ศบค.เน้นย้ำ ขอประชาชน กลุ่มเสี่ยง-สูงอายุ-โรคเรื้อรัง-เด็กเล็ก เร่งมาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ก่อนถึงสงกรานต์ ป้องกันโควิด-19 ยัน ลดเสียชีวิต-ป่วยหนักได้ ย้ำ ชัด "โอมิครอน" รุนแรงน้อยกว่า "เดลตา"  

วันที่ 7 มี.ค. เมื่อเวลา 12.30 น. แพทย์หญิงสุมณี วัชรสินธุ์ ผู้ช่วยรองโฆษก ศบค. และ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการแถลงสถานการณ์ประจำวัน การระบาดของเชื้อโควิด-19 ว่า ช่วงนี้เป็นการติดเชื้อโควิด-19 โอมิครอน ยังเป็นขาขึ้นของทวีปเอเชีย ส่วนไทยติดเชื้อสะสมใน 7 วัน เป็นอันดับ 18 ของโลก การติดเชื้อ 2 ระบบ จำนวนผู้ติดเชื้อยังทรงๆ วันนี้พบผู้ติดเชื้อประมาณกว่า 4 หมื่นราย ทั้งนี้ ขอความร่วมมือ จนท.คัดกรองผู้มีอาการน้อยให้รักษาที่บ้าน เพื่อสำรองเตียงให้ผู้ป่วยอาการหนัก วันนี้มีรายงานมีผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 65 คน ซึ่งสูงสุดในการระบาดโควิดโอมิครอน ในระลอกนี้ โดยมีค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 49 คนต่อวัน ขณะจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวัน ยังเป็นขาขึ้น แต่อัตราการติดเชื้อ ไม่ได้พุ่งกระฉูดมาก ยังอยู่ในระดับทรงๆ

...

แพทย์หญิงสุมณี กล่าวต่อว่า จากกรณีหลายจังหวัดบริเวณชายแดนช่วงนี้ พบมีการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น จากแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศไทยมา ก็ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากพบกรณี แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามา ให้แจ้ง จนท.เพื่อนำไปคัดกรอง ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด จากกรณีดังกล่าว

ผู้ช่วยรองโฆษก ศบค.กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ขอยืนยัน กรณีอัตราครองเตียงของผู้ป่วยอาการปอดอักเสบ ภาพรวมทางศบค.ยังสามารถรับมือได้ เพราะยังอยู่ที่ประมาณ 30% ส่วนอัตราครองเตียงทั่วประเทศ ทุกเตียง ทั้งสีเขียว สีเหลือง สีแดง ยืนยัน ยังสามารถรับมือได้เช่นกัน สำหรับผู้เสียชีวิต 65 คน ของวันนี้ พบว่ามีถึง 65% ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนเลย 

ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ ยังกล่าวอีกว่า จากการวิเคราะห์ จำนวนผู้เสียชีวิตรายวัน พบว่า ช่วงนี้ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของทวีปยุโรป ถึงจุดสูงสุด และกำลังลดลง ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตติดเชื้อ ช่วงโควิดสายพันธุ์เดลตาระบาดมีมากกว่า โควิดสายพันธุ์โอมิครอน อย่างชัดเจน โดยมีปัจจัยการได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ทำให้อัตราเสียชีวิตลดน้อยกว่า ช่วงเชื้อเดลตาระบาด สรุปการระบาดของเชื้อโควิด-19 โอมิครอน มีจำนวนผู้เสียชีวิตน้อยกว่าเดลตา โดยปัจจัยช่วยลดการเสียชีวิต คือ การได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ดังนั้น ก่อนถึงช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ที่จะถึงนี้ ซึ่งมีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน ก็ขอให้กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มมีโรคเรื้อรัง กลุ่มเด็กเล็ก ให้เร่งมารับวัคซีนในทุกเข็ม เพิ่มขึ้น 

ทั้งนี้ ศบค. ขอพี่น้องประชาชน สถานที่เฝ้าระวัง ขนส่งสาธารณะ และสถานีขนส่งทั้งหมด ที่บ้าน ร้านอาหาร วัด หรือสถานที่ทำกิจกรรมร่วมกัน สถานที่ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ขอให้อยู่ภายใต้มาตรการความปลอดภัย VUCA อย่างเคร่งครัด

"ขอเน้นย้ำ ให้เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น กลุ่ม 607 และในกลุ่มเด็ก ที่เริ่มปิดเทอมมากขึ้น มีความเสี่ยงเด็กที่จะไปรวมตัวกัน ทำกิจกรรม สถานที่เสี่ยง คือ สถานที่เล่นเกม ซึ่งพ่อแม่ต้องคอยดูว่า เด็กๆ ไปสถานที่เสี่ยงเหล่านี้หรือไม่ ขอพ่อแม่ได้สังเกตดู ถ้าเด็กไปทำกิจกรรมที่ไหน แล้วหากพบมีอาการไอ เป็นไข้  ก็ให้ตรวจ ATK ด้วยทันที" ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว...