นายกฯ สั่งเร่งเครื่องเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้าย เผยแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น ท่องเที่ยว-ลงทุน-ส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 65 โตร้อยละ 4 แม้ขณะนี้มีโควิดโอไมครอน

วันที่ 30 พ.ย. 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้เร่งรัดการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจในไตรมาสสุดท้ายของปีให้เป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมรับทราบรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ต.ค. 2564 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน จากการผลักดันการเปิดประเทศที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากภาคการลงทุนและการส่งออกเริ่มส่งสัญญาณทิศทางที่ดีขึ้นเช่นกัน

ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) รายงานผลการเบิกจ่ายงบลงทุนในปี 2564 ณ สิ้นเดือน ต.ค. 2564 มีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม จำนวน 269,883 ล้านบาท หรือคิดเป็น 89% ของแผนการเบิกจ่ายสะสม และสำหรับผลการเบิกจ่ายงบลงทุนในปี 2565 สำหรับรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ ที่ได้เริ่มการเบิกจ่ายงบลงทุนปีงบประมาณ 2565 มา 1 เดือน (ต.ค. 2564) มีผลการเบิกจ่าย 3,222 ล้านบาท หรือคิดเป็น 47% ของแผนการเบิกจ่ายสะสม

ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจที่สามารถเบิกจ่ายได้ตามแผนและมีการเบิกจ่ายสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), การรถไฟขนส่งมวลแห่งประเทศไทย (รฟม.), การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) โดยโครงการขนาดใหญ่สำคัญที่เบิกจ่ายได้ตามแผน อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี (รฟม.) ผลการเบิกจ่าย 14,273 ล้านบาท คิดเป็น 105% ของการเบิกจ่ายต่อแผน โครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต (รฟท.) ผลการเบิกจ่าย 8,327 ล้านบาท คิดเป็น 117% ของการเบิกจ่ายต่อแผน เป็นต้น นอกจากนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ยังรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ต.ค. 2564 พบว่าเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้น ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวภายในประเทศและการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งการส่งออกสินค้าขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 อีกด้วย

...

ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนก็มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร นำเข้าสินค้าทุนในเดือน ต.ค. 2564 ขยายตัวที่ร้อยละ 21.8 ต่อปี มูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ เดือนเดียวกัน อยู่ที่ 22,738.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ที่ร้อยละ 17.4 ต่อปี

นอกจากนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจก็มีทิศทางดีขึ้น ด้านการท่องเที่ยวในเดือน ต.ค. มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประเภทพิเศษ นักท่องเที่ยวกลุ่มสิทธิพิเศษ (Thailand Privilege Card) นักธุรกิจ กลุ่มสุขภาพที่เข้ามารับบริการทางการแพทย์ในประเทศไทยรวม 20,272 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากเยอรมนี สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยอยู่ที่ 4,596,227 คน 

“ทุกภาคส่วน ทั้งรัฐวิสาหกิจและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เร่งรัดเบิกจ่ายรัฐวิสาหกิจและส่งเสริมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในมิติต่างๆ อัดฉีดเงินสู่ระบบในช่วงโค้งสุดท้ายของปีเพื่อรักษาโมเมนตัมการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ซึ่งหลายฝ่ายรวมทั้งกระทรวงการคลังยังยืนยันประเมินการเติบโตเศรษฐกิจไทยในปี 65 อยู่ที่ร้อยละ 4 แม้ไวรัสโควิด-19 จะมีการกลายพันธุ์ ซึ่งทั่วโลกขณะนี้ รวมทั้งประเทศไทยโดยนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. สั่งให้มีมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน อย่างเด็ดขาดด้วย”.