นายกฯ ตรวจติดตามโครงการแก้อุทกภัย เน้นย้ำบริหารน้ำให้เหมาะสม ไปเดินตลาดประชาชนส่งเสียงเชียร์สู้ๆ เจ้าตัวบอกมีความสุข พร้อมขอให้ประชาชนรักสามัคคี อ้อน “รักจังฮู้”

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 เม.ย. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมคณะ เดินทางโดยเครื่องบินของกองการบิน กรมการขนส่งทางบก มาถึง จ.สงขลา ซึ่งนายกรัฐมนตรีขึ้นรถโตโยต้า อัลพาร์ด ทะเบียน ขน 777 สงขลา ไปปฏิบัติราชการและพบปะประชาชน

...

จากนั้นเวลา 11.15 น. ตรวจติดตามโครงการพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 การแก้ไขอุทกภัย อ.หาดใหญ่ ในการจัดทำโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ปรับปรุงคลองภูมินาคดำริ (คลอง ร.1) ให้มีศักยภาพเพียงพอในการป้องกันน้ำท่วมเมืองหาดใหญ่ และเป็นพื้นที่เก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ณ คลองภูมินาคดำริ (คลอง ร.1) โดยนายกรัฐมนตรีกำชับให้สำรวจศักยภาพของคลอง เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำ นำเอาประสบการณ์จากน้ำท่วมที่ผ่านมาเป็นบทเรียนในการแก้ไขปัญหาให้มีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์ต่อประชาชน พร้อมเน้นย้ำบริหารน้ำให้เหมาะสม นำไปใช้ประโยชน์ในฤดูแล้ง และยังฝากให้ส่วนราชการสำรวจเส้นทางน้ำ รวมถึงคลองต่างๆ พัฒนาแก้ไขปรับปรุง นำเสนอโครงการมายังรัฐบาล โดยยืนยันพร้อมสนับสนุนงบประมาณ แต่ขอให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด

ต่อมาเวลา 11.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมายังตลาดกิมหยง เทศบาลหาดใหญ่ ตั้งแต่ลงรถก็ชูสัญลักษณ์ไอเลิฟยู ก่อนเข้าพบปะให้กำลังใจสอบถามสถานการณ์ค้าขายท่ามกลางประชาชนพ่อค้าแม่ค้าส่งเสียงกำลังใจว่า “นายกฯ สู้ๆ” “ลุงตู้สู้ๆ” ตลอดทาง โดยบรรยากาศค่อนข้างแออัด นายกรัฐมนตรีกล่าวกับพ่อค้าแม่ค้าให้สู้ๆ ขอให้เข้มแข็ง กำลังใจที่ดีจะช่วยให้ก้าวผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ ไปได้ ทั้งนี้มีประชาชนมาขอจับมือถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่นายกรัฐมนตรีให้ใช้ศอกสัมผัสกันแทนการจับมือเพื่อความปลอดภัยจากโควิด-19

ในเวลา 12.35 น. นายกรัฐมนตรี เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่ ซึ่งมีการเชิดสิงโตต้อนรับ และ พล.อ.ประยุทธ์ นำซองใส่ปากสิงโตด้วย ก่อนพบปะประชาชน ณ เทศบาลนครหาดใหญ่ พร้อมทักทายและกล่าวในจุดนี้เป็นระยะเวลาหนึ่ง ว่า วันนี้นายกฯ เอาตัวและหัวใจมาฝาก ที่ผ่านมาเราก็รู้ว่าเจอปัญหาหลายอย่าง ทั้งสถานการณ์โควิด-19 สงครามความขัดแย้งที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ รัฐบาลพยายามทำทุกวิถีทางให้ประชาชนอยู่ได้ อยู่รอด พอมีพอใช้ไปก่อนในช่วงนี้ เพราะมีค่าใช้จ่ายหลายอย่าง รวมถึงเรื่องพลังงาน น้ำมัน ซึ่งโครงการต่างๆ ก็มีการติดตามมาโดยตลอด ซึ่งการดูแลและงบประมาณภาคใต้ค่อนข้างจะน้อย ตั้งแต่ปี 2558 งบก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และหลายอย่างเกิดขึ้นจากตนที่เป็นผู้กำหนดนโยบาย วันนี้มารับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน

เพราะฉะนั้น การที่รัฐบาลจะทำอะไรได้ หรือไม่ได้ ขึ้นอยู่กับตัวนายกฯ เพราะเป็นผู้กำหนดนโยบาย ยืนยันว่ามีส่วนทุกอย่างจึงต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง จะไม่เลือกปฏิบัติ เพราะประชาชนเป็นผู้เดือดร้อน ที่ผ่านมาก็มีการเยียวยาแรงงานไปแล้วจำนวนมาก ตอนนี้ต้องรีบสร้างรายได้ให้ประเทศ รวมถึงเดินหน้าแก้ปัญหาความยากจนรายครัวเรือน ปัญหาหนี้สิน อีกทั้งต้องร่วมมือกัน จะให้เงินเปล่าๆ ไปก็ไม่ได้ และการสร้างอะไรก็แล้วแต่ต้องผ่านประชาพิจารณ์ทั้งสิ้น ยืนยันว่าอะไรที่ทำได้ จะทำให้จบและให้สิ้นสุดให้ได้ พร้อมบอกว่าวันนี้มีความสุขนะ นายกฯ มีความสุขหลายวันแล้ว แม้จะมีแต่ปัญหาๆ เข้ามา ก็อยากจะแก้ให้มันเสร็จทุกอย่างด้วยตัวเอง

ในช่วงหนึ่งมีประชาชนตะโกนขึ้นว่า “ลุงหล่อมากค่ะวันนี้” โดย พล.อ.ประยุทธ์ ตอบกลับว่า “กลับไปไม่ต้องทานข้าวแล้ว” ก่อนจะพูดต่อไปว่าแก่แล้ว จากนั้นยังมีเสียงประชาชนตะโกนขึ้นอีกว่า “รักลุงตู่ๆ ลุงตู่สู้ๆ” นายกฯ ตอบกลับว่า “รักจังฮู้”

ขณะเดียวกัน ต่างประเทศที่เข้าพบนายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมตนเองและคนไทย เพราะเป็นประเทศหนึ่งที่เป็นตัวอย่างในการอยู่รวมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ต่างศาสนาอยู่ด้วยกันได้ รู้สึกปลื้มมาก และพร้อมจะมาช่วยเหลือแก้ปัญหา โดยนายกฯ ขอให้ประชาชนรักสามัคคี ทุกอย่างต้องสานต่อในปัจจุบันและอนาคต เราลืมอดีตไม่ได้เพราะบางอย่างอดีตดีก็อย่าไปพัง รัฐบาลใช้วิธีการว่าอะไรเป็นอุปสรรค อะไรที่ไม่ได้ทำมาก่อน นายกฯ จะทำ แก้ปัญหาของเดิม ทำวันนี้ให้ดีที่สุด นอกจากนี้เรื่องเส้นทางคมนาคมล่องใต้ก็กำลังดำเนินการ พัฒนาปรับปรุงทั้งหมด รวมถึงสนามบิน.