“พล.อ.ประวิตร” กระตุ้นเรตติ้งรัฐบาล จี้ ครม.สนองความต้องการปชช. สั่งดูค่าเงินบาท และเร่งรัดก่อสร้างถนน จ่อนั่งประชุม ศบค. เอง 23 ก.ย.นี้ ด้าน “สุริยะ” เฮ ได้ 8 พันล้านช่วยชาวไร่อ้อยก่อนสิ้นปี
วันที่ 20 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันเดียวกันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับค่าเงินบาทที่กำลังอ่อนตัวในขณะนี้ โดยกำชับไปยัง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เร่งหารือกับธนคารแห่งประเทศไทย เพื่อประคองให้ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ให้อ่อนตัวมากกว่านี้ เดี๋ยวจะเหมือนยุค พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ที่ค่าเงินบาทลอยตัวไปถึง 54 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ โดยพูดทีเล่นที่จริงว่า “แบบนั้นตายห่าเลย ขอให้ดำเนินการโดยด่วน” ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากรัฐมนตรีในห้องประชุม แต่ไม่มีใครกล่าวเสริมอะไร นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้นำข้อร้องเรียนจากประชาชนในการลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ก.ย. มาสั่งการในที่ประชุม เช่น สั่งการไปยังกระทรวงคมนาคมเร่งรัดเส้นทางคมนาคมระหว่าง จ.ยะลา กับ อ.เบตง ที่ล่าช้า รวมถึงการสั่งบูรณะวัดในพื้นที่ที่ไม่ได้รับการบูรณะกว่า 100 ปี ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าตั้งแต่ พล.อ.ประวิตร ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ จะนำข้อร้องเรียนจากประชาชนจากการลงพื้นที่มาสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแบบลงรายละเอียด ซึ่งแตกต่างจาก พล.อ.ประยุทธ์ ที่มักจะไม่ลงลึกในรายละเอียด
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังมีมติอนุมัติงบกลางโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2564/2565 วงเงิน 8,320 ล้านบาท เป็นที่น่าสังเกตว่าเรื่องดังกล่าว นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ถูกตีตก เพราะถูกมองว่าเป็นช่วงปลายปีงบประมาณ แต่พอวันนี้เมื่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติ ทำให้นายสุริยะถึงกับกล่าวว่า ขอบคุณนายอาคมที่จัดสรรงบประมาณมาให้จนได้ เวลาลงพื้นที่ตนจะบอกประชาชนว่าการอนุมัติงบประมาณครั้งนี้เป็นผลงานของ ครม.ทั้งคณะ
...
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันที่ 23 ก.ย.นี้ พล.อ.ประวิตร จะทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม สำหรับเนื้อหาที่จะพิจารณานั้นยังต้องรอให้ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ประชุมกันในวันที่ 22 ก.ย. เพื่อสรุปประเด็นกันอีกครั้งก่อน.