“บิ๊กตู่” แจงที่ประชุม ครม. ลงพื้นที่ไม่เกี่ยวหาเสียง ด้าน “มนัญญา-วราวุธ” โต้เดือด เรื่องซื้อของต้องเสียค่าถุง นายกฯ ต้องตัดบทไล่ไปคุยข้างนอก “วราวุธ” ระบุกำลังตามไปขอโทษ รับมีอารมณ์

วันที่ 5 เม.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เต็มคณะ ที่ตึกสันติไมตรี ก่อนเริ่มประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการประชุม ครม.ว่าการประชุม ครม.ครั้งต่อไปวันที่ 12 เม.ย. 2565 ช่วงเช้า จะมีพิธีทำบุญตักบาตรและรดน้ำดำหัว ที่ตึกสันติไมตรี โดยเปิดให้ ส.ส. ส.ว. ข้าราชการ เจ้าหน้าที่มาร่วมงาน จากนั้นในช่วงบ่ายจะเป็นการประชุม ครม. โดยย้ายมาประชุมที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่ประชุม ครม.ในช่วงที่ไม่มีโควิด-19 โดย พล.อ.ประยุทธ์ ปรารภกับที่ประชุมตอนหนึ่งถึงการลงพื้นที่ใน กทม.ช่วงที่ผ่านมาว่า การลงพื้นที่ของตนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการหาเสียง และไม่ได้ลงพื้นที่ตรงกับที่มีการหาเสียง อีกทั้งการลงพื้นที่ไม่ได้มีการเตรียมการไว้ก่อน เพราะถ้าเตรียมการไว้ก่อนคนจะมาห้อมล้อมเยอะ สำหรับการลงพื้นที่ที่ผ่านมาได้คุยกับชาวบ้านให้เขาเข้าใจว่าเราอยู่ในช่วงโควิด-19 ช่วงความขัดแย้ง ชาวบ้านก็ได้ร้องเรียนปัญหาต่างๆ เรื่องไหนแก้ไขได้ก็แก้ไขไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการพิจารณาวาระเรื่องการขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่จะสิ้นสุดในเดือน ธ.ค.2564 ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการหันมาใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพและช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่ย่อยสลายไม่ได้ ที่มีกระทรวงการคลังเป็นผู้เสนอนั้น ปรากฏว่า น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้กดไมโครโฟนขอแสดงความเห็นพร้อมระบุว่า “ขออนุญาตถาม รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนิดหนึ่ง เพราะอยากรู้ว่าในร้านสะดวกซื้อประชาชนต้องเสียเงินซื้อถุงพลาสติก แล้วเงินที่ประชาชนต้องมานั่งเสียมันไปไหน นโยบายรัฐคือ ไม่ให้ถุงเลยหรืออย่างไร แต่ก่อนซื้อของไม่ต้องเสียค่าถุง ตอนนี้ต้องเสียเพิ่มขึ้นมา” ทำให้นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รีบชี้แจงว่า “ร้านจะเก็บไปไหนไม่ทราบนะครับ จะรู้ได้อย่างไรว่าจะเอาไปทำอะไร เป็นเรื่องของเอกชนเขา รัฐไปยุ่งไม่ได้ และมาตรการลดการใช้ถุงพลาสติกเป็นมาตรการที่ขอความร่วมมือ ไม่ได้บังคับ แต่พอทำไป ผลที่ได้คือมีการลดใช้พลาสติกจริงๆ”

...

น.ส.มนัญญา จึงกดไมโครโฟนพูดสวนไปว่า “รัฐมนตรีพูดได้ดีนะคะ แต่พูดเหมือนปัดความรับผิดชอบ การทำแบบนี้เหมือนรัฐบาลไปเอื้อให้นายทุนรายใหญ่ นับหนึ่งไม่ถึงสิบสักที งานที่ทำไม่ถึงเป้าหมายสักที” ทำให้นายวราวุธเริ่มมีอารมณ์ และกดไมโครโฟนตอบโต้ว่า “ตัวเลขการใช้ถุงพลาสติกก็ลดลงต่อเนื่อง นโยบายดี สวยหรู แต่จะมาพูดเอาแต่มัน มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรนะครับ” ทำให้ น.ส.มนัญญา กดไมโครโฟนพร้อมกับถามนายวราวุธว่า “เดี๋ยวนะ เอามันคืออะไร หมายความว่าอย่างไร”

เมื่อถึงตรงนี้ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรีบหย่าศึก โดยบอกกับทั้งคู่ว่า “พอแล้วๆ ไปเถียงกันข้างนอก นโยบายต้องแก้ปัญหาเรื่องพลาสติก ไปเอาผลการดำเนินการมาให้ดูละกันว่ามันลดอย่างไร ผมไม่ชอบ ผมนั่งอยู่ตรงนี้ ทำไมต้องเถียงกัน” ทำให้ทั้งคู่หยุดโต้เถียงกัน จากนั้นเริ่มประชุมต่อ โดย น.ส.มนัญญา นั่งอยู่ต่ออีกสักพัก ก่อนจะลุกออกจากห้องประชุมไป แล้วไม่เดินทางกลับเข้ามาร่วมประชุมอีก อย่างไรก็ตาม ช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวกับที่ประชุมว่า ขอโทษด้วยถ้าวันนี้มีอารมณ์เสียไปบ้าง

ภายหลังการประชุม นายวราวุธ ให้สัมภาษณ์ ชี้แจงกรณี ที่มีวิวาทะในห้องประชุม ครม. กับ น.ส.มนัญญา ว่า เป็นเรื่องนิดหน่อยที่มองต่างมุมกัน ไม่มีอะไร เพราะ น.ส.มนัญญา มองอีกแบบ แต่ตนทำอีกแบบ ซึ่งเป็นเรื่องเล็ก ทั้งนี้ยอมรับว่าตนอาวุโสน้อยกว่า ก็ไม่ควรอยู่แล้ว เมื่อถามถึงกรณี นายกฯให้ออกไปทะเลาะกันนอกห้องประชุม นายวราวุธ ระบุว่ากำลังจะตามไปขอโทษ น.ส.มนัญญา อยู่ เพราะไม่ควรไปต่อปากต่อคำ เป็นสิ่งไม่ดีตนอาวุโสน้อยกว่า จึงต้องติดต่อไปขอโทษ และต้องขออภัยด้วย หากตอบอะไรไปแล้วทำให้ระคายเคืองใจ ซึ่งควรต้องให้เกียรติผู้ใหญ่ ที่ทำไปเป็นสิ่งไม่ดี อย่างไรก็ตามยอมรับว่า ในขณะที่มีการโต้ตอบกัน มีอารมณ์หงุดหงิดกัน อาจวุ่นวายไปเล็กน้อย แต่ไม่มีอะไร

จากนั้น น.ส.มนัญญา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวหลังการประชุม ครม. ว่า “ไม่ได้ติดใจอะไร หญิงชายเท่าเทียมกันอยู่แล้วค่ะ” พร้อมกับระบุอีกว่า “วันนี้ประชุม ครม. มีคำถามที่ถามในมติ ครม. ถามกลับผู้ชายคนหนึ่ง ตอบกลับมาใช้คำว่า “เอามัน” ถามกลับไปว่า “เอามัน” หมายถึงอะไร ตอบกลับมาว่า “ก็เอามันคนที่ถาม” ไม่ได้ติดใจคำนี้ แต่งงมาก เกิดมาไม่เคยได้ยิน ช่วยหาคำตอบให้หน่อยค่ะ”