ตรวจโควิดขึ้น 2 ขีด ยังไม่ตกใจเท่าเติมน้ำมันห้าร้อยขึ้นขีดเดียวมุกตลกร้ายที่ท่านผู้นำทหารอาชีพอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม หัวเราะไม่ออก และประชาชน คนไทยก็ไม่ขำด้วย

ในอารมณ์ตึงเครียดสุดๆ ใกล้ถึงจุดระเบิด

ชาวบ้านร้านตลาด พ่อค้า แม่ขาย คนหาเช้า กินค่ำกำลังตกระกำลำบากจากภาวะข้าวยากหมากแพง ภาวะน้ำมันเชื้อเพลิงพุ่งกระฉูดลามถึงแก๊สหุงต้มในครัวเรือน ค่าเอฟทีไฟฟ้าจ่อคิวซ้ำ แม้กระทั่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังแอบขึ้นราคา

สินค้า “แพงทั้งแผ่นดิน” สวนทางกับค่าแรงตกต่ำ คนตกงาน นักศึกษาจบใหม่ต้องวิจัยฝุ่นอยู่กับบ้าน สภาวการณ์ทางเศรษฐกิจสุดเลวร้าย โจทย์มหาวิกฤติ “สงครามโลก” กดทับ “สงครามโรค”

โจทย์โคตรหิน มันเกินมือ เกินกึ๋น “ผู้นำทหารอาชีพ” จริงๆ

ตามอาการแบบที่เห็นลูกมั่ว สภาพมวยเมาหมัด งัดวิชา “เศรษฐศาสตร์ห้องแถว” แก้ปัญหาอย่างไร้แบบแผน ทำได้แค่แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ น้ำมันแพงก็ให้เลิกใช้รถส่วนตัวมาใช้บริการรถขนส่งสาธารณะ มะนาวขึ้นราคา ก็ให้ใช้มะขามเปียกแทน

พอจนแต้มจริงๆก็อ้างมันเป็นกันทั้งโลก โอดครวญเสียงด่าทำคนทำงานเสียกำลังใจ

ในเครื่องหมายคำถามย้อนกลับ ใครบังคับให้ทู่ซี้อยู่

รู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจว่าลำพังฝีมือบริหารแค่นี้ มันลากเศรษฐกิจไปไม่ไหว ผู้นำรับผิดชอบปากท้องประชาชนไม่ได้ แต่ตรงกันข้ามกับความพยายามอย่างยิ่งยวดในการเดินหมากทางการเมือง

เดินเหลี่ยมคู ถูลู่ถูกังลากเกมอำนาจกันสุดแรงเกิด

ประชาชนอยู่ได้ไม่ได้ ไม่รู้ แต่ผู้นำทำทุกวิถีทางเพื่ออยู่ยาว จากที่เคยถือยศถืออย่าง อหังการอยู่บนหอคอยงาช้าง ต้องยอมเดินสายนัดกินข้าวกับพรรคร่วมรัฐบาล

...

ตอกย้ำสถานะ “เพื่อนกิน” กับพรรคใหญ่

แล้วก็ยังต้องวิ่งรอกเอาอกเอาใจพรรคเล็ก เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน ไล่อุดรูรั่วจากที่โดน “ตัวป่วน” อย่าง “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ศัตรูคู่อาฆาต ยั่วจนหัวหมุน

ปั่นเกม “เสียงเดียวก็เสียวได้” กับสถานะผู้นำไร้ฐาน ส.ส. “บิ๊กตู่” กุมสภาพเสียงข้างมากในสภาผู้แทน ราษฎรไม่ได้

และถึงนาทีนี้แล้ว ก็ให้มันรู้กันไปเลยว่า ใครคือ “นายกฯตัวจริง”

ถึงจังหวะ “บิ๊กบราเธอร์” โชว์ดุลอำนาจ เป็นความตั้งใจ ไม่ใช่พลาดหลุด “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ ประกาศกลางวงเลี้ยงกล้วยส.ส.พรรคเล็ก

ปักหมุดคิว “ยุบสภา” จะเกิดขึ้นหลังประชุมเอเปก เดือนพฤศจิกายนปลายปีนี้จุดประทัดเสียงดัง สามล้อฮา ขี้ยาฮือ

เจอเหลี่ยมพี่ใหญ่ “แย่งคิว” มากกว่า “ผิดคิว” พล.อ.ประยุทธ์ต้องออกมากู้หน้าทันทีทันควัน ยืนยันอำนาจยุบสภาอยู่กับตัวเอง จะตัดสินใจเองในช่วงเวลาที่เหมาะสม

อารมณ์นี้ก็ยิ่งตอกย้ำ แม้แต่ในพี่น้อง 3 ป. ยัง “เผลอ” ไม่ได้

แต่จุดที่ต้องจับตา กับไพ่ใบสำคัญที่ “บิ๊กป้อม” ตีออกมา ในอีกมุมหนึ่งมันคือระบายแรงกดดัน ผ่อนแรงกระแทกรัฐบาล โดยเฉพาะสถานการณ์มรสุมหลังเปิดสมัยประชุมสภาเดือนพฤษภาคม

เงื่อนเวลาวัดใจที่ “บิ๊กตู่” ต้องแทงหวย จะล้มกระดานก่อนหรือเสี่ยงไปหลุดเก้าอี้คาสภา

การที่ “พี่ใหญ่” โยนไพ่ออกมา เท่ากับเป็นสัญญาณบอกพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้าน รวมถึงแนวต้านอำนาจ 3 ป. นอกสภาได้รู้กำหนดเวลาถอนสมอของเรือเหล็กสนิมเขรอะ

บอกจุดหมายปลายทางล่วงหน้า พวกแช่งจะได้เลิกจุดธูปไล่

อีกทางหนึ่งก็เป็นการส่งซิกให้พรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ จะได้รู้จังหวะ “ไอ้เสือถอย” มีเวลาขนกล้วย ตุนกระสุนดินดำใส่ตู้เสบียง

กอดคอนับถอยหลังก่อนจบสถานะ “เพื่อนกิน” แต่ที่จะเป็นปัญหาคือพรรคเล็ก ตามข่าวที่ “พี่ใหญ่” ส่งซิกสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์หาร 100

ค่ายต่ำเอี่ยว เอี่ยวต่ำ ต้องดิ้นหนีตายกันเอง

มันเท่ากับ โอกาสสุดท้ายของพวก “ปัดเศษ” เลือกตั้งรอบหน้าไร้ความหวัง ก็ต้องเร่งกอบโกยในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ นั่นหมายถึงการโหวต ประชุมแทบทุกนัด ต้องแจกกล้วย

ขนตู้เสบียงไปสแตนด์บายที่รัฐสภากันเลย.

“ตะวัน ทรงกลด”