รองนายกฯ ประวิตร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 5 หน่วยงาน ขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ปี 65 เนื่องในวันน้ำโลก ยัน ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญการบริหารจัดการน้ำทั่วประเทศ
วันที่ 22 มี.ค. 2565 ที่ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 5 หน่วยงาน เพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ปี 2565 โดยมีผู้บริหารจาก 5 หน่วยงาน ได้แก่ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พันตำรวจโทประวุธ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นางชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) นายสุทัศน์ วีสกุล ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) กล่าวถึงการร่วมขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกัน
พลเอก ประวิตร กล่าวว่า การจัดกิจกรรมเนื่องในวันน้ำโลกประจำปี 2565 มุ่งเน้นในการสื่อสารองค์ความรู้ และการขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงการสร้างความร่วมมือและพัฒนาแนวคิดของเยาวชน โดยเฉพาะเรื่องน้ำใต้ดิน ซึ่งสอดคล้องกับประเด็นที่องค์การสหประชาชาติ ให้ความสำคัญ และเป็นที่มาของการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันน้ำโลกปีนี้ เพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ระหว่าง 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน)
...
เป็นการยกระดับความเข้มข้นของการดำเนินงานที่จะช่วยส่งเสริมให้การบริหารจัดการน้ำของประเทศไทยเกิดผลสัมฤทธิ์ตามแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน จากการร่วมลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้มุ่งเน้นความสำคัญในการบริหารจัดการน้ำทั่วประเทศ โดยให้หน่วยงานทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น มีส่วนร่วมดูแลการจัดการน้ำและจัดสรรน้ำอย่างเหมาะสม ทั้งในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบริการ และให้สอดรับกับการพัฒนาและการเจริญเติบโตของประเทศ เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้มีความมั่นคงและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
และในโอกาสนี้ ขอเน้นย้ำถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลไทย ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้ให้ไว้เนื่องในวันน้ำโลกปีนี้ว่า ประเทศไทยจะดำเนินการบริหารจัดการน้ำใต้ดินอย่างเป็นระบบตามหลักวิชาการ ตั้งแต่การฟื้นฟูป่ารักษาความชุ่มชื้นให้แก่ระบบนิเวศ การเติมน้ำใต้ดินผ่านแหล่งน้ำต่างๆ และติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติ ลดการรุกล้ำของน้ำเค็ม บรรเทาอุทกภัย และการใช้ประโยชน์ในช่วงวิกฤติภัยแล้ง พร้อมไปกับการปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักและร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ ด้วยการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ลดการปนเปื้อนของแหล่งน้ำและน้ำใต้ดิน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบาย “ทศวรรษแห่งการร่วมมือปฏิบัติของทุกประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ของสหประชาชาติด้านน้ำ และเพื่อประโยชน์สูงสุด คือการรักษาทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนเพื่อประชาชนรุ่นหลังสืบไป.