รัฐบาล ยืนยัน ตลาดการเงินไทยยังแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ ขณะที่มูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศปรับลดลง เป็นผลจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ต่อเนื่อง ธปท. เผย ไม่พบสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินทุนผิดปกติ

วันที่ 20 ก.ย. 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีมูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศของไทยปรับลดลง เป็นผลมาจากการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ไม่พบสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ผิดปกติ และระดับเงินสำรองฯ เมื่อเทียบต่อ GDP ยังสูงกว่าหลายประเทศ

ทั้งนี้ จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า มูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศที่ปรับลดลงจาก 2.78 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงต้นปี มาอยู่ที่ระดับ 2.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลมาจากการตีมูลค่าเงินสำรองฯ ที่อยู่ในสินทรัพย์หลายสกุลเงินให้เป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ทำให้สินทรัพย์สกุลอื่นๆ เมื่อตีมูลค่าเป็นรูปดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่าลดลง ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดการเงินผันผวนสูงขึ้นจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง และเป็นเหตุการณ์ปกติในช่วงที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวผันผวนสูง มูลค่าเงินสำรองฯ ก็จะผันผวนสูงขึ้นตามไปด้วย

นอกจากนี้ ธปท. ยังยืนยันว่า ไม่พบสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ผิดปกติ และประเทศไทยยังมีฐานะทางการเงินที่ดี จากระดับเงินสำรองฯ ที่อยู่ประมาณ 2.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีเงินสำรองฯ มากที่สุดเป็นอันดับที่ 12 ของโลก และเมื่อเทียบเงินสำรองฯ ต่อ GDP จะคิดเป็น 48% ของ GDP ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 6 ของโลก รวมถึงยังสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นของไทยถึงเกือบ 3 เท่า

...

“สถานการณ์เศรษฐกิจที่ผันผวน ปัญหาเงินเฟ้อสูง ราคาน้ำมันแพง และราคาสินค้าปรับสูงขึ้น รวมถึงตลาดการเงินที่ผันผวน สร้างผลกระทบต่อค่าเงิน และเงินสำรองระหว่างประเทศ เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับหลายๆ ประเทศในโลก อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีเงินสำรองระหว่างประเทศที่เพียงพอจะรับมือสถานการณ์ในปัจจุบัน ตลอดจนตลาดการเงินของไทยยังคงมีความแข็งแกร่ง มีเสถียรภาพ รวมทั้งไทยยังมีศักยภาพ เป็นที่น่าสนใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศและนักลงทุนได้”