นายกฯ สั่งทุกหน่วยงาน ขับเคลื่อนแผนงานตามที่ประชุม สมช. รับมือวิกฤติเศรษฐกิจ-อาหาร-พลังงาน หนุนส่งเสริมส่งออก-บริโภคภายในประเทศ กำชับกระทรวงท่องเที่ยวฯ เตรียมรับ นทท. ช่วงไฮซีซั่น คาดทั้งปี 9.3 ล้านคน ทำรายได้ 1.27 ล้านล้านบาท

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เน้นย้ำเรื่องเศรษฐกิจฐานราก โดยได้กำชับให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และทุกส่วนราชการร่วมกันขับเคลื่อน นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการกำหนดกลไกแผนงานเชิงยุทธศาสตร์ตามห่วงระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย. 2565 และในช่วง 6 เดือนถึงเดือน ธ.ค. โดยให้เตรียมพร้อมรับมือผลกระทบวิกฤติด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ ทั้งวิกฤติเรื่องอาหารและวิกฤติด้านพลังงาน รวมทั้งส่งเสริมแนวทางใหม่ในการสนับสนุนและส่งเสริมการส่งออกและการบริโภคภายในประเทศ

นายธนกร กล่าวต่อว่านายกรัฐมนตรีกำชับให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูแล ห่วงโซ่การส่งออกของภาคเกษตร โดยเน้นย้ำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์จากราคาสินค้าส่งออกที่มีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในหมวดของสินค้าอุตสาหกรรม ที่เพิ่มขึ้น 15 เดือนต่อเนื่อง โดยใน 5 เดือนแรกเพิ่มขึ้นถึง 11.3% ซึ่งทำเงินเข้าประเทศ 3.16 ล้านล้านบาท

นายธนกร กล่าวอีกว่า ในเรื่องการท่องเที่ยวนายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมการรับการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น โดยเชิญชวนผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ ทั้งในเรื่องที่พักและเรื่องของราคาตั๋วเครื่องบิน จึงคาดว่าทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยว 9.3 ล้านคน ซึ่งประมาณรายได้จะสูงถึง 1.27 ล้านล้านบาท พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศประชาสัมพันธ์เรื่องมติที่ประชุม ศบค.ในการยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมถึงความปลอดภัยทางด้านสาธารณสุข การป้องกันและลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในลักษณะที่เป็นคลัสเตอร์

...