“ชวน” แทงเรื่องให้ 7 พรรคฝ่ายค้านยืนยันรายชื่อ ส.ส.ร่วมญัตติซักฟอก ถูกต้องหรือไม่ “สุทิน” ยันมีชื่อ “สุชาติ” มาตั้งแต่แรก ไม่ใช่เพิ่มใหม่ “สุกิจ” ชี้เรื่องปกติให้ยืนยันความถูกต้อง “เสี่ยเฮ้ง” ฮึ่มใส่ก้าวไกล ขู่ไปตอบ ป.ป.ช.เอาเอง “โรม” เย้ย ออกอาการกลัวตายคาเขียง “ศิริกัญญา” ปัดทุนใหญ่ตีค่ายสีส้มแตก แจงไม่มีชื่อ “สุพัฒนพงษ์” เพราะพุ่งเป้าไปที่ตัว “ประยุทธ์” “เรืองไกร” รีบปัดรับงานล้มอภิปราย “ประวิตร” ย้ำ ศท.ยังพิทักษ์รัฐบาล ถ่อมตัวมวยรอง พท. นายกฯลั่นพร้อมแจงทุกเรื่อง “ศักดิ์สยาม” ฟุ้งมีแต่คนแห่เข้า ภท. เพื่อไทยทำบุญวันเกิด “ยิ่งลักษณ์” เจ้าตัวหวังสักวันได้กลับบ้าน เคาะเพิ่มหวยดิจิทัลเป็น 10 ล้านใบ เริ่ม 17 ก.ค.นี้

ตามที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ยื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ล่าสุดนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหนังสือให้ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ไปดำเนินการลงนามยืนยันความถูกต้องของญัตติที่เสนอมาอีกครั้งแล้ว

...

“ชวน” ให้ฝ่ายค้านยืนยันซ้ำ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ให้ฝ่ายค้านแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีให้ถูกต้อง มิเช่นนั้นจะยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.ตรวจสอบว่า ส.ส.ฝ่ายค้านไม่มีใครกังวลเรื่องนี้ มองข้ามไปถึงการเตรียมการอภิปราย วันที่ 21 มิ.ย. พรรคจะประชุมวางตัวผู้อภิปราย และเดินหน้าต่อไป ส่วนกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แนะนำให้ฝ่ายค้านถอนญัตติมาแก้ไขให้ถูกต้อง แล้วยื่นไปใหม่นั้น เรื่องนี้จะมีปัญหาต่อเมื่อมี ส.ส.ฝ่ายค้านเป็นเจ้าทุกข์ แต่เมื่อ ส.ส.ฝ่ายค้านยังนิ่ง เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา และวันนี้ครบ 7 วันที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งหนังสือขอให้ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านมาลงนามยืนยันความถูกต้องของญัตติที่เสนอมาอีกครั้ง ก่อนส่งกลับให้นายชวนในวันที่ 21 มิ.ย.จะประสานไปให้หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคลงนาม และส่งทันที เชื่อว่าเป็นการหาข้อเท็จจริง และแก้ปัญหาที่ถูกร้องเรียนเรื่องญัตติเถื่อนให้เดินต่อไปได้

ยันมีชื่อ “สุชาติ” มาตั้งแต่แรก

นายสุทินกล่าวอีกว่า ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายทุกปีแต่มาเกิดปัญหาแบบนี้ รัฐบาลอาจได้ข้อมูลผิดพลาด หรือมีเจตนาทำลายจังหวะสมาธิฝ่ายค้านก็ได้ การเพิ่มชื่อนายสุชาติก่อนการยื่นญัตติในวันที่ 15 มิ.ย. ความจริงมีชื่อนายสุชาติตั้งแต่แรกมีชื่อรัฐมนตรีจะถูกอภิปราย 15 คน แต่ฝ่ายค้านก็ตัดไปก่อนเพราะรอข้อมูลยืนยันอยู่ 2 คน พอถึงวันสุดท้ายมาตรวจสอบอีกครั้งพบข้อมูลเพียงพอ จึงเพิ่มเข้ามา ชื่อนายสุชาติไม่ได้เพิ่มใหม่ วันสุดท้ายเป็นการตัดรายชื่อออกไป 4 ไม่ได้เพิ่มชื่อ การระบุว่าเดิมมีชื่อรัฐมนตรี 10 คน ไม่น่าใช่ เป็นเพียงการให้สัมภาษณ์เท่านั้น ไม่มีเอกสารยืนยันตามนั้น การให้ข่าวถือเป็นกลยุทธ์เป็นเรื่องธรรมดา

“สุกิจ” ชี้เรื่องปกติให้ยืนยันซ้ำ

นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งหนังสือให้ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน มาลงนามยืนยันความถูกต้องในรายชื่อที่ยื่นญัตติไว้อีกครั้ง เป็นเรื่องปกติที่ต้องให้พรรคฝ่ายค้านทุกพรรคมารับรองว่ารายชื่อทั้งหมดถูกต้องทุกอย่าง แต่ละพรรคยังยืนยันรายชื่ออยู่หรือไม่ เพราะนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรค พปชร. ยื่นร้องเอาไว้ เป็นการตรวจสอบอีกครั้ง ถ้ามีใครไม่ยินยอมพร้อมใจ หรือไม่เต็มใจก็ว่ากันไป แต่รายชื่อที่สนับสนุนญัตติต้องได้ 1 ใน 5 ของ ส.ส.เท่าที่มีอยู่หรือ 96 คน ถือเป็นการตรวจสอบของฝ่ายตรวจสอบ ต้องถามกลับไปว่าเซ็นเองหรือไม่ จะให้ถาม ส.ส.แต่ละคนจะเสียเวลา จึงถามไปยังพรรคการเมืองนั้นๆแล้วให้แต่ละพรรคยืนยันมา หากรายชื่อทุกอย่างถูกต้องถือว่าญัตติถูกต้อง และต้องตอบกลับมาเร็วที่สุด ถ้าตอบช้าญัตติดังกล่าวก็จะช้าออกไปอีก

“เฮ้ง” ฮึ่มใส่ก้าวไกลอย่ายุ่ง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผอ.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 11 คน ของฝ่ายค้านว่า ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของประธานสภาฯ การยื่นญัตติของฝ่ายค้านครั้งนี้ถือว่าไม่เหมาะสม จะมาอภิปรายเขาแต่ขั้นตอนปฏิบัติไม่ถูกต้อง ยืนยันไม่ได้กลัวการตรวจสอบ “พรรคก้าวไกลอย่ามาพูด อย่ามายุ่งกับผม เพราะผมไม่เคยยุ่งกับคุณ เดี๋ยวรู้สึก เดี๋ยวเจอกัน จะตรวจสอบก็ตรวจสอบไป คนละประเด็นอย่าเบี่ยงประเด็น แต่ที่ผมให้ตรวจสอบคือญัตติของคุณมันชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่” และแค่คนคนเดียวสามารถทำให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีปัญหาได้ ก็ไปคิดเอาเองแล้วกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตนเป็นลูกผู้ชายชัดเจน เคยได้ถ้วยบู้บี้ ได้คะแนนรองบ๊วยและบ๊วยก็ได้มาแล้ว ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่ถ้าเรื่องถึง ป.ป.ช.ก็ว่ากันไป ไปตอบคำถาม ป.ป.ช.เองแล้วกัน

“โรม” เย้ยอาการออกกลัวตาย

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน แสดงความไม่พอใจและข่มขู่พรรคก้าวไกลว่า แปลกใจว่าทำไมนายสุชาติถึงออกมาดิ้นขนาดนี้ หากไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่ต้องกังวล ทำหน้าที่ชี้แจงให้ประชาชนหายสงสัย การแสดงออกของนายสุชาติ ถือว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านทำได้ตรงเป้า ส่วนหนึ่งอาจเป็นช่วงใกล้เลือกตั้งใหญ่ ทำให้นายสุชาติกังวลอาจกระทบถึงความนิยม เลยไม่อยากตายทางการเมืองในช่วงนี้ ด้วยเสถียรภาพรัฐบาลที่ง่อนแง่นในช่วงนี้ ทำให้นายสุชาติไม่มั่นใจว่าตัวเองจะรอดหรือไม่ เหมือนรู้ชะตากรรมตัวเอง สำหรับกรอบเวลาอภิปราย 4 วัน และลงมติอีก 1 วัน รวม 5 วัน ถือว่าเหมาะสม เพราะนี่เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้ เราอยากนำข้อมูลหลายอย่างที่เกี่ยวกับการบริหารงาน ของรัฐบาลชุดนี้ มาเปิดเผยให้ประชาชนได้รับรู้ เพราะบางเรื่องไม่เคยมีใครรู้มาก่อน

ปัดทุนใหญ่ตีค่ายสีส้มแตก

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงเสียงวิจารณ์ไม่มีชื่อนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและ รมว.พลังงาน อยู่ในลิสต์ซักฟอก ทั้งที่ชาวบ้านเดือดร้อนกับวิกฤติราคาพลังงานว่า ยืนยันว่ามีเรื่องพลังงานในการอภิปรายครั้งนี้เเน่นอน แต่ไม่ได้อภิปราย รมว.พลังงาน เพราะเป็นรัฐมนตรีขาลอยไม่ได้มีนั่งร้าน เลยพุ่งเป้าไปที่ตัวนายกฯ เมื่อถามว่าที่พรรคก้าวไกลไม่อภิปราย รมว.พลังงานเพราะถูกทุนใหญ่พลังงานมาเจาะได้แล้ว น.ส.ศิริกัญญาตอบว่า เรื่องนี้ไม่จริงแน่นอน ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลยังอภิปรายจัดหนัก จัดเต็มเหมือนเดิม เพียงหลักฐานที่มีไม่ได้โยงไปที่ตัว รมว.พลังงาน แต่โยงไปที่ใครให้รอดูการอภิปราย เมื่อถามย้ำอีกว่าไม่มีการไปตกลงพูดคุยกับทุนใหญ่พลังงานใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญาตอบว่า ไม่มีอะไรแบบนั้นแน่นอน เรายังจนอยู่เลย รวมถึงทุนใหญ่ยังไม่ได้ถอนฟ้อง น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เคยอภิปรายเรื่องพลังงานเมื่อครั้งก่อน

“เรืองไกร” ปัดรับงานล้มญัตติ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า การตรวจสอบญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับความพยายามเดินเกมให้เลื่อนญัตติอภิปรายออกไปจนหมดสมัยประชุม เพื่อให้ญัตติตกไป อยากให้ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ ไม่ใช่กล่าวหาเขาแต่พฤติกรรมกลับไม่ซื่อสัตย์สุจริตเอง ขอให้ฝ่ายค้านไปเขียนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจมายื่นใหม่ ใช้เวลา 1-2 วัน ไปทำให้ถูกต้อง จะได้ไม่มีปัญหา และไม่ได้รับงานมาจาก ครม. รัฐบาลหรือฝ่ายค้าน

“ประวิตร” ย้ำ ศท.พิทักษ์รัฐบาล

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการคุมเสียงพรรคเล็กในศึกอภิปรายว่า ก็แล้วแต่เขา เขาอยู่กับรัฐบาลอยู่แล้วคงไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่าพรรคเศรษฐกิจไทยออกมาเป็นองครักษ์พิทักษ์ “ลุงป้อม” ทำให้สบายใจหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ก็พิทักษ์ทั้งหมด เขาร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว แต่มีบางคนแล้วแต่ความคิด คงไม่มีปัญหา” เมื่อถามถึงกรณีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค พปชร.ถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่เป็นไร ตนก็โดนเพ่งเล็ง คงไม่ต้องเก็งข้อสอบอะไร เพราะไม่ได้ทำผิด

หนุนขึ้นทะเบียน SME One ID

เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะผู้บริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พร้อม น.ส.บุษยพรรณ วงษ์พิไลวัฒน์ ผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับการผลักดันจนทำให้ธุรกิจเห็ดนางฟ้าทอดกรอบ Veget Crisp ประสบความสำเร็จส่งออกจำหน่ายได้ทั่วโลก เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เพื่อประชาสัมพันธ์งาน “หนึ่งรหัส หนึ่งผู้ประกอบการ (One Identification : ID One SMEs)” และงานพัฒนาระบบเพื่อขอรับการบริการภาครัฐ ตั้งเป้าผู้ประกอบการ SME ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลมาขึ้นทะเบียนระบบ SME One ID ไม่น้อยกว่า 1 ล้านราย ภายในสิ้นปี 2565

ดันอุทยานธรณีขึ้นมรดกโลก

ต่อมานายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะ นำ พล.อ.ประยุทธ์เยี่ยมชมนิทรรศการประชาสัมพันธ์การเสนออุทยานธรณีขอนแก่น เข้ารับการรับรองเป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เสนอ ครม.ให้ความเห็นชอบ ก่อนยื่นความจำนงต่อยูเนสโก ภายในวันที่ 1 ก.ค.นี้ และมอบหมายให้คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) กระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการเสนอต่อสำนักเลขาธิการยูเนสโก ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.มีมติเห็นชอบเสนออุทยานธรณีขอนแก่น เป็นอุทยานธรณีโลก ขององค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO

นายกฯลั่นพร้อมแจงทุกเรื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ครม.นาย อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ผู้ประสานงานวิปรัฐบาลรายงานต่อที่ประชุม ถึงกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขอเวลา 5 วัน ระหว่างวันที่ 18-21 ก.ค. และลงมติวันที่ 22 ก.ค. โดยไม่มีรัฐมนตรีคนไหนติดใจ หรือแสดงความเห็นอะไร ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พูดขึ้นว่า “รับทราบ วันไหนก็วันนั้น พร้อมชี้แจงทุกเรื่องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปเตรียมข้อมูลใช้ในการชี้แจงให้พร้อมให้วิปไปคุยกันให้เรียบร้อย” ทั้งนี้ช่วงหนึ่งนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอที่ประชุมว่า ควรปรับเรื่องการสื่อสารให้เข้มข้นในส่วนที่เกี่ยวกับโซเชียลมีเดียเพื่อให้ทันต่อโลก โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวสนับสนุนเห็นด้วย ขณะที่วาระการประชุม ครม. มีกว่า 40 เรื่องทำให้ พล.อ.ประยุทธ์มีท่าทีอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด และพูดกับคนใกล้ชิดว่า “เหนื่อย”

“บิ๊กป้อม” ถ่อมตัวมวยรอง พท.

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ มีประชาชนมาต้อนรับจำนวนมากว่า คิดว่าทุกพรรคไปที่ไหนประชาชนก็ให้การต้อนรับ เพราะทุกคนทำงานให้ประชาชน เมื่อถามว่าจะลงพื้นที่จัดทัพใหญ่ไปแบบเพื่อไทยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า เราทำทุกพื้นที่ เราไม่ได้เลือกทำพื้นที่ใด พื้นที่หนึ่ง เมื่อถามว่าจะลงพื้นไปนำทัพด้วยตัวเองหรือไม่ หัวหน้าพรรค พปชร.ว่า ยังไม่ได้หาเสียงกันเลย เพียงแต่ลงพื้นที่ไปดูแลประชาชนทุกพื้นที่ให้เขาอยู่ดีกินดี ถือเป็นความต้องการของพรรค เมื่อถามว่าถ้าลงพื้นที่ช้าไปกังวลจะเป็นมวยรองพรรคเพื่อไทยหรือไม่พล.อ.ประวิตรกล่าวพร้อมหัวเราะว่า “เราเป็นรองอยู่แล้วทุกที” เมื่อถามย้ำว่า จะปรับปรุงแนวทางของพรรคให้กลับมาสูสีกับเพื่อไทยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า เราทำอยู่แล้ว

“สมศักดิ์” โวลุยเหนือตอบรับดี

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์หลังเข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่ตึกบัญชาการก่อนเข้าประชุม ครม.ว่า รายงาน พล.อ.ประวิตรถึงการลงพื้นที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยหนี้สินให้กับภาคประชาชน ใน จ.ราชบุรี อุตรดิตถ์ แพร่ ตาก พะเยา เชียงราย ลำพูน ประชาชนให้การตอบรับมากขึ้น ไปมาแล้ว 32 จังหวัด จากนี้จะลงให้ครบทั่วประเทศ เมื่อถามว่าการเดินสายพื้นที่ภาคเหนือ จะรับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือหรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า ไม่ได้มีหน้าที่ดูเรื่องการเลือกตั้ง ลงไปทำงาน มี พล.อ.ประวิตรที่ดูทุกภาคอยู่แล้ว แต่อาจเรียกให้ใครเข้าไปเสริม เท่าที่ลงพื้นที่มาประชาชนตอบรับนโยบายรัฐบาล

ภท.ฟุ้งมีมากกว่า “ประดิษฐ์”

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต รมช.คลัง อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ถูกวางตัวคุมการเลือกตั้งพื้นที่ จ.พิจิตรและพิษณุโลกว่า ยังไม่เป็นทางการ ยังปรึกษากันอยู่ ไม่ได้พูดคุยเฉพาะกับนายประดิษฐ์เท่านั้น มีการพูดคุยมากกว่านายประดิษฐ์ เมื่อถามว่าหลัง การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีคนจากเพื่อไทยย้ายเข้ามาเพิ่มเติมหรือไม่ นายศักดิ์สยามหัวเราะพร้อมตอบว่า รอดูดีกว่า ถ้ายังไม่เป็นทางการยังไม่อยากพูด เมื่อถามถึงยุทธการ “ไล่หนูตีงูเห่า” สร้างความ สั่นสะเทือนให้พรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายศักดิ์สยามตอบว่า ถือเป็นวาทกรรมทางการเมือง การจะพูดอะไรก็ตาม สุดท้ายเราต้องทำงานให้ประชาชน และประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน

“พิชัย” หยัน “ลุงตู่” คอมฯตกรุ่น

ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า จากการสำรวจของ World Economic Forum (WEF) ที่ประเมินปัญหาความสามารถแข่งขันประเทศไทย พบว่า ปัญหาหลักที่ความสามารถการแข่งขันของไทยลดลง มาจาก 6 เรื่องสำคัญ ดังนี้ 1.ความไม่มั่นคงของรัฐบาลและการปฏิวัติรัฐประหาร 2.ระบบราชการที่ขาดประสิทธิภาพ 3.นโยบายไม่มั่นคง อาจเกิดจากการเปลี่ยนรัฐบาลและการปฏิวัติ 4.ขาดความสามารถเพียงพอในการคิดค้นพัฒนา 5.การทุจริตคอร์รัปชัน และ 6.แรงงานที่มีการศึกษาไม่เพียงพอ นี่เป็น 6 ปัญหาที่วนเวียนในประเทศไทย มาตลอด 8 ปี แต่ไม่เคยได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง พล.อ.ประยุทธ์เปรียบตัวเองเป็นคอมพิวเตอร์ที่แฮงก์เพราะปัญหามาก ทั้งที่ความจริง พล.อ.ประยุทธ์เปรียบเหมือนคอมพิวเตอร์ที่ตกรุ่นแล้ว ไม่สามารถทำการคำนวณและแก้ไขปัญหาสมัยใหม่ได้แล้ว ต้องออกไปเพื่อเปลี่ยนเป็นคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ได้แล้ว

แฉจัดงบฯ กระจุกบ้าน รมต.

อีกเรื่อง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 กล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณาในส่วนของ หน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีกรรมาธิการฯ บางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า จัดงบฯ ส่อเอื้อให้รัฐมนตรีและนักการเมืองในพื้นที่ อาทิ กรมการข้าว งบฯ ปี 2566 ถูกจัดสรรเพิ่มขึ้นกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท จากปี 2565 ที่ได้รับ 2,100 ล้านบาท กรมชลประทานในโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำ พื้นที่ จ.พัทลุง ได้รับ จัดสรร 15 โครงการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 23 โครงการ ขณะที่จังหวัดอื่นได้รับงบเฉลี่ยแค่ 3-4 โครงการเท่านั้น แม้ยังไม่พบหลักฐานการสั่งการของรัฐมนตรี หรือ ส.ส. แต่ฝากฝ่ายการเมืองหากคิดว่าเป็นการจัดงบ ไม่เหมาะสม ต้องยอมให้ถูกตัดโครงการออก เรื่อง ถึงจบ การจัดสรรงบควรเกิดความเป็นธรรมในพื้นที่ ไม่ใช่จัดสรรเฉพาะพื้นที่นักการเมือง นอกจากนี้ ยังพบว่างบกระทรวงคมนาคม มีการจัดสรรลง จ.บุรีรัมย์ มากสุด รองลงมาคือ จ.สุรินทร์ กมธ.ฯ เตรียมพิจารณา วันที่ 22 มิ.ย.นี้

พท.ทำบุญวันเกิด “ยิ่งลักษณ์”

ช่วงเช้าที่วัดอรุณราชวราราม แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) และบุคคลใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาทิ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ร่วมทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ครบรอบ 55 ปี ในวันที่ 21 มิ.ย. ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ร่วมพิธีผ่านระบบซูม โดยตัวแทนคณะสงฆ์กล่าวให้พรว่า “แม้เจ้าของวันเกิด ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่เชื่อว่าใจของอดีตนายกฯ ผูกพันกับแผ่นดินเกิดเสมอ สายใยมิตรไมตรียังดีต่อ กันเสมอ แม้อดีตนายกฯ บริหารบ้านเมืองไม่นานนัก แต่ผลงานเป็นที่ปรากฏเปรียบดังพระปรางค์วัดอรุณฯ สูงเกือบ 100 เมตร ขอให้สุขภาพกายใจแข็งแรง สิ่งดีงามที่ได้ทำมาขอให้ส่งผลให้เจริญ พระคุ้มครองตลอดกาลทุกเมื่อ”

หวังสักวันได้กลับประเทศไทย

ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า หวังว่าวันหนึ่งจะได้ มีโอกาสไปกราบพระคุณเจ้าที่ประเทศไทย อย่างไร ก็แล้วแต่ ขอฝากความหวังไว้ที่ทุกคนด้วย วันนี้ยังรัก และคิดถึงเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และประชาชนที่เมืองไทย พยายามรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เพื่อรอวันได้กลับประเทศไทย จากนั้นแกนนำพรรคและทีมงาน ร่วมกันปล่อยปลาดุก ปลาช่อน และปลาไหลไข่ อย่างละ 99 ตัว และร่วมกันห่มผ้าพระปรางค์วัดอรุณฯ

“ศักดิ์สยาม” เร่งแก้รถขาดระยะ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว. คมนาคม กล่าวถึงกรณีปัญหารถโดยสารสาธารณะขาดระยะในช่วงนี้ว่า กำลังพูดคุยกัน กรณีของรถ บขส. รถร่วมวิ่งทางไกลที่จะขอให้กระทรวงพิจารณาเรื่องราคาค่าโดยสาร อัตราค่าน้ำมัน ที่ขึ้นมาลิตรละ 31 กว่าบาทแล้ว กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือกัน แต่พยายามขอให้วิ่งรถต่อไป ส่วนองค์การขนส่งมวลชน กรุงเทพ (ขสมก.) ผอ.ขสมก.กับรองปลัดกระทรวงฯ คงลงมาดูด้วยตัวเอง รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงการเปลี่ยนหมายเลขรถแต่ละสายให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาวิ่งทับซ้อนกันหลายเส้นทาง เป็นต้นเหตุ ด้านการจราจร ฝุ่น PM 2.5 และต้นทุน ขอให้ ประชาชน ที่ยังสับสนดูป้ายบอกเส้นทางข้างรถให้ชัดเจน

กล้าบี้ พณ.อย่าปัดสวะปัญหา

นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงกรณีกระทรวงพาณิชย์แย้งว่าการกำกับดูแลราคาน้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพาณิชย์ว่า ขอย้ำอีกครั้งว่าก๊าซปิโตรเลียมเหลวและน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นสินค้าควบคุมตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการมาตรา 24 ที่คณะกรรมการกลาง ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) มี รมว.พาณิชย์เป็นประธาน มีหน้าที่กำหนดควบคุมกำไรและราคาตามมาตรา 25 (1), (2) เกี่ยวข้องกับกระทรวง พาณิชย์โดยตรง ปัดให้ฝ่ายอื่นไม่ได้ ตอนนี้น้ำมันกลายเป็นสินค้าควบคุมที่ไม่ควบคุมไปแล้ว และ รมว. พาณิชย์เป็นกรรมการ กพช.ด้วย ถือว่ามีหมวก 2 ใบ จึงมีส่วนสำคัญที่ต้องรับผิดชอบ ประชาชนอยากเห็นการทำงานแก้ปัญหาไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบ

ปชป.โวยมุ่งแต่เล่นการเมือง

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเสนอแนวคิดการแก้ปัญหาถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้องตรงไปตรงมา ปัญหาราคาน้ำมัน เป็นเรื่องเฉพาะ มีกระทรวงพลังงานกำกับดูแล มีอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ไม่ใช่อำนาจของกระทรวงพาณิชย์ อยากให้ออกมาให้ความเห็นตรงตามความจริง ไม่อยากให้เป็นเรื่องการเมืองไปทุกเรื่อง

“ตู่” ฉะไม่ซักฟอก “สุพัฒนพงษ์”

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของทำเนียบรัฐบาล นายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมนายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำคณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ร่วมอ่านแถลงการณ์ และยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ขอให้แก้ไขโครงสร้างราคาน้ำมัน นายนิติธรกล่าวว่า ขอท้า พล.อ.ประยุทธ์ ดีเบต 2 ต่อ 2 ดูกันว่าสิ่งที่ทหารกับทนายคิดอะไรเป็นประโยชน์มากกว่ากัน ขณะที่นายจตุพรกล่าวว่า น่าเสียดายไม่มีชื่อนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและ รมว.พลังงาน ถูกอภิปราย สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มทุนพลังงาน มีอำนาจเหนือรัฐและฝ่ายค้าน เหนือทางการเมืองทุกอย่าง ทั้งที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนแสนสาหัส วันที่ 3 ก.ค.ขอนัดหมายที่ลานคนเมือง ขออนุญาตนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเวทีประชาชนชำแหละปัญหาพลังงานความเดือดร้อนของประชาชน

จ่อเพิ่มหวยดิจิทัล 10 ล้านใบ

วันเดียวกัน นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา กล่าวว่า ได้เสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่จะประชุมบอร์ดวันที่ 23 มิ.ย. ให้อนุมัติเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัล ที่ขายผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง งวดวันที่ 1 ส.ค. จำนวน 10 ล้านใบ โดยให้เปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. ต้องยอมรับว่า 2 งวดที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ทำให้เห็นว่าสลากราคา 80 บาทมีอยู่จริง ประชาชนให้ความสนใจ ประกอบกับซื้อสลากเลขที่ต้องการได้ในราคา 80 บาท มีระบบการแจ้งเตือนเมื่อถูกรางวัล นอกจากแก้ปัญหาสลากเกินราคาที่เรื้อรังมานาน ยังตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญต่อการเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล

หมอจุฬาฯห่วงเด็กแห่ใช้กัญชา

อีกเรื่อง พญ.รัศมน กัลยาศิริ ผอ.ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.)คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า มีข้อมูลพบว่าการใช้กัญชาตั้งแต่อายุน้อยจะเพิ่มปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคจิตเภทได้มากขึ้นแม้ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงแต่ก็เกิดขึ้นได้ หากร่างกายได้รับสาร THC จะถูกส่งไปที่สมอง ยิ่งถ้าอายุยังน้อยเข้าในร่างกายในปริมาณสูง หรือใช้ในเวลานานเสี่ยงต่ออาการทางจิตได้ หลังการปลดล็อกกัญชาผลสำรวจพบว่า มีการใช้กัญชาในกลุ่มเด็กมากขึ้น เป็นสิ่งที่คาดเดาได้อยู่แล้ว เป็นเรื่องการอยากลองในเด็ก เราต้องมีข้อควรระวังไม่จำหน่ายให้เด็ก รวมถึงครอบครัวต้องทำความเข้าใจกับเด็กๆว่า การปลดล็อกกัญชาก็เพื่อการแพทย์ ไม่ป่วยไม่ควรใช้กัญชา ไม่ควรนำมาใช้ทางสันทนาการเพราะส่งผลทางจิตได้

กัญชาเสรีไร้ผลอีสานยังชู พท.

ด้านอีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ขอนแก่น โดยนายสุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เปิดผลสำรวจความเห็นประชาชน 1,105 ราย เรื่อง “คนอีสานกับการปลูกกัญชาเสรี” ระหว่างวันที่ 17-19 มิ.ย. ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 53.1 จะปลูก ร้อยละ 46.9 ไม่ปลูก และส่วนใหญ่จะกินหรือลองกิน โดยเห็นว่ากัญชาเสรีไม่ช่วยลดปัญหาความยากจนหรืออาจเพิ่มปัญหา ส่วนกัญชาเสรีจะทำให้ความนิยมของพรรคภูมิใจไทยเป็นอย่างไรนั้น พบว่าร้อยละ 61.5 ระบุว่า นิยมเท่าๆเดิม ร้อยละ 17.0 นิยมเพิ่มขึ้น ร้อยละ 13.7 นิยมลดลง เมื่อถามว่าถ้าเลือกตั้งตอนนี้แนวโน้มจะลงคะแนนให้พรรคใด ร้อยละ 36.0 ยังลงให้พรรคเพื่อไทย รองลงมาร้อยละ 19.5 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 13.7 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 13.6 พรรคพลังประชารัฐ