ช่วยต่อลมหายใจอันรวยริน ให้พี่น้องประชาชนคนรากหญ้า ที่ประชุม ครม.นัดล่าสุด มีการพิจารณามาตรการบรรเทาผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลให้ราคาพลังงานทั้งน้ำมัน และก๊าซพุ่งทะลุเพดาน
เป็น “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศ 10 มาตรการ ลดผลกระทบค่าพลังงานแพงให้ประชาชน เป็นเวลา 3 เดือน ในวงเงิน 70,000 ล้านบาท ได้แก่
1.เพิ่มเงินช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน ซื้อก๊าซหุงต้ม จาก 45 บาท เป็น 100 บาท
2.ให้ส่วนลดหาบเร่แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซื้อก๊าซหุงต้มเดือนละ 100 บาท
3.ช่วยค่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 250 บาท/เดือน แก่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนแล้ว เพื่อตรึงราคาให้พี่น้องประชาชนจ่ายค่าวินฯเท่าเดิม
4.คงราคาขายปลีกก๊าซเอ็นจีวีไว้ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม
5.แท็กซี่มิเตอร์ในโครงการลมหายใจเดียวกัน ซื้อก๊าซได้ในราคา 13.62 บาทต่อกิโลกรัม
6.ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าแก่ผู้ที่ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย/ เดือน
7.ตรึงราคาดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย.
8.กำกับดูแลการปรับราคาก๊าซหุงต้มตั้งแต่เดือน เม.ย.-มิ.ย.
9.ลดเงินสมทบของนายจ้างและลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จาก 5% เหลือ 1%
10.ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 จาก 9% เหลือ 1.9% และลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ลงเหลือ 42-180 บาทต่อเดือน
มาตรการที่ออกมา พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าพุ่งเป้าไปที่คนที่เดือดร้อน คนที่ยากจนลำบากก่อน
นอกจากนี้ยังติดตามการแก้ปัญหา “หนี้ครัวเรือน”
ซึ่งจากรายงานของ สภาพัฒน์ ล่าสุด พบว่าระดับหนี้สินครัวเรือนในไตรมาสสามปี 2564 อยู่ที่ 14.35 ล้านล้านบาท คิดเป็น 89.3% ของจีดีพี
...
ได้แก่ 1.การแก้ไขปัญหาหนี้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เช่น ลดเบี้ยปรับร้อยละ 100 กรณีปิดบัญชีคราวเดียว 58,286ราย และลดเบี้ยปรับร้อยละ 80 กรณีชำระหนี้ทันงวด 325,231 ราย
2.กำหนดให้การไกล่เกลี่ยและการปรับโครงสร้างหนี้ เป็นวาระแห่งชาติ เน้นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFls) และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
3.แก้ปัญหาหนี้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์
4.แก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการ โดยเฉพาะครูและตำรวจ เช่น ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สวัสดิการตัดเงินเดือนให้เป็นสวัสดิการที่แท้จริง โดยสหกรณ์ออมทรัพย์ครูไม่น้อยกว่า 10 แห่ง ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงเหลือไม่เกิน 5% และขยายผลการแก้ไขหนี้ครูผ่านสหกรณ์ต้นแบบ ส่วนข้าราชการตำรวจ ได้รับการแก้ไขปัญหาหนี้สินแล้วหลายพันราย
ประเด็นสำคัญคือ การแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ มีการจับกุมเจ้าหนี้นอกระบบที่กระทำผิดกฎหมายตั้งแต่เดือน ต.ค.2559-ธ.ค.2564 จำนวน 10,375 คน
นอกจากนี้กระทรวงการคลัง ยังเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อในระบบให้กับลูกหนี้นอกระบบและประชาชนทั่วไป เช่น สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ให้กับประชาชนรายย่อยแล้ว 1.24 ล้านบัญชี วงเงินรวม 1.69 หมื่นล้านบาท
นายกฯยังสั่งการทุกหน่วยงาน บูรณาการติดตาม ประเมินผลการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่มีหลากหลายมิติแตกต่างกัน ทั้งกลุ่มเป้าหมาย วิธีการ และระยะเวลา
ความจริงรัฐบาลมีเวลาสะสางปัญหามานาน แต่ดันมาเร่งเครื่องเอาตอนใกล้จะหมดวาระ
ก็เลยเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกมองว่า เป็นการปั่นแต้มการเมือง.
เพลิงสุริยะ