึง 100,000บาท แต่หลังจากนั้นราคากัญชาก็ทรุดฮวบลง เพราะใครๆก็สามารถปลูกได้

กัญชาเสรีกลายเป็นประเด็นการเมือง เป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับพรรคประชาธิปัตย์ และอาจลามถึงพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจาก ส.ส.ประชาธิปัตย์เป็นเจ้าของญัตติที่ทำให้สภามีมติให้ กมธ.ถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชา ที่ผ่านวาระแรกมาแล้ว พรรคภูมิใจไทยกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ จงใจเตะถ่วงร่างกฎหมาย

พรรคภูมิใจไทยเจ้าของคำขวัญ “พูดแล้วทำ” อ้างว่านโยบายกัญชาเสรีทำให้ ภท.มีคะแนนนิยมพุ่ง พรรคอื่นจึงตัดแข้งตัดขา และยังมีร่างกฎหมายสำคัญอีกฉบับ ที่เสนอโดยพรรค ภท. และผ่านสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อย แต่อาจมีปัญหาในขั้นวุฒิสภา นั่นก็คือร่างแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือกองทุน กยศ.

เลขาธิการกองทุน กยศ.ให้สัมภาษณ์สื่อว่า ร่าง พ.ร.บ.ของพรรคภูมิใจไทย แก้ไขหลักเกณฑ์การกู้ยืม โดยไม่คิดดอกเบี้ยและไม่ต้องเสียค่าปรับ สำหรับนักศึกษาที่ติดนัดชำระหนี้ จะทำให้กองทุนสูญเสียรายได้ปีละ 6 พันล้านบาท ซึ่งมาจากดอกเบี้ยและค่าปรับ กระทบถึงการปล่อยกู้ให้นักศึกษารุ่นต่อๆไปที่ขอกู้ยืม

...

เลขาธิการกองทุน กยศ.เปิดเผยด้วยว่า คณะกรรมาธิการของวุฒิสภาเรียกตนไปชี้แจงเกี่ยวกับการแก้ไขกติกาการกู้ยืม และตนจะเน้นถึงความสำคัญของการคงไว้ซึ่งดอกเบี้ย และค่าปรับ ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นอีกฉบับหนึ่งที่จะแสดงว่าการตรากฎหมายหรือแก้ไขกฎหมาย จะต้องคำนึงถึงผลกระทบรอบด้าน ไม่ใช่มุ่งหาเสียงลูกเดียว

ส่วนข้ออ้างที่ว่านโยบาย “พูดแล้วทำ” ทำให้พรรคคะแนนนิยมพุ่ง จนพรรคอื่นหงุดหงิด ผลการสำรวจความนิยมล่าสุดของนิด้าโพล พรรคเพื่อไทยได้อันดับ 1 (34.44%) พรรคภูมิใจไทยก้าวกระโดด มาเป็นอันดับ 8 (2.3%) เมื่อถามว่าอยากให้ใครเป็นนายกฯ อันดับหนึ่งคือแพทองธาร ชินวัตร (24.60%) ส่วนหัวหน้าพรรค ภท.มาที่ 8 ด้วยคะแนน 2.40%.