ครม. อนุมัติงบกลางเกือบ 160 ล้านบาท ช่วยผู้เพาะปลูกยาสูบและผู้บ่มอิสระ ในฤดูการผลิต 62/63 รวม 14,292 ราย จ่ายเงินช่วยเหลือ 70% ของรายได้ที่หายไป โอนผ่านบัญชี ธ.ก.ส. ใน 150 วัน

วันที่ 19 เม.ย. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ที่ประชุมอนุมัติงบกลาง 159.69 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ฤดูกาลผลิต 2562/2563 ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ ยสท. และกรมสรรพสามิต รวมจำนวน 14,292 ราย  แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใบยา ดังนี้

1. ใบยาเวอร์ยิเนีย ประกอบด้วย ชาวไร่ 2,378 ราย ผู้บ่มอิสระ 54 ราย ชาวไร่ใบยาสด 1,807 ราย
2. ใบยาเบอร์เลย์ ชาวไร่ 6,562 ราย
3. ใบยาเตอร์กิช ชาวไร่ 3491 ราย

นายธนกร ระบุต่อไปว่า รัฐบาลให้ความช่วยเหลือโดยจ่ายเงินช่วยเหลือให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระในอัตราร้อยละ 70 ของรายได้ที่หายไป คำนวณเงินช่วยเหลือจากปริมาณโควตาการผลิตใบยาที่ลดลงในฤดูกาลผลิต 2562/2563 เปรียบเทียบกับปริมาณโควตาที่ได้รับในฤดูกาลผลิต 2560/2561 คูณด้วยร้อยละ 70 ของรายได้ที่หายไป โดยเกษตรกรผู้ปลูกต้นยาสูบจะได้รับเงินช่วยเหลือตามปริมาณการรับซื้อใบยาสูบที่ลดลงจริงในแต่ละประเภทใบยา และปัจจุบันในพื้นที่ดังกล่าวต้องไม่มีการปลูกยาสูบทดแทนด้วย 

...

ทั้งนี้ จะมีคณะกรรมการตรวจสอบ รวบรวมข้อมูล ส่งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝาก ธ.ก.ส. ของเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบที่ได้รับสิทธิ์ภายใต้โครงการดังกล่าว โดยมีระยะเวลาดำเนินการภายใน 150 วัน นับตั้งแต่ ครม.มีมติเห็นชอบ.