“วทันยา” มอง “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีแล้ว แต่สุดท้ายอยู่ที่ศาลวินิจฉัย พร้อมขอพิสูจน์ตัวเองต่อบนเส้นทางการเมือง ไม่หวังสูงถึงรัฐมนตรี อยู่ที่ประชาชน ยัน “บิ๊กป้อม” ยังแข็งแรง

วันที่ 22 ก.ย. 2565 น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เปิดปากกับภาคภูมิ ทางไทยรัฐทีวี ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ โดยในช่วงหนึ่งได้เปิดเผยถึงความรู้สึกที่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ มา 3 ปีว่า หลังลาออกมาแล้วได้ทบทวน ก็ยังอยากทำงานการเมืองต่อ ระหว่างนั้นก็กลับมาถามตัวเอง สุดท้ายแล้วเมื่อมองหลายๆ อย่างคิดว่า ความตั้งใจ (Passion) ที่อยากเข้ามาทำงานการเมืองในการแก้ไขปัญหาหลายๆ อย่าง ยังเป็นแรงบันดาลใจหลักที่ตัดสินใจไปต่อ

เมื่อถามว่าหลังลาออกได้คุยกับครอบครัวหรือไม่ บอกว่าอย่างไร น.ส.วทันยา ยอมรับว่าคนใกล้ตัวไม่อยากให้เป็นนักการเมืองต่อ ทุกคนบอกให้หยุดอยู่บ้าน ลูกถามตลอดเมื่อไหร่จะลาออก ซึ่งวันนี้ที่มาสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่ได้บอกลูก ส่วนอะไรทำให้อยากไปต่อกับเส้นทางการเมือง เนื่องจากเคยได้มีโอกาสเข้ามาทำงานการเมือง และตนเองเคยทำสื่อมวลชน ซึ่งเป็นงานที่ขับเคลื่อนสังคมโดยตรง เป็นหูเป็นตา ตรวจสอบนักการเมือง ข้าราชการ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างคนที่เดือดร้อนกับหน่วยงานในการช่วยแก้ปัญหา แพชชั่นเรื่องนี้เชื่อว่ามีอยู่ในตัวคนที่ทำสื่อทุกคน

...

ทั้งนี้ เมื่อเข้ามาทำงานการเมืองได้สัมผัสและเห็นได้ชัดว่าได้มีส่วนเข้าไปช่วยแก้ปัญหา การขับเคลื่อนนโยบาย การออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์ คัดค้านกฎหมายที่มีช่องโหว่ การตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารรัฐบาล เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน เพราะเข้าไปอยู่ในกลไกการเมืองโดยตรง จึงเป็นแรงบันดาลใจว่าถ้าอยากจะแก้ปัญหา โดยเฉพาะมีแพชชั่นในการขับเคลื่อนสังคมอยู่แล้ว จึงเป็นจุดที่ทำให้คิดว่าตั้งใจที่จะทำงานการเมืองต่อ และอยากเป็น ส.ส. แต่เป็นตำแหน่งอะไรก็ได้ที่จะมีส่วนขับเคลื่อนการเมือง

ส่วนคำถามถึงการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มาดามเดียร์ มองว่า ไม่ได้อยู่ที่ตนเอง แต่อยู่ที่ประชาชนเป็นลำดับแรก รองลงมาคือพรรค ส่วนตัวมองว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องได้รับการยอมรับจากประชาชนก่อน ส่วนคำถามต่อไปว่าอยากเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ น.ส.วทันยา ตอบว่า “ไม่ได้คิดว่าจะต้องเป็นรัฐมนตรีไหม แต่เราก็มีแนวนโยบาย อยากจะทำงานในการที่จะช่วยขับเคลื่อนในความเห็นของหลายๆ เรื่องที่ตัวเองสนใจ แต่บทบาทในการขับเคลื่อนจริงๆ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นรัฐมนตรีหรือไม่เป็น ก็มีส่วนช่วยได้ทั้งหมด แต่ขอข้อแรกที่สำคัญที่สุด ต้องรู้ก่อนว่าหน้าที่ตัวเองต้องทำอะไรเท่านั้นเอง เพราะตอนที่ตัดสินใจลาออกเดียร์ก็ตระหนักว่าหน้าที่ของ ส.ส. คือการออกกฎหมาย เข้าร่วมประชุมสภา แต่ถ้าเราเลือกมองข้ามหน้าที่หลักอันเป็นพื้นฐานของเราตั้งแต่ต้น นั่นเป็นจุดที่รู้สึกว่าก็คงเป็นความเห็นที่ไม่ตรงกัน”

สำหรับประเด็นคำถามว่าอยากเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น มาดามเดียร์ ตอบว่า ยังไม่เคยคิดไปไกลขนาดนั้น หลายคนก็มีแพชชั่น มีความฝันจริงๆ ว่าอยากจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่แพชชั่นของตนเองยังไม่เคยมีคำว่านายกรัฐมนตรีอยู่ในสมการ และไม่ได้มองว่าจะต้องไปเป็นอะไรแล้วถึงจะค่อยทำสิ่งนั้นได้ ถ้าเรารู้จักหน้าที่ตัวเราก็สามารถทำตรงนั้นให้สำเร็จได้ ทำให้ดีที่สุด โอกาสข้างหน้าจะเป็นอย่างไรให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ พร้อมกันนี้ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นนักการเมือง แต่เป็นประชาชนคนหนึ่งที่มีความฝันทำงานการเมือง เพราะอยากเห็นคุณภาพชีวิตที่ดี เศรษฐกิจประเทศดี

เมื่อเข้าสู่คำถามในมุมมองของ มาดามเดียร์ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีแล้วหรือยัง เจ้าตัวระบุขอตอบในฐานะประชาชนคนหนึ่งว่า “เรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ คงไม่ขอไปก้าวล่วงที่ศาลอยู่ในการพิจารณา แต่พูดในฐานะบทบาทประชาชนคนหนึ่ง คงกลับมาดูที่เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ การที่เขียนไว้ว่าไม่ให้นายกฯ ดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี นั่นก็คงหมายถึงว่าไม่อยากให้มีการสืบทอดของอำนาจยาวนานจนเกินไป พอเป็นแบบนั้นแล้วก็ต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ จากสายตาซึ่งตัวเดียร์เองสัมผัสได้ เราก็เห็นท่านนายกฯ ทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรีมาครบระยะเวลา 8 ปีแล้ว นี่คือสิ่งที่เราสัมผัส แต่ว่าสุดท้ายแล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไร เราก็คงจะต้องน้อมรับและเคารพในความคิดเห็นของศาลที่วินิจฉัย”

ในช่วงท้าย น.ส.วทันยา กล่าวยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แข็งแรงอยู่แล้ว สมองยังเฟรช ทำงานได้ตามปกติ ก่อนลาออกไปกราบลา ท่านไม่ได้ว่าอะไร ก็อวยพรขอให้โชคดี เพราะตัดสินใจกะทันหัน ซึ่งเรามีจุดยืนในความเห็นตัวเอง ย้ำว่าไม่เกี่ยวกับกลุ่มดาวฤกษ์ โดยเมื่อขอคำนิยามถึงขอ 3 คำถึง พล.อ.ประวิตร ทางด้าน มาดามเดียร์ ตอบว่า “ด้วยความเคารพ”.