“เสรีพิศุทธ์" ประธาน กมธ.ป.ป.ช. บ่น งานล้น ติง “ชวน” ไม่ให้ตั้งอนุฯ กมธ.เพิ่ม ขณะ สมาคมแท็กซี่ฯ บุกร้อง กมธ.ป.ป.ช. สอบ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปมลงนามกับ แกร็บคาร์ ประเทศไทย ยันผิด ไร้กฎหมายรองรับ 

    
เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 7 ก.ย. 2565 ที่รัฐสภา นายวรพล แกมขุนทด ประธานที่ปรึกษาสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ และกลุ่มผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ เป็นตัวแทนสมาคมฯและกลุ่มเข้ายื่นหนังสือต่อพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่มอบหมายรองผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ลงนามในการทำสัญญาข้อตกลงร่วมมือกับ บริษัท แกร็บ ประเทศไทย ผลักดันโปรเจกต์ "เที่ยวกับแกร็บ อเมซิ่งยิ่งกว่า" ซึ่งอาจมีการกระทำผิดต่อกฎหมาย เพราะปัจจุบันแกร็บรถยนต์ยังดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งผู้โดยสารผ่านระบบแอปพลิเคชันที่ผิดต่อพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รถยนต์ พ.ศ 2522 จะทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย และยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2564 ตามประกาศของกรมการขนส่งทางบก หรือยังมีสถานะเป็นรถป้ายดำ ที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นรถสาธารณะ ซึ่งจะเป็นการทำลายความมั่นคงของระบบรถรับจ้างสาธารณะ โดยเฉพาะแท็กซี่ที่ยังต้องใช้อัตราค่าโดยสารตามมาตรวัด หรือตามราคากดมิเตอร์ที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้ ซึ่งทำให้แท็กซี่ไม่สามารถแข่งขันได้ ซึ่ง ททท.จะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวหลังรับเรื่องไว้ และจะนำไปตรวจสอบว่า อยู่ในอำนาจของ กมธ.หรือไม่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีการร้องเรียนในเรื่องต่างๆ มายัง กมธ.เป็นจำนวนมาก จนกระทั่งงานล้นมือ ที่ผ่านมาเคยได้ขอให้มีการตั้งคณะอนุ กมธ. เพิ่มขึ้นจาก 2 ชุดเป็น 14 ชุด เพื่อประจำตัว กมธ.ช่วยดำเนินการพิจารณาและสรุปรายงานเสนอต่อสภาฯ แต่ก็ไม่ได้รับอนุมัติ จึงเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของ กมธ.พอสมควร ซึ่งก็ไม่รู้ว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะรู้บ้างหรือไม่ ซึ่งตอนขอก็แจ้งว่าจะไม่รบกวนห้องประชุม จะบริหารจัดการกันเอง แต่ก็เป็นเรื่องของภายในสภาฯ กันเองที่ไม่เข้าใจปัญหา

...