"เศรษฐพงค์" กางแผน "Digital Transformation" ชู "Data Center" เป็นจิ๊กซอว์ตัวแรก ชี้ ระบบ Cyber security ต้องนิ่ง-เชื่อถือได้ แนะแสวงหาความร่วมมือต่างองค์กร เพื่อการป้องกันที่ดีที่สุด

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 64 พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการการผลักดันนโยบายการปรับโครงสร้างด้านดิจิทัล (Digital Transformation) กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ โดยได้หารือกันถึงองค์ประกอบต่างๆ ในการปรับโครงสร้างด้านดิจิทัล โดยเรื่องแรกที่เราให้ความสำคัญ คือ การส่งเสริมให้เกิดธุรกิจ Data center เหมือนเป็นจิ๊กซอว์ตัวแรกในการปรับโครงสร้าง โดยเราได้เชิญสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ หรือ สกมช.มาร่วมชี้แจง เนื่องจาการดำเนินการเรื่อง Data center ระบบความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ต้องมั่นคงเชื่อถือได้ เราต้องดูว่าหากจะทำแล้วเรื่องความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ต้องลงลึกถึงขนาดไหน เราได้มีข้อห่วงใยต่างๆ เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะในแง่ข้อกฎหมายเรามี พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ปี 62 แต่บางอย่างก็ไม่เจน เช่นว่าปัจจุบันนี้การสร้าง Data Center ทั้งในหน่วยงานรัฐเพื่อใช้ในกิจการตนเอง หรือองค์กรภาคธุรกิจต่างๆ ก็มีการสร้าง รวมทั้งผู้ให้บริการตามใบอนุญาตของ กสทช.ตรงนี้จะนับว่าอย่างไรว่าองค์กรใดอยู่ในกำกับของ สกมช. 

พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีประเด็นว่าองค์กรที่มี Data Center เช่น Facebook, Google, Microsoft ที่มี Data Center อยู่ต่างประเทศ จะมีแนวโน้มย้ายมาอยู่ในประเทศได้หรือไม่อย่างไร รวมถึงข้อห่วงใยในกรณีเป็นเหตุจำเป็นเร่งด่วน เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับวิกฤติ เราสามารถดำเนินการได้ทันทีหรือไม่อย่างไร ซึ่งทาง สกมช.ก็ได้ชี้แจงในภาพรวมกว้างๆ ถึงการรักษาความมั่นคงฯมีการขั้นตอนปฏิบัติและระดับความร้ายแรงอยู่ สามารถดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องมีหมายศาลในบางกรณี และ สกมช.ก็มีแผนในการตรวจอุปกรณ์ในระดับโครงข่าย เพื่อความมั่นคงปลอดภัยฯ ซึ่งอยู่ในช่วงการรองบประมาณ 

...

"การกำกับดูแลความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ไม่ควรจะเป็นลักษณะ Top/Down เท่านั้น หรือเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐแต่เพียงอย่างเดียว แต่ควรเป็นการแสวงหาความร่วมมือ ร่วมรับผิดชอบกับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วย อย่างน้อยไม่ใช่การยึดถือตามตัวหนังสือในกฎหมายเท่านั้น ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ในการรักษาความมั่นคงฯ ที่ดีกว่า และควรคำนึงการครอบคลุมไปถึงจริยธรรมในการทำธุรกิจด้วย เพื่อก่อให้เกิดความเชื่อถือและความมั่นใจได้ต่อองค์กรกำกับดูแล" พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว 

พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า ในการประชุมครั้งต่อไปเราจะหารือถึงเรื่อง green technology เนื่องการการทำ Data center ต้องใช้พลังงานเยอะมาก แล้วจะมีปัญหาเรื่องมลภาวะตามมาได้ ดังนั้นจะต้องมีการศึกษาเตรียมความพร้อม เพื่อไม่ให้กระทบกับสิ่งแวดล้อม และกระทบต่อการอยู่อาศัยของพี่น้องประชาชน ดังนั้นทิศทางที่เราจะต้องผลักดันเมื่อมีการทำ Data Center คือ การขับเคลื่อนด้วย green technology ซึ่งประเทศไทยต้องนำเรื่องดังกล่าวใส่ไว้ในแนวนโยบายในการดำเนินการดาต้าเซ็นเตอร์ เราเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญไทยต้องทำให้นิ่งและมีความชัวร์ รัฐต้องเตรียมพร้อมให้ดีที่สุด.