คนไทยต้องมีหน้ากากอนามัย ปิดจมูกปิดปากเห็นแต่ลูกตามาแล้ว 2 ปี ยังไม่รู้ว่า อีกเมื่อไหร่คนไทยจะได้ถอดหน้ากากอนามัย กลับไปใช้ชีวิตเป็นปกติเหมือนเดิม?
อีก 3 เดือน? หรืออีก 6 เดือน? หรืออีก 1 ปี? หรืออีกหลายปี?
เฉลี่ยคนไทย 1 คน ต้องใช้หน้ากากอนามัย 1 ชิ้นต่อวัน
ต้องจ่ายเงินซื้อหน้ากากอนามัยชิ้นละ 2 บาทต่อคนต่อวัน
ประชากรไทย 66 ล้านคน ต้องใช้เงินซื้อหน้ากากอนามัย 132 ล้านบาทต่อวัน หรือ 3,960 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 47,520 ล้านบาทต่อปี
ยังต้องซื้อสเปรย์ฆ่าเชื้อ หรือเจลแอลกอฮอล์ สำหรับฉีดหรือทาทุก 3 ชั่วโมง หรือ 6 ชั่วโมง เพื่อป้องกันโควิดเล่นงาน
ยังไม่รวมชุดตรวจเอทีเค ที่ต้องเตรียมไว้ถ้าเกิดความจำเป็น
นี่คือรายจ่ายเพิ่มที่คนไทยต้องควักกระเป๋ากันเอง ตัวใครตัวมัน
ยังไม่รวมค่าก๊าซหุงต้มขึ้นราคา ค่าไฟฟ้าขึ้นราคา นํ้ามันขึ้นราคา เนื้อหมูไข่ไก่ขึ้นราคา นํ้าตาล ซีอิ๊ว นมข้น กาแฟ ฯลฯ แห่กันขึ้นราคา
ไอ้โน่นนิด ไอ้นี่หน่อย รวมแล้วก็ไม่น้อยนะลุง!!
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าสถานการณ์โควิดระบาดรอบล่าสุด ยังเป็นขาขึ้นดอย
ยังขึ้นไม่ถึงยอดดอย!!
สถิติผู้ป่วยใหม่ วานซืน 28,379 คน บวกผลตรวจเอทีเค อีก 11,816 คน รวมเป็น 40,195 คน
จำนวนผู้ป่วยไอซียูเพิ่มขึ้นเป็น 1,828 ราย
ผู้ป่วยวิกฤติต้องใส่เครื่องช่วยหายใจยอดพุ่งขึ้นเป็น 712 คน
เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีถึง 5 เท่าตัว!!
ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตเมื่อวานซืน 92 ราย ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือน
ส่งผลให้ประเทศไทยติดอันดับ 12 ของโลก
ขยับสูงขึ้นอีก 1 อันดับในช่วง 3 วัน!
อันดับโลกที่สูงขึ้น แสดงว่า ความสามารถในการป้องกันโควิดระบาดของรัฐบาลแย่ลง!!
...
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าเหลืออีก 1 สัปดาห์จะเข้าช่วงหยุดยาวฉลองเทศกาลสงกรานต์
เป็นช่วงหวาดเสียวที่สุดตั้งแต่วิกฤติโควิดอาละวาดในเมืองไทย!!
คาดว่าหลังหยุดยาวฉลองสงกรานต์ ยอดผู้ติดเชื้ออาจพุ่งสูงขึ้นอีกเท่าตัว??
เพราะรัฐบาลนายกฯลุงตู่ไม่สามารถห้ามคนไทยไม่ให้ชุมนุมกินเลี้ยงสังสรรค์ฉลองเทศกาลสงกรานต์ในครอบครัว
เพราะเทศกาลสงกรานต์ คือเทศกาลวันครอบครัว
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าการกินเลี้ยงฉลองใหญ่หมู่ญาติพี่น้อง ส่วนใหญ่จะไม่มีการเว้นระยะห่างทางสังคม
ยิ่งเหล้าเข้าปากด้วยยิ่งคุยกันติดลม
ถ้าใครติดโควิดคนเดียวก็ต้องติดกันทั้งวง
ถึงจะฉีดวัคซีนเข็มโดสตอนนี้ก็ช้าเกินไป
เพราะกว่าวัคซีนจะออกฤทธิ์ต้องหลังฉีดแล้ว 10 วัน
ขอให้บุญรักษานะคุณโยม.
“แม่ลูกจันทร์”