พลเอกประวิตร ยินดี สภาน้ำแห่งเอเชีย และ OECD หนุน สทนช. ศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อยกระดับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ EEC

วันที่ 4 ก.ค. 2565 เวลา 09.30 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานเสวนา “ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อยกระดับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ EEC” ซึ่งจัดขึ้นโดย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ร่วมกับ กระทรวงสิ่งแวดล้อมสาธารณรัฐเกาหลี สภาน้ำแห่งเอเชีย (Asia Water Council หรือ AWC) และ องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organization for Economic Co-operation and Development หรือ OECD) ณ ห้องประชุมแคทลียา โรงแรม รามา การ์เด้นส์ โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กล่าวรายงาน และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและองค์กรที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก อาทิ ดร.โช ยงด็อก เลขาธิการสภาน้ำแห่งเอเชีย (AWC) ผู้แทนองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กรมชลประทาน การประปาส่วนภูมิภาค องค์การจัดการน้ำเสีย และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การรายงานผลการศึกษา โดย OECD การนำเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน ภายใต้หัวข้อ “โอกาส ความท้าทาย และแนวทางการดำเนินการต่อไปของการนำข้อเสนอแนะด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของ OECD มาประยุกต์ใช้” เป็นต้น

พลเอกประวิตร กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมสาธารณรัฐเกาหลี สภาน้ำแห่งเอเชีย และ OECD ในการศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อยกระดับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ EEC การเสวนาครั้งนี้นับเป็นการเปิดโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และข้อแนะนำต่างๆ เพื่อให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่ OECD ได้จัดทำขึ้นสัมฤทธิ์ผลและเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปปรับใช้ให้ตรงตามบริบทของประเทศไทย เนื่องจากการบริหารจัดการน้ำจำเป็นต้องมีการพัฒนาตลอดเวลาทั้งด้านนโยบายและการปฏิบัติการ เพื่อให้ปัจจัยพื้นฐานของประเทศมีความมั่นคง ส่งผลถึงการพัฒนาประเทศด้านต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยกำหนดเป็นวาระเร่งด่วนของประเทศ และได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และแนวพระราชดำริด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมาเป็นเข็มทิศในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์จากน้ำตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (ปี 2561-2580) การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบจะสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สิ่งสำคัญคือมีองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และร่วมกันบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ทั้งภายในประเทศและกับพันธมิตรต่างประเทศ

ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า งานเสวนาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “การหารือระดับชาติเรื่องน้ำในประเทศไทยและพื้นที่ศึกษาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก” หรือ “EEC” ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง AWC กระทรวงสิ่งแวดล้อมสาธารณรัฐเกาหลี OECD และ สทนช. ภายใต้ “โครงการข้อริเริ่มความร่วมมือด้านน้ำกรอบระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ ค.ศ.2020-2024”.

...