รัฐบาลดิ้นแก้ของแพง มติ ครม.ยอมเฉือนรายได้ 20,000 ล้าน ลดภาษีดีเซลลิตรละ 5 บาท อีก 2 เดือน มีผล 21 พ.ค.- 20 ก.ค. “บิ๊กตู่” โอดเบนซินช่วยเฉพาะกลุ่มไปแล้ว ช่วยทุกอย่างไม่ได้จะเอาเงินที่ไหน วอนช่วยกัน ประหยัด ผวาวันหน้าปัญหายิ่งทับซ้อน “อาคม” ยันรายได้ที่หายไปยังบริหารจัดการได้ นายกฯเมินถูกขุดปมรัฐประหารหาเสียงชิงผู้ว่าฯ กทม. โต้ไม่ได้อยากยึดอำนาจ “ชัยวุฒิ” ไม่สน พท.เรียกเสื้อแดง กลับบ้าน เกทับแฟนคลับ พปชร.เยอะกว่าเพียบ รำลึก 30 ปีพฤษภาทมิฬ “อานันท์” เปิดอนุสาวรีย์วีรชนฯ หวังจะได้รัฐธรรมนูญใหม่เป็นประชาธิปไตยแท้จริง “โรม” อัด “ลุงป้อม” นั่ง รมว.กห.ปี 53 เอี่ยวสังหารหมู่มวลชนแดง ขวางนั่งนายกฯสำรอง

รัฐบาลเผชิญกระแสโจมตีเรื่องปัญหาของแพง สินค้าพาเหรดขึ้นราคา โดยเฉพาะปัญหาราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท เป็นเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.-20 ก.ค. ส่งผลให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ 2 หมื่นล้านบาท

...

นายกฯขอรักสามัคคีพาไทยสำเร็จ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 พ.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนการประชุม ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ธันวาคม ทิพยจันทร์ ประธานสมาคมพันธมิตรมวยไทยโลก พร้อมคณะนักธุรกิจจีน กลุ่มศิลปินดารา และกลุ่มอดีตนักมวยเข้าพบนายกฯมอบอุปกรณ์การแพทย์และยาต้านไวรัสโควิด-19 และข้าวสารรวมกว่า 3 ล้านบาท เพื่อนำไปแจกจ่ายให้หน่วยงานต่างๆ โดยนายกฯขอบคุณและชื่นชมความตั้งใจดีของทุกคน รวมทั้งความสัมพันธ์ไทย-จีน ที่ร่วมมือผลักดันให้มวยไทยสู่สากล กีฬามวยไทยเป็น Soft Power ที่ต่างประเทศยอมรับ ขอให้ร่วมมือกันพัฒนาอย่างต่อเนื่องและสมบูรณ์ โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเป็นสิ่งดีๆที่มีอยู่ ขอให้ร่วมมือกันด้วยความรัก ความสามัคคี เพื่อพัฒนาสู่ความสำเร็จ จากนั้นนายกฯชมกิจกรรมนำเสนอผลการขับเคลื่อนให้เกิดการใช้ประโยชน์จาก “ข้อมูล” หรือ d-DATA โดยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมคณะนำเสนอผลการขับเคลื่อนบูรณาการหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทำให้เกิดประโยชน์กับภาคประชาชน อาทิ โครงการ Health Link เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างโรงพยาบาล แพลตฟอร์มให้บริการข้อมูลท่องเที่ยวแบบ One Stop Service

ยอมหั่นรายได้ลดภาษีดีเซล 5 บาท

จากนั้นเวลา 12.50 น. พล.อ.ประยุทธ์เปิดเผยหลังประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท 2 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.-20 ก.ค.บรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนและภาคธุรกิจ ทำให้รัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท วันนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบอยู่ราว 70,000 ล้านบาท ได้ใช้เงินกู้สนับสนุนไปบางส่วนแล้ว มาตรการภาษีมาช่วยสนับสนุนอีกส่วน เพราะมีความจำเป็นที่ต้องดูแลค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน ต้นทุนการผลิตสินค้า หากปล่อยให้ขึ้นราคารวดเร็วจะมีผลกระทบได้ ขณะนี้สถานการณ์เศรษฐกิจหลายด้านกำลังดีขึ้น ส่วนผลมาจากสงครามได้แต่คาดหวังว่าจะสิ้นสุดลงได้โดยเร็ว

วอนคนใช้เบนซินช่วยรัดเข็มขัด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า สำหรับการช่วยเหลือผู้ใช้น้ำมันเบนซิน ขณะนี้ช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มที่เดือดร้อนจริงๆไปแล้ว ช่วยทั้งหมดคงทำไม่ได้ ต้องใช้เงินจำนวนมากแล้วจะเอาเงินมาจากที่ไหน ที่เราให้ความสำคัญกับน้ำมันดีเซลเพราะถือเป็นต้นทุนการผลิต การขนส่งสินค้า ขนส่งมวลชนอะไรต่างๆ เรื่องเบนซินกลุ่มที่เหลือถ้าพอช่วยกันได้ก็ช่วยกันไปก่อนเถอะ สำคัญที่สุดคือช่วยกันประหยัดพลังงาน และลดค่าใช้จ่าย วันนี้รัฐบาลอยากช่วย แต่ทุกคนทราบดีอยู่แล้วเรามีรายได้อย่างไร ใช้งบฯไปมากน้อยเพียงใดในการแก้ปัญหาต่างๆทุกอย่าง ซึ่งเรายังให้ทุกอย่างอยู่ ไม่ได้หยุดอะไรไปเลยสักอย่างใช่ไหม แม้จะมีโควิดเข้ามาจัดเก็บรายได้ลดลงก็ตาม แต่ถ้าเราทำไม่ระมัดระวัง วันหน้าปัญหามันจะทับซ้อนกลับมาก

แจงน้ำมันไทยไม่แพงกว่าเพื่อนบ้าน

ขณะที่นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและ รมว.พลังงาน กล่าวว่า การปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ช่วยลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้บางส่วน ปัจจุบันกองทุนฯมีภาระตรึงราคาน้ำมันดีเซลอยู่ รัฐบาลจะพยายามบริหารจัดการรักษาระดับราคาน้ำมันให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด วันที่ 18 พ.ค.จะประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) หารือสถานการณ์ราคาน้ำมันทั้งหมด รวมถึงการกำหนดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหลังปรับลดภาษี 5 บาทด้วย ปัจจุบันราคาพลังงานของไทยไม่ได้สูงไปกว่าประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาลจะดูแลไม่ให้สูงขึ้นมากเกินไปกว่านี้ ถ้าไม่มีมาตรการรัฐบาลช่วยตรึงราคาคงพุ่งสูงเกิน 40 บาทต่อลิตร เท่าหลายประเทศแน่นอน แต่ถ้าตรึงราคาต่ำเกินไปเสี่ยงที่จะมีการลักลอบส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้าน

“อาคม” ยันเงินหด 2 หมื่น ล. จัดการได้

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลังกล่าวว่า การใช้มาตรการภาษีดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น หากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเริ่มคลี่คลาย รัฐบาลยังคงใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกลไกหลักรักษาราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพประชาชน และเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ รายได้เกือบ 20,000 ล้านบาท ที่หายไปจากการลดภาษีดีเซล ยังอยู่ในวิสัยที่กระทรวงคลังบริหารจัดการได้ ช่วงที่ผ่านมา รายได้บางส่วน เช่น กรมสรรพากรจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่รายได้บางส่วนอาจลดลง เพราะยังอยู่ในช่วงมาตรการลดหย่อนภาษี รวมถึงการลดภาษีน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตรด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบราคาที่ไทยอ้างอิงอยู่ที่ 107 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล หากปล่อยให้ราคาลอยตัว ราคาดีเซลขายปลีกในประเทศจะอยู่ที่ 42-43 บาทต่อลิตร เมื่อมีมาตรการตรึงราคาทำให้ราคาขายปลีกดีเซลอยู่ที่ 32 บาทต่อลิตร

นายกฯไม่สนถูกขุดปมรัฐประหาร

อีกเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวถึงการดีเบตหาเสียงผู้ว่าฯ กทม. มีการนำเรื่องรัฐประหารมาพูดเหมือนปลุกกระแสว่า เป็นเรื่องของเขา ไม่ได้อยากเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มีเพียงสิทธิหนึ่งเสียงที่จะเลือกเท่านั้น เมื่อถามว่าเหมือนเป็นการต่อต้านรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า อย่าไปสนใจสิ แล้วใครจะรัฐประหาร ใครจะทำล่ะ ทำมาเมื่อไหร่ ทำเพราะอะไรย้อนกลับไปดูพฤติกรรมสมัยก่อนแล้วกัน บ้านเมืองอยู่มาแบบนี้ได้สงบแบบนี้เพราะอะไร ใครอยากจะให้เกิดขึ้นอีกหรือ ไม่มีหรอก ตนก็ไม่อยากทำ

เมื่อถามว่าจะสยบข่าวลือการโยกย้าย ผบ.ทบ.ช่วงปลายปีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ไม่มี ยังไม่ถึงเวลา”

ส่วนการปาฐกถาพิเศษ “ถามมา ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่า” วันที่ 19 พ.ค. ที่หลายฝ่ายจับตามองจะเป็นการส่งสัญญาณเลือกผู้ว่าฯ กทม. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ตอบแทนนายกฯว่า นายกฯระบุเกี่ยวกันตรงไหน เปิดเวทีเสวนาให้เข้าใจการทำงานของรัฐบาล รับฟังความเห็นและตอบคำถาม ส่วนแคมเปญเพื่อไทยชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน จะปลุกความขัดแย้งรอบใหม่หรือไม่ นายกฯระบุว่ามีกฎหมายอยู่แล้ว หากรุนแรงวุ่นวายขึ้นเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง

สั่งเข้มฟัน กมธ.งบฯรีดผลประโยชน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุม ครม.ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี
ปี 2566 และรับทราบการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ นายกฯได้ระบุว่า พ.ร.บ.งบฯจะเข้าสภาฯวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. ขอให้ทุกคนช่วยกันเตรียมการให้พร้อมให้เป็นไปตามขั้นตอน กฎหมาย โดยเฉพาะการตั้ง กมธ.งบ เคยได้ยินข่าวว่า กมธ.บางคนไปเรียกรับผลประโยชน์ ต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ ใครมีข้อมูลอะไรให้รายงานมาที่ตนด้วย ขณะที่นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมฯ กล่าวเสริมว่า พ.ร.บ.งบฯปีนี้ ถือเป็นโค้งสุดท้ายของรัฐบาล อาจมีการใส่ความแบบรุนแรงสุดโต่ง จึงอยากให้รัฐมนตรีนำเสนอเพื่อความเข้าใจในภาพรวมก่อนจะเข้าสู่สภาฯ รวมถึงให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องให้ความรู้ต่อ ส.ส. ก่อนกฎหมายจะเข้าสภาฯ

“ชัยวุฒิ”บลัฟแฟน พปชร. มากกว่า พท.

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทยประกาศเชิญคนเสื้อแดงกลับบ้านว่า คนเสื้อแดงอยู่กับพรรคเพื่อไทยอยู่แล้วเป็นเนื้อเดียวกันมาตลอด อาจมีงอนกันบ้างบางคน แต่เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับแนวทางคนเสื้อแดง อยากทำการเมืองสร้างสรรค์ ไม่รุนแรง ไม่มาประท้วงโจมตีกัน และคนเสื้อแดงไม่ได้เลือกเราอยู่แล้ว ไม่มีผล เราต้องเอาคนกลุ่มอื่นเยอะแยะ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นคนส่วนน้อย แฟนคลับใครแฟนคลับมัน ของเรามีเยอะแยะ แฟนคลับ พปชร. มีเยอะกว่าคนเสื้อแดงเยอะ ต้องดูทั้งประเทศ อย่าไปดูบางจุดบางกลุ่ม ที่พรรคเพื่อไทยประกาศจะแลนด์สไลด์ยังตอบไม่ได้ อยู่ที่ประชาชนตอนเลือกตั้ง ถึงเวลาก่อน

“อู๊ดด้า” ให้ย้อนดูประวัติศาสตร์

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเรียกคนเสื้อแดงกลับบ้าน เป็นธรรมดาทุกพรรคต้องหาเสียง ฐานเสียงอยู่ตรงไหน ปีหน้าจะมีการเลือกตั้งทั่วไป ประชาชนจะพิจารณาอย่างไรอยู่ที่บทเรียนในประวัติศาสตร์ทั้งอดีต ปัจจุบัน และคาดการณ์ในอนาคต นำไปสู่การตัดสินใจ ทุกพรรคเคยปฏิบัติหน้าที่มาแล้วยกเว้นพรรคเกิดใหม่ จะเป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาของประชาชน ต้องเคารพ พรรคจะชูผลงานและอุดมการณ์ เมื่อถามถึงกระแสพรรคภูมิใจไทยมาดีในภาคใต้กระทบเป้าหมายหรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่า ประเมินตลอด กระแสประชาธิปัตย์ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุขและรองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประกาศเชิญชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน เป็นความคิดเห็นทางการเมือง แต่ขออย่าไปเพิ่มความขัดแย้งให้กับบ้านเมือง และให้ประชาชนตัดสินในวันเลือกตั้ง

“ชวน” แจงไทม์ไลน์ประชุมสภาฯ

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ถนนราชดำเนิน นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกำหนดการประชุมสภาฯและรัฐสภา ว่า ได้พูดคุยกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน จะประชุมสภาฯวันที่ 25-27 พ.ค. และพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 66 วันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. ร่าง พ.ร.บ.งบฯ น่าจะส่งมาถึงสภาฯวันที่ 17 พ.ค. วันที่ 18 พ.ค.จะส่งให้ ส.ส.เพื่อนำไปศึกษารายละเอียดได้ก่อน เมื่อถามว่าหากสภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบฯวาระหนึ่งแล้วมีการประกาศยุบสภาจะทำอย่างไร นายชวนกล่าวว่า ขออย่าสมมติ เหตุการณ์ยังไม่เกิด ฝ่ายบริหารเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนสภาฯเชื่อมั่นว่าสมาชิกจะร่วมมือกันทำงานผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีวี่แวว ฝ่ายค้านจะพิจารณายื่นญัตติ เพราะทำได้ทั้งสมัยประชุมที่จะถึงอีกไม่กี่วัน และสมัยประชุมหน้า ตามข่าวเห็นว่าจะยื่นเดือน ก.ค. ฉะนั้นต้องรอดูว่าฝ่ายค้านจะยื่นเมื่อใด

กมธ.ขยายเวลา ก.ม.ลูก 7 วัน

นายชวนกล่าวอีกว่า ส่วนการประชุมรัฐสภาจะได้หารือกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน ส.ว. ในฐานะรองประธานรัฐสภา เพราะร่าง พ.ร.บ.ตำรวจเสร็จแล้ว เนื้อหาค่อนข้างมาก อาจใช้เวลาประชุมถึง 2 วัน ส่วนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองกำลังรออยู่ เตรียมเวลาประชุมไว้พอสมควร กฎหมายลูกเดิม กมธ.จะทำเสร็จส่งถึงตนสัปดาห์นี้ แต่ล่าสุดทราบว่าจะขยายจากกำหนดการเดิมไปอีกสัปดาห์ ถ้ามาเมื่อใดต้องนัดประชุมรัฐสภา เมื่อรัฐสภาเห็นชอบในวาระที่ 2 เรียบร้อย ต้องรอไปอีก 15 วัน ถึงจะนัดประชุมพิจารณาลงมติในวาระที่ 3

24 พ.ค. กมธ.ส่งถึงมือ ปธ.สภาฯ

นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะ กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง กล่าวว่า จะนำร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับที่แก้ไขตรวจคำผิดแล้วเสนอต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา วันที่ 24 พ.ค.จะเชิญสื่อมวลชนมาทำความเข้าใจรายละเอียด จะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภาเมื่อใดขึ้นอยู่กับนายชวน ภาพรวมทั้ง 2 ฉบับถูกปรับไปในทิศทางที่ดีขึ้น เช่น ร่าง พ.ร.บ.เลือกตั้งระบุว่า เมื่อนับคะแนนแล้วต้องกรอกข้อมูลลงในระบบกลางทันทีให้ตรวจสอบได้ ที่มี ส.ว.บางคนประกาศจะใช้สูตรหาร 500 เราพิจารณาแล้วและ ส.ว.ที่มีมติกับเราเห็นตรงกันว่าการใช้สูตรหาร 500 ผิดหลักรัฐธรรมนูญที่แก้ไขไปแล้ว จะเป็นปัญหาจะเกิดการตีความว่าหาร 500 ได้หรือไม่ คิดว่าการพิจารณาร่วมกันของ ส.ส. และ ส.ว.ในชั้น กมธ.ชัดเจนแล้ว

“นิกร” มั่นใจไม่คว่ำ

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทย พัฒนา ในฐานะเลขานุการ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง กฎหมายลูก 2 ฉบับ กล่าวว่า วันที่ 18 พ.ค. กมธ.จะเชิญ สมาชิกรัฐสภาที่เสนอคำแปรญัตติในร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับ รวม 16 คน ชี้แจงต่อ กมธ. เป็น ส.ว. 3 คน ส.ส. 13 คน คำแปรญัตติในร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรค การเมือง ส่วนใหญ่คือการแก้ไขการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อหาผู้สมัคร ส.ส. (ไพรมารีโหวต) ส่วนร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.คือ การกำหนดหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้เป็นคนละเบอร์ วิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ใช้ 100 หาร และการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อที่มีผู้เสนอให้คำนึงถึงเพศสภาพ จากเดิมให้คำนึงถึงความ เท่าเทียมชายหญิงไม่กังวลจะมีการคว่ำร่างกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ เชื่อว่าเสียงข้างมากที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะลงมติเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่ง

พท.โอ่ชื่อแคนดิเดตต้องร้องว้าว

ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ฝ่ายค้านมั่นใจมากว่าจะทำให้ประชาชน ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล ยอมรับเหตุผลข้อเท็จจริง ตัดสินใจลงคะแนนไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีมีเหตุผลรองรับ โดยเฉพาะพรรคเล็กและพรรคที่แตกมาตั้งใหม่ เชื่อว่าจะได้รับ ความร่วมมือจาก ส.ส.ที่เห็นแก่บ้านเมือง ส่วนกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วม และนวัตกรรมและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ชวนคนเสื้อแดงกลับบ้านสนับสนุนพรรคเพื่อไทย การที่จะชนะแบบแลนด์สไลด์มากกว่า 250 เสียงได้ คนสนับสนุนพรรคต้องร่วมมือร่วมใจ เชิญชวนให้มา เป็นสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย โอกาสแสดงออกสิทธิ เสรีภาพการเมืองมากกว่าความเป็นเสื้อแดง และนปช. ที่ถูกจำกัดเรื่องข้อกฎหมายหลายเรื่อง แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคยุบสภาจะประกาศทันที จะเป็น น.ส. แพทองธารหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ แต่จะส่ง 3 รายชื่อ น.ส.แพทองธารจะเป็น 1 ใน 3 หรือไม่ อยู่ในกระบวนการ พิจารณาและการตอบรับของประชาชน ถ้าเสนอไปประชาชนต้องร้องว้าว มั่นใจจะเลือกเพื่อไทย เพราะเห็นผู้นำเช่นนี้

“พิชัย” จี้ รบ.ลดค่าไฟช่วยชาวบ้าน

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ แถลงว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกขยายตัวเพียง 2.2% ถือว่าต่ำมาก สิ่งที่น่าห่วงคือเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มผันผวนสูงจากเงินเฟ้อพุ่งสูง อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯเพิ่มขึ้น และผลกระทบต่อเนื่อง จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวต่ำ อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจ ไทยทรุดหนัก ประเทศไทยต้องเตรียมรับมือความผันผวนทางเศรษฐกิจโลก และเร่งจัดการราคาพลังงานให้เหมาะสม โดยลดภาษีสรรพสามิตและลดราคาค่าไฟฟ้า เพื่อช่วยเหลือประชาชน ภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รัฐบาลต้องตั้งหลักคิดให้ดี ต้องมีทิศทางฟื้นเศรษฐกิจชัดเจน และเร่งช่วยเหลือให้ประชาชนรอดก่อน อย่าคิดถึงแต่เฉพาะความอยู่รอด รัฐบาล ไม่สนใจปัญหาประชาชนที่เดือดร้อนหนัก ถ้าประชาชนทนไม่ไหว รัฐบาลจะอยู่ไม่ได้แน่นอน

กมธ.คาดโทษ รบ.ดื้อดันท่อน้ำอีอีซี

นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ. ศึกษาการจัดทำและ ติดตามการบริหารงบประมาณ สภาฯ กล่าวว่า กมธ.ส่งหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เสนอให้สั่งยกเลิกการประมูลโครงการระบบท่อส่งน้ำอีอีซีและให้เปิดคัดเลือกบริษัทเอกชนเข้าประมูลใหม่แข่งขันอย่างเสรีเป็นธรรม โปร่งใส เปิดกว้าง ตรวจสอบได้ พบว่ากระบวนการคัดเลือกบริษัทมาบริหารจัดการน้ำในอีอีซีกำหนดทีโออาร์ไม่ชัดเจน เกิดข้อถกเถียง เรื่องผลประโยชน์ตอบแทนให้รัฐและอีกหลายประเด็น ที่ขาดความชัดเจนในขั้นตอนคัดเลือก อาทิ เปลี่ยนแปลงคณะกรรมการทีโออาร์และลดสเปกทีโออาร์ลงในการประมูลรอบ 2 กรมธนารักษ์ยังชี้แจงเหตุผลไม่ชัดเจน และใช้แต่ พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 ควรนำกฎหมายอื่นที่สอดคล้องมารองรับ ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ร่วมคัดเลือกบริษัทที่จะมาบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อีอีซี หากไม่มีการทบทวน เกิดความเสียหายขึ้นมา รัฐบาลต้องรับผิดชอบ

“พิเชษฐ” ยื่น หน.ขอความเป็นธรรม

นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค พปชร. กล่าวว่า ได้มอบให้ทนายความไปยื่นหนังสืออุทธรณ์ถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร. เมื่อวันที่ 17 พ.ค. คัดค้านมติคณะกรรมการข้อกฎหมายและข้อบังคับพรรคที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคเป็นประธาน มีมติให้ลงโทษตนห้ามยุ่งกิจกรรมพรรค 6 เดือน เนื่องจากมติไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง ปี 60 และข้อบังคับพรรค พปชร. เป็นเพียงความเห็นคณะกรรมการฯไม่ใช่มติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค บทลงโทษไม่สามารถบังคับได้ ข้อกล่าวหาฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับพรรครุนแรงเกินจริง มีเจตนาให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ขอให้เพิกถอนมติดังกล่าว การอ้างว่าตนตั้งกลุ่ม 16 เคลื่อนไหวทางการเมือง ยืนยันไม่ได้ต่อรองทางการเมือง ทำลายเอกภาพพรรค แต่ตั้งเป้าทำความดี อะไรที่รัฐบาลทำไม่ถูกต้องก็ทักท้วง เช่น โครงการท่อส่งน้ำสายหลักภาคตะวันออก

ญาติวีรชนรำลึก 30 ปีพฤษภาทมิฬ

เมื่อเวลา 08.30 น. ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ถนนราชดำเนิน มีการจัดงาน 30 ปี พฤษภาประชาธรรม รำลึกเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 17-20 พ.ค.35 โดยมีญาติผู้เสียชีวิตและสูญหาย ตัวแทนพรรคการเมืองและภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วม อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกฯ ผู้แทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมวางพวงมาลา กล่าวคำสดุดี ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้เสียชีวิต กระทั่งเวลา 11.40 น. นายอานันท์ อดีตนายกฯในยุคพฤษภา 35 เป็นประธานกล่าวเปิด “อนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 35” ตอนหนึ่งว่า อนุสาวรีย์ฯสร้างเพื่อให้ระลึกถึงและไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้อีก ไม่ใช่เป็นเพื่อความแค้นความเจ็บใจ เรารำลึกถึงอดีตแต่ต้องคุมสติไว้เพื่อให้ประเทศสู่ประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์

หวังได้ รธน. เป็น ปชต.เต็มใบ

นายอานันท์ให้สัมภาษณ์ว่า ประเทศไทยผ่านระบอบประชาธิปไตยมา 80 ปี เกิดความก้าวหน้าทางความคิดมากกว่ารูปธรรม ช่วงที่ความเจริญและความเลวกำลังไปได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเราก้าวหน้าช้าจะตามหลังคนอื่น และหวังว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ตัวหนังสือและจิตวิญญาณต้องเป็นประชาธิปไตยแท้จริงสมบูรณ์ในสิทธิขั้นพื้นฐาน นำไปสู่สังคมที่ยุติธรรมมากขึ้น เป็นห่วงคนอื่นไม่ใช่แค่ห่วงตัวเอง ลดความเหลื่อมล้ำความจน ความร่ำรวยต้องมีขอบเขต ไม่ใช่คน 800 คนครองสินทรัพย์ในประเทศร้อยละ 80 ส่วนความขัดแย้งขณะนี้ต้องเริ่มจากการจับเข่าคุยกัน อยู่ร่วมกันไม่จำเป็นต้องสู้รบ ไม่ใช่ฝ่ายตัวเองบอกว่าทำตามกฎหมายถูกเสมอ แล้วถ้ากฎหมายไม่ดีหรือผิดจะทำอย่างไร ดังนั้น สิ่งที่สังคมไทยต้องมีคือสติ

“โรม” แซะไม่หวังยางอาย “ลุงป้อม”

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กว่า รำลึก 30 ปี พฤษภาทมิฬ อย่าลืมข้อเรียกร้องนายกฯต้องมาจากการเลือกตั้ง ช่างบังเอิญมีกระแสข่าวหนาหูถึงความพยายามจะชู พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ขึ้นเป็นนายกฯแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านการปลดล็อกช่องทางการให้เสนอชื่อคนนอก สิ่งที่พี่น้องประชาชนคนเดือนพฤษภา 35 ต่อสู้เรียกร้องแลกด้วยเลือดเนื้อและชีวิต คือนายกฯต้องมาจากการเลือกตั้ง ยิ่งกับข้อเท็จจริงที่ว่า พล.อ.ประวิตรเคยเป็น รมว.กลาโหม ปี 2553 เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่กลุ่มคนเสื้อแดง จึงเป็นหนึ่งในผู้ต้องรับผิดชอบโดยตรงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การกระทำไม่ได้แตกต่างจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬเลย พล.อ.ประวิตรจึงไร้ซึ่งความเหมาะสมโดยประการทั้งปวงที่จะมาเป็นผู้นำประเทศ เราคงไม่อาจคาดหวังคนอย่าง พล.อ.ประวิตรและพวกพ้องจะมียางอาย สำนึกและล้มเลิกความพยายามก้าวสู่อำนาจเช่นว่าได้

“พิธา” วืดประกัน “ทานตะวัน”

ที่ศาลอาญา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เข้ายื่นคัดค้านฝากขัง น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักเคลื่อนไหวอิสระ ผู้ต้องหาคดีดูหมิ่นสถาบัน ตาม ป.อาญามาตรา 112 และอื่นๆในคดีโพสต์เฟซบุ๊กไลฟ์ก่อนมีขบวนเสด็จ โดยนายพิธาใช้ตำแหน่ง ส.ส.ขอประกันตัว จากนั้นนายกฤษฎางค์เปิดเผยว่า ศาลไต่สวนคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวนครั้งที่ 7 อนุญาตให้ฝากขังต่ออีก 5 วัน ส่วนการยื่นตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัว ศาลให้ยกคำร้อง เนื่องจากไม่ปรากฏหลักฐานเงินเดือนของผู้ร้อง และไม่มีพฤติการณ์พิเศษอื่นที่จะพิจารณา ด้านนายพิธากล่าวว่า น.ส.ทานตะวัน ถูกขังมาตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. เริ่มอดอาหารเรียกร้องสิทธิประกันตัวรวม 27 วันแล้ว เป็นห่วงสุขภาพ มายื่นประกันยืนยันหลักการระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมืองที่สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์หากยังไม่มีการพิพากษา