“สุริยะ” ยืนยัน คงมติ คกก.วัตถุอันตราย แบน “พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส” ลั่น เป็นไปไม่ได้ เสนอให้นำกลับมาใช้อีก
วันที่ 19 พ.ค. 2565 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมยืนยัน ไม่นำ 2 สารอันตราย พาราควอต (Paraquat) และคลอร์ไพริฟอส (Chlorpyrifos) กลับมาใช้อีกอย่างแน่นอน โดยกระบวนพิจารณาแบน 2 สารดังกล่าวเสร็จสิ้นไปแล้ว เป็นไปตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2562 โดยมีเหตุผลรองรับอยู่แล้วถึงความเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนในวงกว้าง
ทั้งนี้ แม้การประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2565 จะมีการยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาพิจารณา แต่เป็นเพียงการนำเสนอต่อที่ประชุมเพื่อขอหลักการในการตอบผู้ร้องคัดค้านเท่านั้น กระทรวงอุตสาหกรรมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ในฐานะหน่วยงานที่กำกับคณะกรรมการวัตถุอันตราย และมีกลุ่มคนมาร้องเรียน ก็จำเป็นต้องรับพิจารณาตามขั้นตอน และยังคงยืนยันข้อมูลตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย และหลักวิชาการ คือ คงการแบนพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส ส่วนการจัดวาระเข้าสู่การพิจารณา เป็นไปตามขั้นตอนวิธีปฏิบัติตามปกติ มีการแจ้งระเบียบวาระและเอกสารการประชุมให้คณะกรรมการทราบล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2565
...
ทางด้าน นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการวัตถุอันตราย กล่าวเสริมว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้รับเรื่องจากผู้ร้องที่ขอให้พิจารณาทบทวนมติการยกเลิก โดยผู้ร้องแจ้งว่าข้อมูลสารเคมีตกค้างในผลผลิตทางการเกษตรที่ตรวจวิเคราะห์โดยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ตรงตามที่เคยเสนอให้คณะกรรมการพิจารณา กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงมีหนังสือถึงกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งขอให้แจ้งผลการตรวจสอบเพื่อจะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา
สำหรับการประชุมครั้งดังกล่าว มีกรรมการจากกระทรวงสาธารณสุข คือ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรรมการจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงเกษตรฯ และอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เข้าร่วมประชุม ซึ่งผู้แทนทั้ง 2 หน่วยงานทราบเนื้อหาที่จะมีการประชุมล่วงหน้าอยู่แล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการเสนอให้นำ 2 สารอันตรายกลับมาใช้ตามที่เป็นข่าว.