“ธนกร” เผย “พล.อ.ประยุทธ์” พอใจผลสำรวจซุปเปอร์โพล ประชาชนโหวตเป็นนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่น่าประทับใจ โว โครงการรัฐช่วยเยียวยาได้จริง พร้อมกระตุ้นใช้จ่ายและเศรษฐกิจปลายปี

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยวันนี้ (20 ธ.ค. 2564) ว่า จากกรณีที่สำนักวิจัยซุปเปอร์โพล สำรวจด้านการเมืองภาพใหญ่ที่สุดแห่งปี 2564 โดยประเด็นนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่น่าประทับใจและน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 อันดับแรก ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สะท้อนว่า ประทับใจและพอใจการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ด้วยผลงานที่ประสบความสำเร็จมากมาย การแก้ไขปัญหาจากวิกฤตการณ์ต่างๆ เช่น การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ดำเนินมาตรการต่างๆ ด้วยการรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เดินหน้าเปิดประเทศขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้
 
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ พอใจหลังจากผลสำรวจดังกล่าว ยังระบุถึงผลงานของรัฐบาลที่น่าประทับใจ และน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 ใน 3 อันดับแรก ได้แก่

  • โครงการคนละครึ่ง ร้อยละ 50.4
  • โครงการเพิ่มกำลังซื้อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ร้อยละ 12.6
  • โครงการประกันรายได้เกษตรกร ร้อยละ 11.4

สะท้อนว่ารัฐบาลมาถูกทางในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทย

ในส่วนของมาตรการใช้จ่ายลดค่าครองชีพจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของรัฐทั้ง 4 โครงการ ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง เฟส 3, โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้, โครงการเพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ โดยความคืบหน้า (ข้อมูล ณ วันที่ 18 ธ.ค. 2564) ผู้ใช้สิทธิ์สะสม 41.44 ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสมรวม 236,787.4 ล้านบาท แบ่งเป็น

...

1. โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิ์สะสม 26.31 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 206,934.2 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 105,235.9 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 101,698.3 ล้านบาท

2. โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 91,952 คน ยอดใช้จ่ายส่วนประชาชนสะสม 3,795 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายด้วย e-voucher สะสม 295.5 ล้านบาท

3. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิ์สะสม 13.55 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 23,638.2 ล้านบาท

4. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิ์สะสม 1.49 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 2,124.5 ล้านบาท

สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ที่ขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรีแพลตฟอร์ม ล่าสุดมีจำนวนกว่า 80,000 ราย ประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564  
 
“นายกรัฐมนตรี พอใจผลสำรวจความประทับใจของประชาชนที่มีต่อตัวเอง ผลงานของรัฐบาล และนโยบายโครงการต่างๆ โดยเฉพาะคนละครึ่ง เฟส 3 ทำภาพรวมเศรษฐกิจช่วงปลายปีดีขึ้น รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดในภาพรวมเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และคนไทยได้รับการฉีดวัคซีนกว่า 99 ล้านโดสแล้ว สถานประกอบการได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เชื่อว่าคนไทยจะออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศและมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ ประชาชนที่ลงทะเบียนคนละครึ่ง เฟส 3 และยิ่งใช้ยิ่งได้ ไว้ สามารถใช้สิทธิ์ได้ถึงวันที่ 31 ธ.ค. นี้ เชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชน และสร้างเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจช่วงปลายปีได้เป็นอย่างดี”.