พิษท่อส่งน้ำอีอีซีทำ พปชร.เต้นเร่า “ไพบูลย์” เรียก “พิเชษฐ” สอบชี้ทำพรรคเสียหาย “บิ๊กป้อม” โยนให้เป็นเรื่อง กก.บห. “นิโรธ” ปูด “พิเชษฐ” มีเอี่ยวอีสท์วอเตอร์ ฉะ ส.ส.อาวุโสสายลับสามหน้า ทำตัวกลับกลอก ขณะที่เจ้าตัวโต้ทันควันข้อมูลสุดมั่ว แค่นั่ง ปธ.บอร์ด กปภ. ชี้เป้า “สันติ” จ้องขับพ้นพรรค “บิ๊กตู่” ท้าเหยง “ล้มได้ก็ล้มไปเถอะ” แต่ขอผ่านงบฯปี 2566 ไปก่อน ประชดตามใจถ้าอยากกลับไปที่เก่าเวลาเดิม ย้ำคุยกับ “พี่ใหญ่” ตลอด เลือกตั้งยังไม่ใช่เวลานี้ พท.วงแตกดึง “บุญจง” กลับรัง เจอแรงต้านหนัก “วิสุทธิ์” ขู่บอยคอตงดร่วมกิจกรรม พท. “ภูมิธรรม” น้อมรับเสียงตำหนิ สุดท้าย “บุญจง” ยอมถอนตัว

ผลพวงจากการลุยตรวจสอบโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (อีอีซี) ทำให้ผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐถึงกับเต้น แทงหนังสือเรียกนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. เข้าชี้แจงและมีสิทธิอาจถูกขับออกจากพรรค ฐานทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย

...

“ไพบูลย์” เรียก “พิเชษฐ” สอบ

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. ในฐานะประธานคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรค ทำหนังสือถึงนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ระบุว่าด้วยปรากฏตามที่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนสาธารณะหลายครั้งหลายวาระ ในลักษณะที่ทำให้พรรคและสมาชิกพรรคทั่วไปเสียหาย อันอาจเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคส่วนหน้าที่และความรับผิดชอบของสมาชิกที่ต้องมีต่อพรรค และอาจเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมของสมาชิก คณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรค ขอเชิญมาชี้แจงข้อเท็จจริงและให้ถ้อยคำเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ในวันที่ 11 พ.ค. เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 5 ที่ทำการพรรค หากไม่มาจะถือว่าไม่มีความประสงค์ชี้แจงข้อเท็จจริงและให้ถ้อยคำ คณะกรรมการจะพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

“บิ๊กป้อม” โยนเรื่องให้ กก.บห.

ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเรื่องของพรรคที่จะดำเนินการ พรรคมีคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) อยู่แล้ว เมื่อถามว่านายพิเชษฐอยากให้พรรคขับออกหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไปสอบดูก่อน เมื่อถามว่ากรณีนี้ถือว่ามีความผิดอะไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า เดี๋ยวทางพรรคจะดำเนินการเอง จะไปสอบดูก่อน เมื่อถามว่ามีความเป็นห่วงหรือไม่ ว่าฝ่ายค้านจะสามารถดึงเสียงจากพรรคเล็ก 30 เสียง เพื่อโหวตไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “เขาทำผิดหรือทำถูกเดี๋ยวค่อยมาว่ากัน”

ไม่มีใครล้มอยู่กันไปแบบนี้

เมื่อถามว่าถ้ามีขบวนการล้มนายกฯเกิดขึ้น จะไปช่วยเคลียร์เจรจาหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ไม่มี ไม่มีใครล้มหรอก ไม่ต้องคุย นายกฯก็เป็นนายกฯอยู่แบบนี้แหละ อยู่จนกระทั่งเขาจบนั่นแหละ” เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรน้อยใจหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่าจะเป็นนายกฯแทนบ้าง หรือรักษาการบ้าง พล.อ.ประวิตรตอบว่า “จะน้อยใจเรื่องอะไร ไม่มีอะไรเลย พวกคุณไปพูดกันเอง ไปว่ากันเองทั้งนั้น ไม่มีอะไรหรอก” เมื่อถามว่าไม่คิดอยากเป็นนายกฯ จะอยู่ช่วยนายกฯต่อไปใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบสั้นๆว่า “เออ”

ปูด “พิเชษฐ” มีเอี่ยวอีสท์วอเตอร์

นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การที่นายพิเชษฐ สถิรชวาล ไปจับมือฝ่ายค้านตรวจสอบโครงการสัญญาสัมปทานท่อส่งน้ำอีอีซี มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์พรรค พปชร. ที่คนของพรรคไปร่วมมือฝ่ายค้านดิสเครดิตรัฐบาล โดยเฉพาะนายพิเชษฐเพิ่งยุบพรรคตัวเองมาอยู่กับพปชร. แต่กลับจับมือนายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สร้างความสับสนต่อสังคม การอ้างว่าตรวจสอบความไม่ชอบมาพากล อยากถามว่าการประมูลครั้งนี้เป็นการประมูลหาเงินเข้ารัฐ ไม่ใช่หาเงินเข้าบริษัท ในอดีตบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรืออีสท์วอเตอร์จ่ายเงินให้รัฐเพียง 500 ล้านบาทกับสัมปทาน 30 ปี ทั้งที่บริษัทมีกำไรปีละพันกว่าล้านบาท หากเป็นจริงบริษัทจะมีผลกำไรรวมสามหมื่นกว่าล้านบาท ทราบว่านายพิเชษฐเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงบริษัทอีสท์วอเตอร์มาก่อน หากเป็นจริงการเคลื่อนไหวครั้งนี้นายพิเชษฐทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์บริษัทหรือของใคร เรื่องในพรรคควรคุยกันภายใน ไม่ใช่กล่าวหาเลขาธิการพรรค เพราะพฤติกรรมของนายพิเชษฐเองคนในพรรคจึงมองท่านเป็นวัตถุโปร่งแสง เป็น ส.ส.อาวุโสหลายสมัยแต่ทำตัวเหมือนสายลับสามหน้า กลับกลอกไปมา เสื่อมเกียรติสภาฯที่มี ส.ส.พฤติกรรมเช่นนี้

ชี้เป้า “สันติ” จ้องขับพ้นพรรค

ด้านนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. กล่าวว่า ยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว ยืนยันไม่ไปแน่นอนและจะไม่ทำหนังสือชี้แจง เป็น ส.ส.มาจากคะแนนเสียงประชาชน ไม่ใช่จาก พปชร. ทราบว่ามีคนพยายามขับตนออกจากพรรค แต่ไม่สามารถขับออกได้ทันที ต้องมีกระบวนการสอบสวนไต่สวนก่อน มองว่าที่เรียกไปชี้แจงจะยิ่งมีผลเสียต่อพรรค เพราะเป็นความพยายามปิดปากตนในการพิทักษ์ผลประโยชน์ประเทศ ยืนยันว่าประเด็นที่พูดเกี่ยวกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค พปชร. ที่กำกับดูแลกรมธนารักษ์ ตนและนายสันติกลายเป็นคู่ขัดแย้งแล้ว นายสันติจึงไม่ต้องการเอาไว้ แต่เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตรยังไม่มีท่าทีใดๆออกมา

โต้แหลกข้อมูล “นิโรธ” สุดมั่ว

เมื่อถามว่าหากพรรคมีมติขับออกจะไปสังกัดกับกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัสหรือไม่ นายพิเชษฐตอบว่า กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ตอนนี้ พล.อ.ประวิตรคุม หากจะย้ายพรรคย้ายไปอยู่กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยไม่ดีกว่าหรือ จะได้เป็นฝ่ายค้านเต็มตัว ส่วนกรณีที่นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ระบุว่าเคยเป็นผู้บริหารของอีสท์วอเตอร์มาก่อนนั้น ไม่เป็นความจริง เคยเป็นประธานคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค (บอร์ด กปภ.) ปี 2548 ที่มีอีสท์วอเตอร์เป็นบริษัทลูกของ กปภ. ไม่ใช่ผู้บริหาร มีหน้าที่แค่ให้นโยบายเท่านั้น

“บิ๊กตู่” วอนผ่านงบฯปี 66 ก่อน

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองว่า สิ่งที่เป็นห่วงคือ ความขัดแย้ง เวลานี้ไม่ใช่เวลามาสร้างความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์การเมือง แต่ไม่ได้หมายถึงในตอนนี้ วันนี้เราต้องเตรียมชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 หากไม่ผ่านการพิจารณาจะเดือดร้อน ขอร้องให้เข้าใจกันบ้าง ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำให้บ้านเมืองสงบ เรากำลังบูมเรื่องการท่องเที่ยว การลงทุน นักลงทุนก็ต้องมองว่าในประเทศไทยมีความขัดแย้ง เมื่อถามว่าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯจะขอความร่วมมือกับฝ่ายค้านอย่างไรเพื่อให้ผ่านไปได้ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ได้หารือมาตลอดผ่านวิปรัฐบาลให้ไปช่วยพูดคุย ไม่รู้จะขัดแย้งกันไปทำไม

ท้าเหยง “ล้มได้ก็ล้มไปเถอะ”

เมื่อถามว่าก่อนเปิดประชุมสภาจะนัดพรรคร่วมรัฐบาลทานข้าวก่อนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า อย่าให้ความสำคัญว่าต้องกินข้าวถึงจะคุยรู้เรื่อง คุยกันได้หลายวิธี ทุกกลุ่มทุกฝ่ายมีแกนนำมีหัวหน้าคุยกันอยู่แล้ว แต่บางทีหลายอย่างไม่เข้าใจกัน แต่ตอนนี้ก็รู้สึกเข้าใจกันมากขึ้นแล้ว เข้าใจตน พรรคร่วมยินดีร่วมมือหมด เมื่อถามว่าได้กำชับการเล่นเกมในสภาโดยเฉพาะกับกระแสข่าวล้มนายกฯหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “เอาเถอะ ถ้าล้มได้ก็ล้มไปเถอะ ล้มได้ล้มไป ผมก็ไม่ต้องทำงานก็แค่นั้นเอง ถ้าล้มแล้วมันมีอะไรดีขึ้นมา แต่กลัวว่าจะไม่ดีกว่าเดิม กับพรรคร่วมรัฐบาลสอบถามมาตลอดไม่เห็นมีใครจะล้มผม เขาก็ยืนยันจะอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไป เขายินดีจะร่วมมือกับผมทั้งนั้นแหละ อย่าเห็นแก่ประโยชน์เล็กน้อย ประเทศชาติสำคัญที่สุด ช่วงนี้ขอร้องก็แล้วกัน”

ตามใจถ้าอยากกลับไปที่เดิม

เมื่อถามว่าทำให้เสียสมาธิคนทำงานหรือไม่ นายกฯย้อนกลับสื่อว่า เวลาคุณเขียนอะไร จะพูดอะไร แล้วมีคนมาทักนู่นทักนี่ คุณจะเสียสมาธิไหม ให้ตนมีสมาธิแก้ปัญหาดีกว่า ต้องมาหงุดหงิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง จะเห็นว่าพยายามไม่ยุ่งไม่ตอบไม่พูดถึง มันเป็นปัญหาคนบางคน บางพวก ต้องดูว่าส่วนใหญ่เขาว่าอย่างไร เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรเคลียร์กับพรรคเล็กแล้วทำให้สบายใจขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า สบายใจทุกวันอยู่แล้ว ก็คุยกับเขาด้วย เจอใครก็คุยกับเขาหมด ให้เข้าใจสถานการณ์ ไม่ใช่มุ่งมั่นแต่การหาเสียงกันอย่างเดียว ประเทศชาติมันไปได้หรือ จะกลับสู่ที่เก่าเวลาเดิมก็เอาสิตามใจ ไม่มีอะไรหรอก กับ พล.อ.ประวิตรก็คุยแล้ว เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง เรื่องเลือกตั้งยังไม่ใช่เวลานี้

“จุรินทร์” ไม่มีข้อมูลค่าหัว ส.ส.

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าไม่ทราบเรื่องเงินซื้อ ส.ส.ล้มรัฐบาลหัวละ 5-30 ล้านบาท แต่เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง วิถีทางการเมืองที่ถูกต้องต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และระบบรัฐสภา ไม่ใช่ใช้เงินไปบิดเบือน ส่วนเรื่องที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไปกินข้าวกับพรรคฝ่ายค้าน ไม่ขอวิจารณ์เป็นเรื่องตัวบุคคล แต่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ทุกฝ่ายต่างมีหน้าที่ต้องตระหนักในหน้าที่ รัฐบาลมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ก็ต้องสร้างผลงาน ฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งหมดต้องทำเพื่อประโยชน์ประชาชนและส่วนรวม สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันไม่มี ส.ส.แตกแถว แต่เรื่องการแสดงความเห็นนั้นมีแน่ เพราะเราเป็นพรรคที่มีวิถีประชาธิปไตย

พท.โวพร้อมซักฟอกเต็มแก่

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมทั้งข้อมูล ข้อเท็จจริง และตัวผู้อภิปราย จะชี้ให้เห็นถึงการบริหารราชการที่ล้มเหลวเละเทะ สร้างความลำบากให้ประชาชนมากที่สุด ใช้ผู้อภิปรายไม่มาก เน้นชี้ให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น ความเลวร้ายที่รัฐบาลสร้างปัญหาให้ประชาชนอีกหลายปี ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ตอบคำถามไม่เคลียร์ จนชาวบ้านเอือมระอารัฐบาลกันหมดแล้ว ยืนยันพรรคเพื่อไทยมีข้อมูลการทุจริตที่ชัดเจน อาจส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ละเว้นการตรวจสอบทุจริตที่เกิดขึ้นหลายประเด็น เพราะกังวลหากตรวจสอบจะกระทบกับพรรคร่วมรัฐบาล ส่งผลต่อเสียงสนับสนุนรัฐบาล จึงปล่อยให้การทุจริตเกิดขึ้นต่อเนื่อง น่าละอายที่ พล.อ.ประยุทธ์หวงอำนาจ จนละเลยการตรวจสอบทุจริตภายในรัฐบาลเอง

ขีดเส้นตายรัฐบาล 4 วาระ

วันเดียวกันเวลา 18.00 น. ที่โรงแรมพาโค่ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา พรรคร่วมฝ่ายค้านจัดงานกระชับสัมพันธ์พรรคร่วมฝ่ายค้าน “ผนึกกำลัง ขีดเส้นใต้ความล้มเหลว ขีดเส้นตายรัฐบาล” มีแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านเข้าร่วมกิจกรรมพร้อมเพียง นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน นายชัยธวัช ตุลานนท์ เลขาธิการพรรคก้าวไกล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ และ ส.ส.ฝ่ายค้าน นพ.ชลน่านอ่านแถลงการณ์พรรคร่วมฝ่ายค้านมีเนื้อหาสรุปว่า รัฐบาลก่อให้เกิดวิกฤติหลายด้าน ทั้งวิกฤติผู้นำ วิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติสุขภาพ และวิกฤติการเมือง ที่เกิดจากรัฐธรรมนูญวางยาพิษ เสียงข้างมากที่ล้มเหลว นำความทุกข์ยากมาสู่ประชาชนเราจึงขีดเส้นตายรัฐบาลที่หมดสิ้นสภาพ ตั้งแต่วันเปิดสมัยประชุมสภาฯ 22 พ.ค.เป็นต้นไป จะปฏิบัติการร่วมกันใน 4 วาระ คือการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบ ประมาณฯ 2566 ร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หลังกฎหมายลูกผ่านสภาฯ จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และเรื่องที่ 4 คือเรื่องวาระดำรงตำแหน่งไม่เกิน 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ถึงเวลาต้องคืนอำนาจ คืนความกินดีอยู่ดี คืนประชาธิปไตยให้ประชาชน

ข้อมูลซักฟอกพุ่งไปภูมิใจไทย

นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล มีนายกฯเป็นจำเลยภายใต้กรอบ 7 ข้อ ตามที่เคยแถลงไป ขณะนี้มีข้อมูลที่ประชาชนส่งเข้ามาจำนวนมาก ส่วนใหญ่พุ่งไปที่กลุ่มรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยมากที่สุด รองลงมาคือพรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ ในการจัดงบประมาณ เรากำลังจับตาดูว่ามีการจัดงบประมาณเพื่อเอื้อประโยชน์พวกพ้องหรือไม่ ปัจจัยทั้งหมดนี้ทำให้เราเชื่อว่าเป็นไปได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะหนีหรืออยู่ไม่ถึงการอภิปราย มีอันเป็นไปก่อนการอภิปราย

ดึง “บุญจง” กลับรัง พท.วงแตก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า หลังมีการแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา และบุรีรัมย์ จำนวน 9 คน โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา เคยอยู่พรรคไทยรักไทย และพลังประชาชน ก่อนย้ายขั้วไปร่วมรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และได้เป็น รมช.มหาดไทย โควตาพรรคภูมิใจไทย ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ของแนวร่วมที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยถึงการรับนายบุญจงเข้าพรรค ในทำนองว่านำคนที่เป็นงูเห่า เป็นกำลังให้ฝ่ายเผด็จการที่เคยฆ่าคนเสื้อแดงกลาง กทม. กลับเข้าพรรค ขณะที่กลุ่มไลน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย มี ส.ส.หลายคนตั้งคำถามถึงผู้บริหารพรรค ถึงการวางตัวนายบุญจง ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา อาทิ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา ที่ระบุว่า “เราพี่น้องเสื้อแดงตกใจและผิดหวังยิ่ง เพราะกระจงหลงทาง คนนี้คือคนที่ปราบปรามพี่น้องแดงคนต้นๆเลย เราจะประท้วงด้วยการงดไปร่วมงานกับพรรควันที่ 7 พ.ค.นี้ ที่โบนันซ่า เขาใหญ่” นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ ส.ส.ร้อยเอ็ด ได้ส่งข้อความสอบถามว่า “อยากทราบว่าพรรคคือใครครับ ที่ตัดสินใจเอาเข้ามา”

“วิสุทธิ์” ติงฟังเสียงประชาชน

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่เคารพเสียงทุกคน และประชาชน ไม่ใช่พรรคที่เป็นเผด็จการ เมื่อประชาชนส่วนใหญ่มีความเห็นอย่างไร จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็จะยึดปฏิบัติตาม เมื่อถามว่าในกลุ่มไลน์ ส.ส.หลายคนขอให้พรรคทบทวนการส่งนายบุญจงลงสมัคร ส.ส.นครราชสีมา และจะประท้วงด้วยการงดไปร่วมงานกับพรรคที่ จ.นครราชสีมา นายวิสุทธิ์ตอบว่า งานดังกล่าวเป็นงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ไม่ใช่งานของพรรคโดยตรง บริบทจึงต่างกัน แต่จะมีมวลชนเสื้อแดงบางส่วนที่จะเข้าร่วมงานอาจไม่พอใจบ้าง

“ภูมิธรรม” น้อมรับเสียงตำหนิ

ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทวีตข้อความลงทวิตเตอร์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ขอบคุณทุกเสียงติติง ทุกความห่วงใยที่มอบให้พวกเราพรรคเพื่อไทย การรับผู้สนใจเข้าพรรคนั้นเป็นไปตามกระบวนการที่ต้องผ่านการพิจารณาเป็นขั้นตอน ทั้งระดับผู้บริหาร และคณะกรรมการสรรหา รวมทั้งกรรมการบริหารพรรคตามกฎหมาย เชื่อว่าเสียงติติงวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคนที่รักเรามีค่า จะได้รับพิจารณาอย่างดี

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค ทวีตข้อความลงทวิตเตอร์เช่นกันว่า “อยากให้คุณบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ช่วยพิจารณาตนเอง โดยคำนึงถึงฐานเสียงประชาชนด้วย เพราะคนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยไม่เอาคุณบุญจง เรื่องนี้ยังไม่ยุติ ยังต้องเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการบริหารพรรคด้วย ไม่เอาบุญจง”

กล่อม “บุญจง” จนยอมถอนตัว

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอบคุณในความห่วงใยของสมาชิกพรรคและประชาชนทุกคน ที่แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย ทุกความคิดเห็นเป็นสิ่งที่พรรคต้องให้ความเคารพและรับฟัง ขอเรียนว่าตามกฎหมายยังมีอีกหลายขั้นตอนในการสรรหาผู้สมัคร ในส่วนของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ขั้นตอนยังต้องผ่านการพิจารณาของกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. และกรรมการบริหารพรรคอีก อย่างไรก็ตาม ได้ประสาน กับนายบุญจงแล้ว นายบุญจงได้แสดงเจตนาว่าเมื่อสมาชิกยังมีข้อคิดเห็นที่หลากหลาย และเพื่อความสบายใจทุกฝ่าย จึงขอถอนตัวไปก่อน พรรคจึงขอถือโอกาสนี้นำเรียนมายังสมาชิกพรรคและพี่น้องประชาชนทราบ

“เสี่ยหนู” คึกสไตล์ปีม้า–ลิง–วัว

ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ มรภ.รำไพพรรณี จ.จันทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังปาฐกถาพิเศษ “อนาคตเศรษฐกิจเพื่อคนไทย หลังปลดล็อกกัญชา” ในงานประชุมวิชาการทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 6 ถึงความพร้อมเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทยว่า พรรคการเมืองต้องพร้อมเลือกตั้ง ทำพื้นที่ตลอดเพื่อสร้างความนิยมกับชาวบ้าน เป็น ส.ส.แล้วไม่ดูแลชาวบ้านย่อมไปแล้วไปลับไม่มีโอกาสกลับเข้ามา พรรค ภท.มีสไตล์ทำงานแบบพวกเกิดปีม้า-ลิง-วัว คือทำงานหนัก ลุกลี้ลุกลน อยู่เฉยไม่เป็น คึกตลอดเวลา

ยันไม่มีถอนตัวเททิ้ง “ลุงตู่”

ผู้สื่อข่าวถามถึงระหว่างนี้มีขบวนเขย่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้หลุดจากเก้าอี้นายกฯ หัวหน้าพรรค ภท. เป็นรายชื่อที่จะถูกโหวตให้เป็นนายกฯคนต่อไป นายอนุทินตอบว่า ไม่มีอะไรหรอก เมื่อถามว่าพรรคเตรียมรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างไร นายอนุทินตอบว่า เราพร้อมชี้แจงให้หายคลางแคลงใจ หายสงสัย การชี้แจงดีที่สุดคือการทำงาน มีผลงานให้เห็น มันอยู่ในหัว ไม่ต้องไปอ่าน เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านพยายามใช้ข้อมูลอภิปรายชี้ให้เห็นถึงความผิดของรัฐมนตรีของพรรคแกนนำ เพื่อบีบให้พรรคภท. และพรรค ปชป.ถอนตัวออกจากรัฐบาล เป็นไปได้แค่ไหน นายอนุทินตอบว่า “เป็นไปไม่ได้ ทำงานด้วยกันต้องอยู่ด้วยกัน เวลาที่เหลืออยู่ก็ไม่นานจนเกินไป”

เดินหน้าแจกกล้ากัญชาล้านต้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงผลพวงด้านเศรษฐกิจหลังปลดล็อกกัญชาตามนโยบายพรรค ภท.หลังวันที่ 9 มิ.ย. หลังนายอนุทินตอบชี้ให้เห็นภาพถึงเศรษฐกิจจะดีขึ้นอย่างไรแล้ว น.ส.นมัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่มาร่วมงานยืนคู่กับนายอนุทิน กล่าวเสริมว่า หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีนโยบายแจกต้นกล้ากัญชา 1 ล้านต้น ตอนนี้กำลังเพาะเนื้อเยื่ออยู่หลายสายพันธุ์ เพื่อสร้างต้นกัญชาที่แข็งแรงให้ประชาชน ปลูกก็รอด

“บิ๊กตู่” ระวังตัวแจเยือนสหรัฐฯ

อีกเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการเดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ (ASEAN- US Special Summit) ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 12-13 พ.ค. ที่สหรัฐอเมริกาว่า ยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีประเด็นอะไรอย่างที่สื่อบางแขนงไปพาดหัวข่าวว่านายกฯจะไปทำอย่างนั้นอย่างนี้ ยืนยันเป็นการประชุมปกติ เหมือนการประชุมอาเซียน-ญี่ปุ่น หรืออาเซียน-จีน บังเอิญช่วงนี้เกิดเหตุการณ์และสถานการณ์สงคราม นับเป็นสถานการณ์ในภูมิภาค ในที่ประชุมคงมีการแสดงความคิดเห็นกันบ้าง แต่ไม่ได้ไปเลือกอะไรกับใคร ทุกอย่างต้องมีเหตุมีผลพยายามจะทำอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด ขอให้ไว้ใจกัน อย่าเพิ่งไปปล่อยข่าวว่าต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่เกี่ยวข้องกัน