“บิ๊กตู่” เตรียมลงพื้นที่ จ.สกลนคร พรุ่งนี้ ติดตามงานนโยบายรัฐบาล แก้ปัญหาความยากจน และการพัฒนาคนทุกช่วงทุกวัย ขณะที่สำนักโฆษกฯ นำสื่อสัญจร เยี่ยมชมการพัฒนาพื้นที่

วันที่ 14 มิ.ย. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีกำหนดการเดินทางไปตรวจราชการ จ.สกลนคร ในวันที่ 15 มิ.ย.โดยช่วงเช้า นายกฯ ตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาความยากจน และพัฒนาคนทุกช่วงวัย โดยใช้ระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (TPMAP) และความก้าวหน้าการเป็นศูนย์กลางสมุนไพร ณ โรงพยาบาลพระอาจารย์ฟั่น อาจาโร อ.พรรณนานิคม รับฟังบรรยายสรุประบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า และมอบบ้านที่ซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้กับตัวแทนกลุ่มครัวเรือนตามเป้าหมาย TPMAP จากนั้น ตรวจเยี่ยมโครงการพระราชดำริ จ.สกลนคร ร่วมกับผู้แทนเครือข่ายเกษตรที่ร่วมในโครงการฯ ณ ศูนย์การพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.เมืองสกลนคร

ช่วงบ่าย นายกฯ กำหนดตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานด้านเกษตรมูลค่าสูง ณ บ้านท่าเยี่ยม อ.เมืองสกลนคร ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโคขุนโพนยางคำ พร้อมพบปะให้กำลังใจกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนภูไท และเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงโคขุนโพนยางคำ และในช่วงเย็นก่อนเดินทางกลับ นายกฯ เยี่ยมชมร้านค้าและพบปะผู้ผลิตย้อมครามสกล ณ ถนนผ้าคราม

...

นายธนกร กล่าวว่า เป้าหมายเพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล เรื่องการขจัดความยากจน และการพัฒนาคนทุกช่วงทุกวัย เพื่อขับเคลื่อนให้ผลการดำเนินงานสำเร็จเป็นรูปธรรมตามเป้าหมาย

ขณะที่วันเดียวกันนี้ สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ จ.สกลนคร เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของรัฐบาลและผลการร่วมพัฒนาพื้นที่ของชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่ง จ.สกลนคร ถือมีความอุดมสมบูรณ์ในด้านความหลากหลายทางชีวภาพ วิถีชีวิต วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น มีศักยภาพสูงในด้านการพัฒนาการท่องเที่ยว สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ประชาชนและชุมชนท้องถิ่น ภายใต้แนวคิด เมือง 3 ธรรม ได้แก่ เมืองแห่งธรรมะ เมืองแห่งธรรมชาติ และเมืองแห่งวัฒนธรรม เช่น วัดถ้ำผาแด่น บ้านดงน้อย ต.ดงมะไฟ เป็นวัดที่มีความสวยงาม เป็นแหล่งรวมงานประติมากรรมพุทธศาสนา และการแกะสลักหินทรายขนาดใหญ่ให้เป็นเรื่องราวต่างๆ เช่น ภาพแกะสลักหินทรายพระพุทธสีหไสยาสน์ เป็นต้น รวมไปถึง สวนดอกไม้และต้นไม้ต่างๆ และองค์พญานาคปรกขนาดใหญ่ ที่มีรูปปั้นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ใต้เศียรพญานาค โดยหลวงพ่อปกรณ์ กนุตวิโร พระนักพัฒนา ร่วมกับคนในชุมชนจนเป็นที่สถานท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน

ทั้งนี้ คณะสื่อมวลชน ได้เยี่ยมชมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมครามสกลนคร ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีการปลูกต้นครามเพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบประกอบการย้อมสีครามครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 18 อำเภอ และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมครามในรูปแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ จนมีชื่อเสียง เป็นเอกลักษณ์ สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนและชุมชน ซึ่งผ้าย้อมครามสกลนครได้รับการขึ้นทะเบียน GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อปี พ.ศ. 2549 และสภาหัตถศิลป์โลก (World Crafts Council) ได้รับรองให้จังหวัดสกลนคร เป็น “นครหัตถศิลป์โลก เจ้าแห่งครามธรรมชาติ” เมื่อปี พ.ศ. 2561 โดยเป็นหนึ่งในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ได้รับการรับรองนี้ ทั้งนี้ แบรนด์ชั้นนำของโลก อาทิ Louis Vuitton และ Christian Dior ได้นำผ้าครามไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ด้วย  

พร้อมกันนี้ คณะสื่อมวลชน ได้ศึกษาศูนย์การศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่มีวัตถุประสงค์ให้เป็นสถานที่ทำการศึกษา ทดลอง แบบเบ็ดเสร็จ ทั้งการพัฒนาที่ดินการพัฒนาแหล่งน้ำ การฟื้นฟูสภาพป่า การวางแผนปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์ การพัฒนาการเกษตรและการส่งเสริมอาชีพในครัวเรือน นำผลสำเร็จจากการศึกษาทดลองวิจัยไปขยายผลสู่ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยศูนย์ดังกล่าวทำหน้าที่เสมือนเป็น "พิพิธภัณฑ์ ธรรมชาติที่มีชีวิต เพื่อเป็นตัวอย่างแห่งด้านการเกษตรกรรม เป็นระบบบริการเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว (ONE STOP SERVICE FOR THE FARMERS)" เป็นศูนย์เรียนรู้ให้ผู้สนใจทั่วไปเข้าเยี่ยมชมและศึกษาหาความรู้ได้จากสภาพพื้นที่นำไปประยุกต์ใช้ชีวิตประจำวัน พัฒนาอาชีพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จะส่งผลให้ประชาชนและประเทศชาติดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน