ขอแสดงความชื่นชมยินดี ที่รัฐบาลและรัฐสภา เร่งออกกฎหมายก้าวหน้าออกมาหลายฉบับ ในโอกาสที่สภาผู้แทนฯจะครบวาระภายในอีกไม่ถึงปี มีทั้ง พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนตัว กฎหมายกัญชา กัญชงเสรี พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่รับรองการสมรสระหว่างคนเพศเดียวกัน และกฎหมายปฏิรูปตำรวจที่เรียกว่า “พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ”

แม้กฎหมายกัญชาเสรีจะยังไม่ผ่านรัฐสภา แต่รัฐบาลก็ประกาศเป็นนโยบายชัดเจน เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายนเป็นต้นมา ไทยเป็นประเทศแรกในทวีปเอเชียที่มีกฎหมายที่ไม่ถือว่า กัญชาเป็นยาเสพติด ประชาชนสามารถปลูกและใช้เป็นยารักษาโรค เป็นเครื่องปรุงอาหาร และเป็นพืชเศรษฐกิจเพิ่มรายได้

เป็นผลของการวางแผนอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน ไม่ใช่มั่วๆ เพราะศึกษามาจากแบบอย่างประเทศ ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว เช่น สหรัฐ อเมริกา และแคนาดา วงการแพทย์ยืนยันว่า กัญชาสามารถบำบัดอาการปวดเมื่อย หรือนอนไม่หลับ บรรเทาความทุกข์ได้ระดับหนึ่ง แต่ต้องป้องกันไม่ให้เด็กๆ ลักลอบสูบเหมือนบุหรี่

ร่างกฎหมายก้าวหน้าอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่รับรองการสมรสระหว่างคนเพศเดียวกัน เช่น หญิงกับหญิง หรือชายกับชาย เพราะความ เป็นครอบครัว ต้องมีปัญหาทรัพย์สิน ปัญหามรดก การเป็นทายาท การรับบุตรบุญธรรม การอุ้มบุญ ร่างกฎหมายนี้จะส่งให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป

ร่างกฎหมายอีกฉบับหนึ่ง ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นกฎหมายก้าวหน้า หรือถอยหลัง ได้แก่ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เป็นกฎหมายปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญมาตรา 258 ที่บังคับให้ปฏิรูปประเทศทั้งด้านการเมือง ด้านกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม การศึกษา เศรษฐกิจ และต้องให้เสร็จภายใน 1 ปี นับแต่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ

นั่นก็คือ ต้องให้เสร็จภายใน 1 ปี นับแต่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 ถึงวันนี้ล่วงเลยมากว่า 5 ปีแล้ว แต่ร่าง พ.ร.บ.ปฏิรูปตำรวจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เพิ่งจะผ่านวาระแรก กรรมาธิการท่านหนึ่งบอกว่า เป็นแค่ “ปฏิลูบ” เบาๆ มุ่งป้องกันการซื้อขายตำแหน่ง

...

“การซื้อขายตำแหน่ง” เป็นปัญหาที่วงการตำรวจไม่ยอมรับว่ามีจริงแล้วจะปฏิรูปอย่างไร ส่วนการปฏิรูปการเมืองไม่ต้องพูดถึง นอกจากจะไม่มีการปฏิรูปตามรัฐธรรมนูญแล้ว รัฐบาลปัจจุบันยังขัดขวาง ยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่ยืนกรานใช้รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ.