“ชนินทร์” ย้ำ “ประยุทธ์” หมดปัญญาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปล่อยเงินเฟ้อพุ่ง จับตา มาม่า-ไวไว ปรับราคา สัญญาณร้าย เตือนทุกระบบของประเทศพังพินาศ

วันที่ 15 ส.ค. 2565 นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีบริษัทผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหลายยี่ห้อของไทย พร้อมใจกันเตรียมปรับขึ้นราคาจาก 6 บาท เป็น 8 บาท หรือปรับขึ้นทีเดียวมากถึง 33% ว่า เป็นอีกสถานการณ์ที่สะท้อนความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้อย่างชัดเจน เพราะภายใต้สถานการณ์วิกฤติที่ท้าทายความสามารถของผู้นำประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถเป็นที่พึ่งที่หวัง ปล่อยให้เกิดการปรับขึ้นราคาสินค้าและค่าครองชีพทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าไฟฟ้า หรือค่าเดินทาง จนประชาชนแบกรับไม่ไหว เพราะยังมีรายได้ตกต่ำ ไม่มีการปรับขึ้น ซ้ำร้ายกว่านั้นยังถดถอยลงในหลายๆ ธุรกิจด้วยซ้ำ

ทั้งนี้ การปรับขึ้นราคาของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นดัชนีที่ชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลหมดปัญญาในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนแล้ว ในทุกรัฐบาลที่ผ่านมาแม้จะเกิดปัญหาเศรษฐกิจมากขนาดไหน สินค้าประเภทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะเป็นสินค้าที่ไม่ปรับราคา หรือปรับราคาน้อยที่สุด อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเลิกใช้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และความขัดแย้งของต่างประเทศ เป็นข้ออ้างของความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้แล้ว เพราะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ของปี 2565 เติบโตเพียง 2.5% ซึ่งต่ำที่สุดในภูมิภาคอาเซียนที่เติบโต 3.4-8% และต่ำกว่าที่หลายฝ่ายประเมินไว้

...

ขณะที่เงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 14 ปี ตอกย้ำภาวะเงินเฟ้อรุนแรงในปัจจุบัน จากแรงกดดันของภาคการผลิต (Cost-push Inflation) ค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่รายได้ประชาชนโตตามไม่ทัน จนเกิดช่องว่างระหว่างรายได้กับรายจ่ายที่ห่างขึ้นเรื่อยๆ จนน่าเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจจะเสี่ยงซึมยาว หรือพังทั้งระบบ จากเสือตัวที่ห้ากลายเป็นเต่าที่เดินตามใครไม่ทัน ทำได้เพียงคาดหวังให้สถานการณ์โลกดีขึ้นด้วยตัวเอง เพื่อให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยไม่มีมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยว หรือการเดินหน้าเชิงรุกเจรจาเพื่อเปิดโอกาสหารายได้เข้าประเทศด้วยทางอื่นๆ

“พล.อ.ประยุทธ์ เก่งแต่กับประชาชน แต่สงบเสงี่ยมเจียมตัวกับนายทุนใหญ่ ปล่อยให้ขึ้นราคาสินค้าทุกอย่าง สวนทางกับค่าแรงประชาชน ยิ่งอยู่นานขึ้นคนไทยยิ่งจนลง หากบริหารมั่วๆ ซั่วๆ แบบนี้ต่อไปเศรษฐกิจไทยจะพังทั้งระบบ จนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปห่อเดียวชาวบ้านทั่วไปก็ซื้อทานไม่ไหว”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค. 2565) เวลา 09.30 น. ตัวแทนผู้ประกอบการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 5 บริษัท จะไปยื่นที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้พิจารณาอนุมัติการปรับขึ้นราคาสินค้าอีก 2 บาท เป็น 8 บาทต่อซอง.