ม็อบรถบรรทุกไล่ “สุพัฒนพงษ์” หน้ากระทรวงพลังงาน ลั่นพร้อมปรับขึ้นค่าขนส่งทันที 15-20% ขอโยนให้รัฐบาลแบกรับปัญหาไว้บ้าง ประกาศปักหลักค้างคืน

เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 8 ก.พ. 2565 นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย นำแถลงข่าวที่หน้ากระทรวงพลังงาน ถึงการจัดกิจกรรม Truck Power ว่า ที่ผ่านมามีการเจรจากับตัวแทนกระทรวงพลังงานมาแล้ว 2-3 ครั้ง และระหว่างนั้นที่เงียบไปไม่ใช่รับกล้วย แต่ได้รับการร้องขอเจ้าหน้าที่รัฐว่าช่วงเจรจาขอให้หยุดการเคลื่อนไหว 15-20 วัน จนได้คำตอบที่ไม่รับข้อเรียกร้อง จึงต้องจัดการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของรถบรรทุก แต่หากยังไม่ได้รับการแก้ไขก็จำเป็นที่จะต้องเอาภาคประชาชนมาลงถนน วันนี้รถที่เข้ามาร่วมแสดงสัญลักษณ์มาจากทุกภาคของประเทศ และพร้อมเปิดเผยกลไกโครงสร้างน้ำมันผ่านการปราศรัย พร้อมลั่นว่าจะค้างคืนแน่นอน

ทั้งนี้ รถบรรทุกกว่า 4 แสนกว่าคัน ไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในกรุงเทพฯ แต่ต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ จึงเดินทางมาเพียงส่วนหนึ่ง พร้อมประกาศชัดๆ ว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ไม่สมควรที่จะอยู่ในตำแหน่งนี้แล้ว ผลงานคือแพงทั้งแผ่นดิน พิสูจน์แล้วว่าไม่มีกึ๋น มองข้ามภาคประชาชน ภาคการขนส่ง ถามว่าถ้าหยุดการขนส่งจะเอารถอะไรขนสินค้าอุปโภคบริโภค การเลือกปฏิบัติเปรียบเสมือนเราเป็นพลเมืองชั้น 2 ทั้งที่เสียภาษีเช่นกันแต่กลับไม่ได้รับการชดเชยอุ้มชู น้ำมันดีเซลเป็นหัวใจสำคัญแต่ก็ไม่เคยถูกปรับลดการจัดเก็บภาษีน้ำมันเหมือนอย่างที่ช่วยเครื่องบิน

...

นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย

จากนั้น นายอภิชาติ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่าจะไม่เรียกร้องราคาน้ำมัน แต่จะมาขับไล่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ไม่ดูแลทุกข์สุขประชาชน ภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่ 5.99 บาท ก็ไม่เคยปรับลด จึงจำเป็นต้องมาแสดงออกเช่นนี้ ที่ผ่านมาจัดกิจกรรมมาหลายครั้ง ถ้าถูกกดดันมากๆ ตนเองก็จำเป็นต้องถอดหมวกประธานสหพันธ์ฯ มาเดินถนน ฉะนั้นยังไม่สายเกินไป วันนี้เรามาสะท้อนปัญหา ถ้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานหันกลับมาดูแลความเดือดร้อน และหลังจากนี้อีก 7 วัน หากยังไม่มีการตอบรับ เชื่อว่าภาคประชาชนจะออกมาเคลื่อนไหว

ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าไม่มีงบประมาณเพียงพอ โดยนายอภิชาติ ถามกลับว่า อดีตที่ผ่านมาน้ำมันดีเซลเคยขึ้นถึง 40 บาทต่อลิตร แต่หลายรัฐบาลก็ลดภาษีสรรพสามิตทันที แต่ข้อเรียกร้องและสิ่งที่สะท้อนไปยังรัฐบาลนี้ไม่เคยได้รับการพิจารณาแม้แต่ครั้งเดียว เศรษฐกิจประเทศต้องเดิน จะเอาแต่กู้เงินอย่างเดียวลูกหลานในอนาคตจะทำอย่างไร เรามีเหตุและผล ในยุคโควิด-19 กำลังย่ำแย่ รัฐบาลกู้อย่างเดียว แจกอย่างเดียว เศรษฐกิจจะไปได้อย่างไร พร้อมขอให้รอฟังการปราศรัยในวันนี้ต่อไป

“จากนี้อีก 7 วัน ถ้ายังไม่มีมาตรการรัฐมนตรีจำเป็นต้องพิจารณาตัวเอง และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ ส่วนภาคขนส่งก็จำเป็นต้องปรับราคาขึ้นแล้ว เราส่งสัญญาณถึงรัฐบาลมาตลอด รัฐบาลนี้ไม่มีประสิทธิภาพและวิสัยทัศน์บริหารประเทศ เรากำลังจะพิจารณาปรับค่าขนส่งตั้งแต่ 15-20% เพราะจุดคุ้มทุนอยู่ที่น้ำมันดีเซลลิตรละ 25 บาท แต่เมื่อน้ำมันราคา 30 บาท สิ่งต่างๆ ขึ้นราคา แต่รัฐบาลไม่มีการแก้ไข ไม่ออกมาควบคุม รัฐบาลนี้ห่วงแต่เก้าอี้ ไม่ห่วงสวัสดิภาพความทุกข์ร้อนประชาชน อย่าเอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน และอยากขอร้องให้ชะลอการผสมน้ำมันไบโอดีเซลระยะหนึ่ง รัฐบาลบอกต้นทุนน้ำมันอยู่ที่ 34 บาท เป็นการบริหารที่ผิดพลาด สหพันธ์ฯ เคยเรียกร้องหลายรัฐบาลก็ปรับลงทันที จึงจำเป็นที่ต้องออกมาขับไล่”

เมื่อถามย้ำว่าการปรับขึ้นค่าขนส่งจะเริ่มเมื่อไรนั้น นายอภิชาติ ระบุว่า เริ่มทันที เพราะเราเสนอแผนต่างๆ ให้รัฐบาลเข้าใจ แต่รัฐบาลไม่เข้าใจและไม่รับ ที่ผ่านมาผู้ประกอบการขนส่งสามารถปรับได้ทันทีแต่ยังไม่ปรับเพราะประชาชนจะเดือดร้อน แต่ตอนนี้จะปรับราคาขึ้นเพื่อโยนปัญหาให้รัฐบาลถือไว้บ้าง เอาไปแก้ไข แต่ถ้าน้ำมันลงเราก็ปรับลง แม้จะเสนอไป 27 บาทต่อลิตร ก็ยังไม่ตอบรับ และเมื่อปรับค่าขนส่งขึ้นราคาสินค้าก็มีโอกาสปรับขึ้นตาม ถ้าประชาชนเดือดร้อนก็ต้องมาเรียกร้องรัฐบาล

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีบอกไม่สามารถเอาเงินส่วนร่วมมาแก้ได้นั้น ก็ไม่จำเป็นต้องเอาเงินกองทุนน้ำมันมา แต่อยากถามว่าเงินที่เก็บเข้ากองทุนน้ำมันหลายหมื่นล้านบาทไปไหน พอเงินกองทุนหมดก็จะกู้ อีกทั้งมองว่ารัฐบาลกำลังโกหกคำโตกับประชาชน จากนั้นกิจกรรมเริ่มเข้าสู่การปราศรัยบนเวทีที่จัดขึ้นบนรถบรรทุก

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวในวันนี้มีกลุ่มแท็กซี่มาร่วมแสดงออกด้วย โดยเรียกร้อง 3 ข้อ คือ ขอให้ลดราคา LPG, NGV ในช่วงเวลาสั้นๆ เพราะไม่สามารถขึ้นค่าโดยสารได้, ขอให้ช่วยหาสินค้าราคาถูกจำหน่ายให้ประชาชนที่มีผลกระทบ ให้ครอบครัวแท็กซี่ได้ซื้อสินค้าราคาถูก และขอให้รัฐบาลจัดหาถุงยังชีพ รวมถึงมาตรการที่ชัดเจนด้านพลังงาน.