นายกรัฐมนตรี ยินดี ไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพการประชุมสหพันธ์สเกตน้ำแข็งนานาชาติ ครั้งที่ 58 ที่ภูเก็ต เป็นโอกาสำเสนออัตลักษณ์ที่โดดเด่น ขอบคุณร่วมกันผลักดัน
วันที่ 9 มิ.ย. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งน่ายินดีที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสหพันธ์สเกตน้ำแข็งนานาชาติ ครั้งที่ 58 (The 58th Congress of the International Skating Union (ISU) ณ จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 5-11 มิ.ย. 2565 เชื่อมั่นว่าจะเป็นโอกาสแสดงศักยภาพด้านการจัดประชุมนานาชาติ รวมทั้งผลักดันการท่องเที่ยวไทย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมนำเสนอความเป็นไทย เป็นเจ้าภาพที่ดี เพื่อเปิดรับโอกาสในการจัดกิจกรรมและการประชุมระดับนานาชาติในอนาคตขณะที่ภายหลังรัฐบาลปรับมาตรการผ่อนคลายการเดินทางเข้าไทยของนักท่องเที่ยวตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์โลก ไทยก็กลับมาสู่กระแสการท่องเที่ยว การกีฬา และการจัดการประชุมระหว่างประเทศ ซึ่งไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสหพันธ์สเกตน้ำแข็งนานาชาติ ครั้งที่ 58 ที่ภูเก็ต ภายใต้แนวคิดต้นแบบการประชุมรักษ์โลก (Green Meeting)
โฆษกรัฐบาล เผยต่อไปว่า ในระหว่างงานประชุม ผู้เข้าร่วมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เยี่ยมชมย่านชุมชนเมืองเก่าภูเก็ต (Phuket Old Town) และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ต ได้รับชมการแสดงทางวัฒนธรรม ได้แก่ การแสดงโขน และการรำมโนราห์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Cultural Heritage : ICH) ของมนุษยชาติ จากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ถือเป็นโอกาสนำเสนออัตลักษณ์ที่โดดเด่นของประเทศไทย
...
สำหรับการจัดกิจกรรมและการประชุมครั้งนี้ สอดคล้องยุทธศาสตร์แห่งรอยยิ้ม (SMILES) ของนายกรัฐมนตรี ในการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (Sustainability) ทรัพยากรมนุษย์ทางด้านการท่องเที่ยวที่มีทักษะในระดับนานาชาติ (Manpower) เศรษฐกิจแบบมีส่วนร่วม (Inclusive Economy) ชูจุดเด่นอัตลักษณ์ท้องถิ่น (Localization) ระบบนิเวศทางการท่องเที่ยว (Ecosystems) และนวัตกรรมด้านสังคม (Social Innovation) เพื่อสร้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้มีคุณภาพและพร้อมต่อการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างยั่งยืน
“นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกฝ่ายในการร่วมผลักดันประเทศไทยและจังหวัดภูเก็ตสู่พื้นที่แห่งอุตสาหกรรมไมซ์ หรือธุรกิจด้านการจัดกิจกรรมและการประชุมระดับนานาชาติ ขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพัฒนาศักยภาพด้านการประชุมรักษ์โลก ให้เกิดการเรียนรู้และสามารถนำไปปรับใช้ในอุตสาหกรรมไมซ์ไทยในอนาคต ตอบโจทย์กิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและก่อให้เกิดความยั่งยืน และอาจเป็นโอกาสสนับสนุนให้ชาวไทยสนใจกีฬาสเกตน้ำแข็งมากขึ้น เพิ่มบทบาทไทยในการแข่งขันระดับโลก”